ตองเจ
“ไวรัสโควิด-19” ถือเป็นปัญหาที่ทั่วโลกหวาดกลัวตอนนี้ เพราะมีการแพร่ระบาดอย่างหนักในหลายประเทศถึงขนาดต้องสั่งปิดเมืองเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคมีการแพร่กระจายไปมากกว่านี้
ถึงตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะควบคุม “ไวรัส” ชนิดนี้ได้มากน้อยแค่ไหน และจะรักษาให้หายขาดได้เมื่อไหร่ ก็ได้แต่ฝากเตือนว่าเดินทางไปไหนที่ต้องพบเจอกับผู้คนจำนวนมากควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกันไว้ก่อนน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ส่วนในวงการกีฬาปัญหาใหญ่ที่ดังไม่แพ้ “ไวรัสโควิด” น่าจะเป็นเรื่องที่สมาคมยกน้ำหนักส่อโดนแบนห้ามลงแข่งในระดับนานาชาติ หลังสหพันธ์ยกน้ำหนักโลกตรวจพบนักยกน้ำหนักไทยร่วม 10 คน ตรวจพบการใช้สารต้องห้าม “สารโด๊ป”
จนเป็นเหตุให้สมาคมยกเหล็กไทยที่ตอนนั้นยังเป็น “เจ๊บุษ” บุษบา ยอดบางเตย นั่งเก้าอี้นายก สั่งสอบสวนภายในสมาคมเพื่อหาต้นสายปลายเหตุว่ามาจากไหน พร้อมกับพิจารณาตัวเองด้วยการลาออกจากนายกสมาคม เพื่อให้ภาพพจน์ออกมาดีที่สุด
แม้สุดท้ายจะตรวจพบว่าการใช้สารโด๊ปมาจากโค้ชที่ใช้เจลทาตัวให้กับนักกีฬา
และทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้สวยหลัง “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย เข้าคุยกับประธานสหพันธ์ยกเหล็กโลก เพื่อให้ลงโทษโค้ชแทนที่จะลงโทษสมาคมที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่
แต่ใครจะรู้ว่าในสถานการณ์ที่กำลังไปได้สวย และจะมีการตัดสินในเดือน มี.ค.นี้ จู่ๆในการประชุมไอโอซี ที่สวิตเซอร์แลนด์ที่ผ่านมา ดันมีการเผยแพร่สารคดีในเรื่องการใช้สารต้องห้ามของนักข่าวเยอรมันที่แอบแฝงตัวมาเก็บข้อมูลจากอดีตนักยกเหล็กไทยเกี่ยวกับการใช้สารต้องห้ามเข้าอย่างจัง
ทำให้ทางไอโอซี ต้องทำการสอบสวนใหม่และมีการพักงานตัวประธานของสหพันธ์เพื่อสืบสวนหาข้อมูลที่แท้จริง รวมถึงสาเหตุของการใช้สารกระตุ้นในกีฬายกน้ำหนักมานานหลายปี
บอกได้เลยว่าตอนนี้ความหวังของสมาคมยกน้ำหนักแทบจะพังทลายในพริบตาจากสารคดีของนักข่าวเยอรมัน
แต่นั่นก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่สมาคมยกเหล็กไทยกำลังจะเลือกตั้งนายกสมาคมแทน “เจ๊บุษ” ดันมีชื่อของ “เสธ.ยอด” หนึ่งใน 2 ผู้สมัครลงชิงตำแหน่งครั้งนี้
หลายคนเลยตั้งข้อสงสัยกันว่า “เสธ.ยอด กับ เจ๊บุษ” เป็นอะไรกัน
อย่าลืมนะครับ “เสธ.ยอด” เองคลุกคลีกับวงการยกเหล็กมานานหลายสิบปี แถมยังเคยนั่งเก้าอี้นายกสมาคมตัวนี้มาแล้ว
วันนี้เรื่องการใช้สารกระตุ้นเกิดขึ้นในยุคที่ “เจ๊บุษ” เป็นนายก การที่ เสธ.ยอด จะมาลงชิงตำแหน่งอีกครั้ง เชื่อว่าหลายคนก็คงมีคำถามในใจเช่นเดียวกับผม
แล้วแบบนี้ปัญหาทุกอย่างมันจะคลี่คลายลงได้อย่างไร ไม่ใช่คนไทยที่มองออกเชื่อว่าทั่วโลกต่างก็รู้เช่นเดียวกันว่าอะไรเป็นอะไร
จะทำจะคิดอะไรทั้งทีผมว่าน่าจะเนียนกว่านี้สักนิด หากต้องการให้ภาพพจน์ออกมาดี ผมว่า “เสธ.ยอด” ควรจะแสดงสปิริตไม่ขอร่วมวงลงชิงตำแหน่งนายกครั้งนี้ เพื่อให้คนอื่นเข้ามาบริหารงานน่าจะเป็นทางออกที่ดีและสง่างามมากกว่า
บอกตรงๆ ว่าผมอดหวั่นใจไม่ได้ เพราะเห็นเคสตัวอย่างประเทศรัสเซียที่โดนแบนหลายปีจากกรณีเรื่องการใช้สากระตุ้นเหมือนกัน
เชื่อว่าหาก “เสธ.ยอด” ยังดึงดันที่จะลงชิงตำแหน่งนายก ผมว่าเรื่องไม่จบและอาจบานปลายมากกว่านี้
กลัวเหลือเกินว่าอาจจะลุกลามถึงกีฬาชนิดอื่น ทั้งที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นเจ้าภาพจัดรายการใหญ่มากมาย แต่ถ้ายังมีกรณีนี้เกิดขึ้นสงสัยจะแห้วไปอีกนาน
ฝากถึง “เสธ.ยอด” ลองคิดใหม่อีกครั้งคงไม่สายเกินไป
คิดซะว่าทำเพื่อประเทศชาติแระกัน.
ตองเจ