ไทยรัฐออนไลน์
"เบน บาร์นิโคท" ยอดนักขับอังกฤษ ควบรถแข่งแอลเอ็มพีทู หมายเลข 45 จาก "ธันเดอร์เฮด คาร์ลิน เรซซิ่ง" สร้างผลงานระดับมาสเตอร์ กดเวลาทำลายสถิติ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต คว้าโพลในศึก เอเชียน เลอ มังส์ ซีรีส์ 2019-20 สนามสุดท้าย ก่อนลุ้นแชมป์ในศึก “บุรีรัมย์ 4 ชั่วโมง” 23 ก.พ.นี้...
วันที่ 22 ก.พ. 63 ศึกรถยนต์ทางเรียบเอ็นดูรานซ์ระดับโลก รายการ เอเชียน เลอ มังส์ ซีรีส์ 2019-20 เตรียมดวลความเร็วสนามสุดท้ายระหว่างวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยเรซนี้มีความหมายอย่างยิ่ง นับเป็นสนามสุดท้ายของฤดูกาล และเป็นการแข่งขันเพื่อตัดสินแชมป์ในทุกคลาส ไล่ตั้งแต่รุ่นใหญ่ แอลเอ็มพีทู (LMP2), แอลเอ็มพีทรี (LMP3) และ จีที (GT)
สำหรับการแข่งขันในรอบควอลิฟาย เพื่อจัดอันดับสตาร์ท แบ่งตามกริดของทั้ง 3 คลาส ผลปรากฏว่า ในคลาสสูงสุด แอลเอ็มพีทู "เบน บาร์นิโคท" นักขับอังกฤษ ซิ่งรถแข่งหมายเลข 45 จาก "ธันเดอร์เฮด คาร์ลิน เรซซิ่ง" กดเวลาต่อรอบมาเป็นอันดับ 1 พร้อมทุบสถิติของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 22.758 วินาที คว้าโพลไปครอง เฉือน "นิค คาสซิดี" นักขับนิวซีแลนด์ จาก "ยูเรเซีย มอเตอร์สปอร์ต" หมายเลข 25 ที่รั้งกริด 2 เพียง 0.146 วินาที ตามด้วย "นิโคลาส ฟอสเตอร์" นักขับอังกฤษ รถแข่งหมายเลข 36 ของทีมยูเรเชีย มอเตอร์สปอร์ต อีกคันในกริดที่ 3 ตามหลังหัวแถว 0.702 วินาที
ส่วนตำแหน่งโพลในคลาสแอลเอ็มพีทรี ตกเป็นของรถแข่งหมายเลข 2 จากทีม นีลเซน เรซซิ่ง ที่ขับโดย "โคลิน โนเบิล" นักขับอังกฤษ ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 29.001 วินาที อันดับ 2 รถแข่งหมายเลข 3 จาก นีลเซ่น เรซซิ่ง เช่นกัน ขับโดย "เกเรตต์ กริสต์" นักขับอังกฤษ ตามหลังหัวแถว 0.398 วินาที กริดที่ 3 "ดาวิด ทรูซ์" นักขับฝรั่งเศส จากทีม กราฟฟ์ รถแข่งหมายเลข 9 ตามหลังหัวแถว 0.542 วินาที
ด้านกริดสตาร์ทในคลาสจีที ซึ่งรวมรถแข่งซูเปอร์คาร์ไว้หลากหลาย ปรากฏว่าตำแหน่งโพลตกเป็นของรถแข่งหมายเลข 75 จากทีมทีทู มอเตอร์สปอร์ต ขับโดย "ริโอ ฮายานโต" อดีตนักขับฟอร์มูล่า วัน ชาวอินโดนีเซีย ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 32.776 วินาที เฉือนกริดที่ 2 รถแข่งหมายเลข 27 จาก ฮับ ออโต้ คอร์ซา เพียง 0.060 วินาทีเท่านั้น ส่วนกริดที่ 3 รถแข่งหมายเลข 51 จาก สปิริต ออฟ เรซ ตามหลัง 0.089 วินาที
ขณะที่สถานการณ์ลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ มีความเข้มข้นอย่างมาก โดยรุ่นใหญ่ที่สุด แอลเอมพีทู ผู้นำบนตารางแชมเปียนชิพอย่างรถแข่งหมายเลข 26 จากทีม จี-ไดรฟ์ เรซซิ่ง บาย อัลการ์ฟ โปร เรซซิ่ง มีทั้งสิ้น 56 คะแนน เหนืออันดับ 2 อย่าง รถแข่งหมายเลข 45 จาก ธันเดอร์เฮด คาร์ลิน เรซซิ่ง เจ้าของโพลเพียง 9 คะแนน
สำหรับการลุ้นแชมป์ในคลาส แอลเอ็มพีทรี จ่าฝูงอย่าง อินเตอร์ ยูโรโพล คอมเพติชั่น หมายเลข 13 มี 59 คะแนน เหนืออันดับ 2 นีลเซน เรซซิ่ง หมายเลข 2 รองจ่าฝูง เพียง 3 คะแนนเท่านั้น รวมถึงตัวสอดแทรกในอันดับ 3 กราฟฟ์ เรซซิ่ง หมายเลข 9 ตามหลังจ่าฝูง 19 คะแนน ส่วนการลุ้นแชมป์ในคลาสจีที เป็นหนึ่งในการแข่งขันที่ได้รับการจับตามองมากที่สุด จากรถแข่งซูเปอร์คาร์ที่เห็นได้ตามท้องถนน และเป็นที่รู้จักของแฟนความเร็วทั่วโลก โดยจ่าฝูง ทีมเจแอลโอซี รถแข่งหมายเลข 88 มี 49 คะแนน เหนืออันดับ 2 คาร์กาย หมายเลข 7 เพียง 3 แต้มเท่านั้น ขณะที่อันดับ 3 ฮับ ออโต เรซซิ่ง หมายเลข 27 ตามหลังจ่าฝูงเพียง 3 แต้มเช่นกัน
ทั้งนี้ การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศสุดโหดของศึก เอเชีย เลอ มังส์ ซีรีส์ 2019-20 สนามสุดท้าย รายการ “บุรีรัมย์ 4 ชั่วโมง” จะแข่งวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ แบบ 4 ชั่วโมงเต็ม โดยจะออกสตาร์ทในเวลา 11.45-15.45 น.