"พ่อคือแรงบันดาลใจของผม" ความในใจของฝาแฝดเจ็ตสกีไทย

ประโยคที่ว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” ยังใช้ได้เสมอ โดยเเฉพาะครอบครัว “โมลี” ที่ตอนนี้ ลูกชายฝาแฝด “ธนวิชญ์” (น้องเซนต์) และ “ธนวินท์” (น้องซิก) วัย 13 ปี กำลังจะก้าวตามรอยเท้าของพ่อ “โชคอุทิศ” ก้าวที่ยิ่งใหญ่ในการเป็นนักกีฬาเจ็ตสกีทีมชาติไทย...

ในการแข่งขัน “เจ็ตสกีชิงแชมป์โลก 2019” สนามสุดท้ายที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้มีโอกาสพบกับ “แฝดสายฟ้า” “น้องเซนต์-ธนวิชญ์” และ “น้องซิก-ธนวินท์” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณพ่อ “โชคอุทิศ โมลี” จึงเชิญน้องทั้งคู่มาเปิดใจถึงที่มาที่ไปทำยังไงถึงเข้ามาสู่วงการเจ็ตสกี

ทั้งคู่เริ่มต้นเล่นเจ็ตสกีตามพ่อ เนื่องจากตอนเด็กๆ ติดสอยห้อยตามพ่อไปซ้อมเจ็ตสกีด้วย ทำให้คลุกคลีอยู่กับเจ็ตสกีมาตั้งแต่จำความได้ จึงไม่แปลกที่จะลองขี่เจ็ตสกีตั้งแต่ 3-4 ขวบ

พอเริ่มโตขึ้นมา ทั้งน้องเซนต์และน้องซิก ชื่นชอบการขี่เจ็ตสกีเป็นอย่างมาก จนมาเริ่มจริงจังในช่วงอายุ 6-7 ขวบ ได้ลงแข่งในประเภทโปรทัวร์ช่วงปีแรกที่ร่วมแข่งในสนาม

เมื่อถามถึงอนาคต เป็นไปตามความคาดหมายที่ “แฝดสายฟ้า” อยากติดทีมชาติไทยเหมือนพ่อ ซึ่งเคยได้แชมป์โลกเจ็ตสกีมาแล้วนั่นเอง

“แฝดสายฟ้า” พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากทำให้คนไทยรู้ว่าพวกเราก็มีดีเหมือนกัน ไม่ใช่แค่คนต่างชาติที่จะเก่งฝ่ายเดียว

นอกจากเจ็ตสกีแล้ว ทั้งคู่ก็ชื่นชอบในกีฬาประเภทอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล บาสเกตบอล วิ่ง ว่ายน้ำ ซึ่งเคยเป็นตัวแทนนักกีฬาโรงเรียนลงแข่งด้วย

ณ ตอนนี้ น้องเซนต์และน้องซิก กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติรักบี้ สคูล ไทยแลนด์ ที่พัทยา แน่นอนว่าลมหายใจเข้าออกของทั้งคู่คือการขี่เจ็ตสกี และลงแข่งทุกรายการให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

อีกไม่นานเกินรอ หวังว่าทั้งคู่จะกลายเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยดังที่คาดหวังไว้ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น นอกจากแฟนๆ กีฬาชาวไทยที่ภูมิใจแล้ว คงหนีไม่พ้น พ่อ “โชคอุทิศ” ที่ภูมิใจกับลูกไม้ที่หล่นใกล้ต้นของเขาอย่างแน่นอน