หน้าแรกแกลเลอรี่

ปอดเหล็กเอธิโอเปีย กวาดแชมป์วิ่งมาราธอน อะเมซิ่ง ไทยแลนด์

ไทยรัฐออนไลน์

2 ก.พ. 2563 20:10 น.

"เยเน บีเลย์ โอลเคบา" และ "ทเซดาล โซเคเล" ปอดเหล็กจากเอธิโอเปีย กวาดแชมป์มาราธอน “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2020 พรีเซนเต็ด บาย โตโยต้า” รับเงินรางวัล 200,000 บาท พร้อมถ้วยพระราชทาน ขณะที่ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ชงให้เป็นรายการวิ่งดีที่สุด ประเทศที่ 7 ของโลก...

วันที่ 2 ก.พ. 63 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานปล่อยตัวการแข่งขัน วิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก รายการ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2020 พรีเซนเต็ด บาย โตโยต้า” โดยมี นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการ ด้านสินค้า และธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายพิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานครฯ, นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), นางอัญญา พลอยกิติกูล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดรถยนต์นั่ง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เข้าร่วมงาน

สำหรับการแข่งขัน “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2020” ปีนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย มาราธอน 42.195 กิโลเมตร, ฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร, มินิมาราธอน 10 กิโลเมตร และระยะ 5 กิโลเมตร โดยมีนักวิ่งรวมทุกระยะ สมัครเข้าร่วมการแข่งขันเต็มจำนวน 28,000 คน

ด้านนายพิพัฒน์ กล่าวว่า ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น ยอมรับว่า กังวลเรื่องค่าฝุ่นละออง pm 2.5 แต่เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น บรรยากาศเป็นใจ ทำให้ทุกอย่างลงตัว ซึ่งทำให้การแข่งขันครั้งนี้ประสบความสำเร็จมาก มีนักวิ่งทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมวิ่งเป็นจำนวนมาก และเต็มความจุที่ฝ่ายจัดการแข่งขันจะรับได้ ที่สำคัญ ครั้งนี้มีผู้แทนจากสหพันธ์กรีฑานานาชาติ เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งจากการพูดคุยกับเขา ได้รับการยืนยันว่า การจัดของเราครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ทำให้มีการพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะยกระดับงานวิ่งรายการนี้ขึ้นไปเป็นลำดับที่ 7 ของงานวิ่งระดับโลก ที่ก่อนหน้านี้มีเพียง 6 ประเทศเท่านั้น ซึ่งเมื่อทุกคนพูดถึงงานวิ่งของประเทศไทย ก็จะต้องนึกถึง อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน

“การที่มีคนออกมาทำกิจกรรมรวมกันถึงเกือบ 40,000 คน ทั้งคนวิ่งและผู้ติดตาม ตลอดจนอาสาสมัคร ภาพที่ออกไปจะช่วยสร้างความมั่นใจให้คนทั่วโลกรู้ว่า เมืองไทยยังคงเป็นประเทศที่น่าเที่ยวอยู่ ซึ่งเราจัดการแข่งขันมาแล้ว 3 ปี มาตรฐานดีขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าในปีต่อๆไปจะดีขึ้นกว่านี้ ยิ่งใหญ่กว่านี้ มั่นใจว่าปีหน้าเราจะยกระดับไปสู่ระดับซิลเวอร์ได้อย่างแน่นอน” นายพิพัฒน์ กล่าว

ขณะที่ นางสาวฐาปนีย์ เผยว่า ภาพของคนที่มารวมตัวกันวิ่งจำนวนมากวันนี้ จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยว และเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งวันนี้มีนักวิ่งต่างชาติมากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ จากนักวิ่งทั้งหมด ทำให้เชื่อได้ว่า ชาวต่างชาติยังเชื่อมั่นประเทศไทย

สำหรับผลการแข่งขันระยะมาราธอน 42.195 กิโลเมตร ที่มีจุดปล่อยตัวที่ราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก และเข้าเส้นชัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ประเภททั่วไปชาย แชมป์ตกเป็นของ เยเน บีเลย์ โอลเคบา นักวิ่งปอดเหล็กจากเอธิโอเปีย ทำเวลาได้เวลา 02.19.31 ชั่วโมง รับเงินรางวัล 200,000 บาท ส่วนคนไทยที่ทำเวลาดีที่สุดคือ บุญถึง ศรีสังข์ จอมอึดทีมชาติไทย สถิติ 02.35.27 ชั่วโมง รับเงินรางวัล 50,000 บาท โดยทั้ง 2 คนได้รับถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

ขณะที่ประเภททั่วไปหญิง แชมป์ได้แก่ ทเซดาล โซเคเล จากเอธิโอเปีย เวลา 02.42.28 ชั่วโมง รับเงินรางวัล 200,000 บาท ส่วนคนไทยเวลาดีที่สุดคือ ลินดา จันทะชิด นักวิ่งปอดเหล็กทีมชาติไทย เวลา 02.57.21 ชั่วโมง รับเงินรางวัล 50,000 บาท โดยทั้ง 2 คนได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

ทางด้านฮาล์ฟมาราธอน ระยะ 21.1 กิโลเมตร ทั่วไปชาย แชมป์ได้แก่ แมทธิว แซมเปรู จากเอธิโอเปีย เวลา 01.04.03 ชั่วโมง รับเงินรางวัล 50,000 บาท ขณะที่ทั่วไปหญิง แชมป์ คาริมี เอสเธอร์ จากเคนยา เวลา 01.17.16 ชั่วโมง รับเงินรางวัล 50,000 บาท ส่วนแชมป์คนไทยชาย สัญชัย นามเขต เวลา 01.06.30 ชั่วโมง รับเงินรางวัล 30,000 บาท และแชมป์คนไทยหญิง อรนุช เอี่ยมทศ เวลา 01.26.13 ชั่วโมง โดยทั้ง 4 คนได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ส่วนมินิมาราธอน ระยะ 10 กิโลเมตร ทั่วไปชาย แชมป์คือ เจมส์ คารันยา จากเคนยา เวลา 29.20 นาที ส่วนทั่วไปหญิง แชมป์คือ อเลมู อัดดิซาเล็ม สเลชี จากเอธิโอเปีย เวลา 34.48 นาที

ส่วนกรณีที่มีการวิพาษณ์วิจารณ์เกี่ยวกับการจุดพลุในช่วงพิธีเปิดการแข่งขันนั้น นายกอบเกียรติ แสงวนิชย์ รองประธานคณะกรรมการจัดงาน ระบุว่า ตนขอน้อมรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในเรื่องดังกล่าว การจุดพลุมีวัตถุประสงค์เพื่อนับถอยหลังในการปล่อยตัว และส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ที่ทำงานในรัศมีใกล้เคียงได้รู้ว่า มีการปล่อยตัวในระยะต่างๆ แล้ว ซึ่งใช้เพียงการสื่อสารในระบบวิทยุหรือโทรศัพท์อย่างเดียว เกรงว่าจะสื่อสารไม่ถึง แต่สิ่งที่บกพร่องคือ ทีมจุดพลุจัดพลุมาเยอะเกินความเหมาะสม

"ในฐานะของฝ่ายอำนวยการจัดงาน ต้องขอโทษประชาชนทุกท่านที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา ตนจะทำรายงานข้อบกพร่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น อาทิ ช่วงเวลาของการจัดงาน, ปัญหาสภาพอากาศ และผลกระทบต่างๆ ให้นายพิพัฒน์ และนายยุทธศักดิ์ อย่างเร่งด่วน เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขในโอกาสต่อไป ส่วนตัวรู้สึกเสียใจกับข้อผิดพลาดที่ไม่ควรเกิดขึ้นในครั้งนี้" นายกอบเกียรติกล่าว