กำปั้นไทยหายห่วง มวยคัด อลป.ใช้กรรมการต่างทวีปตัดสิน

“บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬามวย ไม่ห่วงเรื่องกรรมการเพราะมีการแยกทวีปชัดเจน กรรมการแต่ละทวีปจะถูกห้ามลงทำหน้าที่ในทวีปของตัวเอง เพื่อป้องกันการตัดสินที่โอนเอียง ส่วนเราจะไปถึงเป้าหมายหรือไม่อยู่ที่ตัวนักกีฬาและการวางแผน ลึกๆยังมั่นใจเป็นไปตามเป้าคว้าโควตาได้ 4-5 รุ่น ด้าน “แคมป์” นายไกรทัต แก้วเกศ ผู้จัดการทีม พอใจการเป็นเจ้าภาพของจอร์แดนทำได้ดี มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมีการสแกนก่อนเข้าโรงแรม รวมถึงอำนวยความสะดวกกับทุกชาติได้เป็นอย่างดี

ความเคลื่อนไหวทีมกำปั้นเสื้อกล้ามชาย-หญิงไทย ที่เดินทางมาร่วมการแข่งขันมวยสากลคัดเลือกโอลิมปิก 2020 โซนเอเชีย/โอเชียเนีย ที่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน ภายใต้การนำทัพของ “แคมป์” นายไกรทัต แก้วเกศ ผู้จัดการทีม โดยสมาคมมวยส่งหมัดไทยลงล่าโควตาเต็มอัตรา 11 คน แบ่งเป็น นักชกชาย 6 คน และหญิง 5 คน ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 5 ชม. สภาพอากาศในช่วงเช้าประมาณ 15-16 องศาฯ ส่วนในช่วงเย็นและค่ำประมาณ 10-12 องศาฯ ขุนพลเสื้อกล้ามไทยทั้งชายหญิงยังคงซ้อมตามโปรแกรมที่วางไว้ ช่วงเช้าจะซ้อมที่ยิมที่เจ้าภาพจัดไว้ ภายใต้การคุมเข้มของ ฮวน ฟอนตาเนียน เฮดโค้ชไทยชาวคิวบา ด้วยการประกบคู่ทบทวนเชิง ชกลม และชกเป้า ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.เศษ

ทั้งนี้ “แคมป์” นายไกรทัต แก้วเกศ ผู้จัดการทีม เปิดเผยว่า แม้จอร์แดนจะรับเป็นเจ้าภาพแบบเร่งด่วนแทนเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ที่มีการแพร่ระบาดในเรื่องไวรัสโควิด-19 อย่างหนักถึงขนาดต้องปิดเมือง แต่ภาพรวมนับว่าจัดได้เป็นอย่างดีมีความพร้อมในทุกๆเรื่อง ตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาถึงทางเจ้าภาพได้ดูแลความสะดวกกับทุกชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันเป็นอย่างดี มีรถไปรับนักกีฬาจากสนามบินส่งถึงโรงแรมที่พัก พร้อมกับอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีการตรวจตราความปลอดภัยผู้คนรวมถึงนักกีฬาต้องผ่านเครื่องสแกนก่อนเข้าโรงแรม ส่วนเรื่องความพร้อมของนักมวยทีมชายหญิงนั้น ถึงตอนนี้เกินร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะเราเตรียมการมาตลอด แม้การแข่งขันจะเลื่อนจัดแต่เราก็ได้วางแผนรับมือมีการจัดเทรนนิ่งแคมป์กับนักชกแถวหน้าในช่วงเดือน ก.พ. เพื่อให้ได้ตามทัวร์นาเมนต์เดิมที่มีแข่งขัน ในส่วนตัวนักกีฬาตอนนี้ทุกคนมีสภาพที่ฟิตมากไม่มีเจ็บป่วย เรื่องน้ำหนักตัวก็ได้ตามที่ทางสตาฟฟ์โค้ชวางไว้

ทั้งนี้ ตนได้มีการรายงานการฝึกซ้อมและพูดคุยหารือกับทางนายกสมาคม “พิชัย ชุณหวชิร” อยู่ตลอด ซึ่งทางนายกให้ความเป็นห่วงนักกีฬาอย่างมากมีการถามเรื่องการฝึกซ้อมและสุขภาพร่างกาย โดยตัวนายกกับเลขา พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา จะเดินทางมาถึงวันที่ 4 มี.ค. ส่วนนายสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานเทคนิค จะเดินทางมาถึงประมาณวันที่ 7 มี.ค.

อย่างไรก็ตาม จากที่ตนพูดคุยกับประธานเทคนิค ในเรื่องของการตัดสินที่หลายคนเป็นห่วง โดย “บิ๊กชาย” กล่าวว่า ไม่ค่อยห่วงในเรื่องของการตัดสินครั้งนี้เท่าไหร่ เพราะทางไอโอซีเข้ามาดูแลด้วยตัวเองเหมือนเมื่อตอนยูธโอลิมปิกเกมส์ ที่อาร์เจนตินาและเยาวชนโลก ที่ฮังการี เพราะกรรมการทั้งหมดจะถูกทางไอโอซีประเมินว่าใครที่เหมาะสมและพร้อมที่จะไปตัดสินที่โตเกียวเกมส์ต่อ ดังนั้น ทุกคนต้องทำหน้าที่เป็นอย่างดีมีความยุติธรรมมิเช่นนั้นอาจชวดไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ก็ได้ ที่สำคัญในการคัดเลกหนนี้ กรรมการแต่ละทวีปจะไม่มีสิทธิ์ลงทำหน้าที่ในโซนของตัวเอง อาทิ การคัดเลกโซนเอเชียก็จะไม่มีกรรมการที่มาจากชาติในเอเชียทำหน้าที่แต่จะเป็นกรรมการจากทวีปอื่นมาแทน

หากเป็นแบบนี้ทำให้สบายใจได้ว่าเราจะไม่โดนกระทำ การตัดสินจะเป็นไปตามเนื้อผ้า นอกจากนี้เรายังมี “อ.เค้ก” ไพบูลย์ ศรีชัยสวัสดิ์ ที่ไปทำหน้าที่ประเมินผู้ตัดสินในการคัดเลกของแต่ละทวีปทั้งแอฟริกา ยุโรป อเมริกา รวมถึงเลกสุดท้ายที่ฝรั่งเศสด้วย ตรงจุดนี้ทำให้สบายใจได้ว่าโอกาสที่เราจะถูกกลั่นแกล้งแทบจะปิดประตูได้เลย เพราะทุกชาติต้องเกรงใจและรู้จักกับ อ.เค้ก เป็นอย่างดี คราวนี้ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่ที่การเตรียมการและฝีมือของนักมวยล้วนๆ ว่ามีดีพอหรือไม่สำหรับการล่าโควตาทั้ง 2 เลก อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจเราจะได้ตามเป้าหมายที่ วางไว้ ประธานเทคนิคกล่าวตอนท้าย