เรียงหน้าชน : สิ่งที่ตามมา

ศิริภุช กุลน้อย

ยกน้ำหนักไทยเรากำลังอยู่ในช่วงเว้นวรรคการแข่งขันในเกมใหญ่ๆ รวมถึง มหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 ที่จะถึงนี้ โดนเรื่องอะไร ก็คงทราบกันดีเป็นระยะๆอยู่แล้ว

จากการตรวจพบการใช้สารกระตุ้นในหมู่นักกีฬาไทย ในการแข่งขันเกมใหญ่ๆ ถึงกับมีการริบเหรียญมาแล้วหลายคน ทำให้สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติมีบทลงโทษลงมา ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าบทลงโทษนั้นจะจบเมื่อไหร่ 

ได้แต่คาดเอาจากภาวะแวดล้อมว่า จอมพลังไทยน่าจะกลับเข้ามาแข่งขันได้ในรายการ ยกน้ำหนักเยาวชนชิงแชมป์โลก ที่โรมาเนีย ในเดือน มี.ค.นี้

และมาฮือฮาหนักขึ้นไปอีก เมื่อมีกรณีของ สื่อเยอรมนีที่ปลอมตัวมาสัมภาษณ์ ศิริภุช กุลน้อย นักยกน้ำหนักเหรียญทองแดงโอลิมปิก ลอนดอน 2012 และนำไปเผยแพร่ในลักษณะชี้ว่า นักยกน้ำหนักเยาวชนไทยเคยมีการใช้สารกระตุ้นกันอย่างแพร่หลาย จนวงการกีฬาโลกมีปฏิกิริยาอย่างรุนแรง

จนไอโอซี หรือคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ได้แต่งตั้ง ฮวน อันโตนิโอ ซามารานซ์ (ผู้ลูก) รองประธานไอโอซี และ เอมมา เทอร์โฮ ผู้แทนจากคณะกรรมาธิการนักกีฬา เข้าร่วมเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการสอบวินัย เพื่อหาข้อเท็จจริงในกรณีนี้ ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ

ฟากฝั่งของสมาคมกีฬายกน้ำหนักไทยเรา ก็มีการแสดงสปิริต โดยนายกคนล่าสุด บุษบา ยอดบางเตย ได้ลาออกไป และเปิดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ปิดรับสมัครไปเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้สมัคร 2 คน ได้แก่ “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย รองประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ คนที่ 1 อดีตนายกสมาคมฯ และ ปรัชญา กีรตินันท์ อดีตเลขาธิการสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ

ขั้นตอนก็เป็นเรื่องของการตรวจสอบคุณสมบัติ และเลือกตั้งกันในวันที่ 8 มี.ค.นี้

ต้องยอมรับว่า กีฬายกน้ำหนักไทย มาสร้างชื่อให้กับประเทศชาติก็ในยุคนี้ “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ และภรรยาท่าน บุษบา ยอดบางเตย สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นมาเป็นนายกสมาคมฯนี่แหละ ก็ด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ทั้งการทำทีม เทคนิค และกลยุทธ์ เรียกว่าครบเครื่องซึ่งทุกฝ่ายรู้ซึ้งกันอยู่แล้ว

แต่ในปัญหานี้นับว่าหนักสาหัส และเป็นที่จับจ้องของวงการกีฬาโลก และไม่ใช่จับหรือจ้องอย่างเดียว ในยุคนี้ที่องค์กรกีฬาใหญ่ๆ ดูจะประสานมือกันมากขึ้น และให้ความสำคัญกับเรื่องของการใช้สารกระตุ้นเป็นอย่างยิ่ง ยกระดับเป็นความผิดตามกฎหมาย ในระดับคดีอาญาเสียด้วย

มันกลายเป็นเรื่องของสังคมกีฬาโลก ไม่ใช่อยู่ที่ประเทศใดประเทศหนึ่ง ปัญหาจุดหนึ่งกับเรื่องนี้ อาจส่งผลไปยังจุดอื่นๆได้ รวมถึงความชอบธรรม และความเคลือบแคลงใจในการเป็นเจ้าภาพจัดเกมใหญ่ๆพ่วงไปด้วย

แม้ว่าบทลงโทษที่เกิดกับวงการยกน้ำหนักไทย ระบุไปที่การห้าม “แข่งขัน” และห้ามในตัว “นักกีฬา” ที่เกี่ยวข้อง ยังไม่ลงไปถึงผู้บริหารหรือตัวบุคคลอื่นๆ

ก็น่าสนใจที่การเลือกตั้งครั้งใหม่ของยกน้ำหนักไทย ภายหลังจากการแสดงสปิริตของท่านเดิม บุษบา ยอดบางเตย

มี “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย และ ปรัชญา กีรตินันท์ เป็นแคนดิเดต ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่เคยมีบทบาทในสมาคมมาด้วยกันทั้งสิ้น
จะสามารถสร้างความรู้สึก สร้างความสบายอก สบายใจ ต่อสังคมกีฬาโลกได้หรือไม่!

ขอบเขตของการเฝ้ามองที่โลกของกีฬาจับจ้องอยู่ จะอยู่ที่ความเชื่อจากการบอกกล่าว ว่าจะแก้ไขโน่นแก้ไขนี่ มีมาตรการต่างๆออกมา โชว์สปิริตลาออก เปลี่ยนตัวผู้บริหารแล้ว หรือเวลาของการลงโทษผ่านแล้วก็ผ่านกัน

หรือมีเรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจต่อตัวบุคคลมาเกี่ยวพัน!

คงจะได้เห็นกันในปฏิกิริยา สิ่งที่ตามมา อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป...

“เบี้ยหงาย”