เรียงหน้าชน : เรื่องของการโด๊ป

ถือเป็นข่าวช็อกวงการกีฬาโลกเลยก็ว่าได้ สำหรับกรณีที่องค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (วาด้า) ได้สั่งลงโทษห้ามนักกีฬาทีมชาติรัสเซียร่วมการแข่งขันทัวร์นาเมนต์นานาชาติ ทั้งหมด ทุกรายการ

รวมไปถึงโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกด้วย

ซึ่งสาเหตุที่รัสเซียถูกแบนครั้งนี้ เพราะศูนย์ตรวจสารต้องห้ามของรัสเซียไม่ให้ความร่วมมือกับวาด้าในการส่งมอบข้อมูลให้กับผู้สืบสวนในกรณีที่สนับสนุนให้นักกีฬาใช้สารกระตุ้นในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ต่างๆก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม วาด้ายังเปิดโอกาสให้รัสเซียสามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 21 วัน ซึ่งให้ศาลกีฬาโลกเป็นหน่วยงานกลางในการตัดสิน

เกี่ยวกับกรณีนี้ นพ.อี๊ด ลอประยูร แพทย์ที่ดูแลนักกีฬาไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ได้ไล่เรียงกรณีดังกล่าว พร้อมข้อคิดที่น่าสนใจเอาไว้ในเฟซบุ๊กของตัวเอง ดังนี้ครับ

การห้ามนักกีฬาของรัสเซียลงแข่งในนามของประเทศรัสเซีย หลังจากเหตุการณ์ต่อเนื่องยาวนานเกี่ยวกับการพยายามแบนประเทศรัสเซียจากการแข่งขันระดับนานาชาติ

ก่อนหน้าโอลิมปิกที่ริโอในปี 2016 วาด้า หรือองค์การต่อต้านสารต้องห้ามโลก ได้กล่าวโทษรัสเซียเกี่ยวกับการโด๊ปนักกีฬาจากการร่วมมือกัน

ของทั้งประเทศคือ ห้องแล็ป รัฐมนตรี ตำรวจลับรัสเซีย โดยการใช้วิธีการหลายอย่างเพื่อช่วยไม่ให้ตรวจพบผลบวกในนักกีฬาของตน แต่ตอนนั้นโอลิมปิกสากลก็ยังไม่ยอมแบนรัสเซียออกจากการลงแข่งขัน หากแต่ให้แต่ละกีฬาพิจารณากันเอาเอง

ปีถัดมา 2017 ในโอลิมปิกฤดูหนาว โอลิมปิกสากลจึงยอมสั่งห้ามนักกีฬาลงแข่งในนามประเทศรัสเซียแต่ให้ใช้ชื่ออื่นที่เป็นกลางแทน นักกีฬาก็ต้องพิสูจน์ได้ว่าตนเองไม่เกี่ยวข้องกับการโด๊ปที่เกิดขึ้นมาก่อน จึงจะลงแข่งขันได้

ต่อมาวาด้าพิจารณาใหม่ ให้โอกาสโดยได้ถอดรัสเซียออกจากการถูกแบน และร้องขอรัสเซียให้ความร่วมมือในการตรวจสอบอย่างจริงจัง โดยทีมจากวาด้าเองที่จะเข้าไปตรวจหาข้อมูลในรัสเซีย

รัสเซียเหมือนจะยินยอมแต่สุดท้ายหลังจากความพยายามของวาด้าในการขอข้อมูล และการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบในรัสเซียก็ยังไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร

ในที่สุดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมนี้ วาด้าทนไม่ได้จึงมีการประชุมและออกประกาศโทษทำการแบนประเทศรัสเซียออกมาอีกครั้ง คราวนี้ยาวถึง 4 ปี รวมถึงในโอลิมปิก 2020 ปีหน้านี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังเปิดโอกาสให้นักกีฬาหากไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องไม่มีข้อมูลการถูกตรวจพบมาก่อนก็ยังสามารถลงแข่งขันได้แต่ต้องลงแข่งในนามอื่นที่ไม่ใช่รัสเซีย ประเทศรัสเซียอุทธรณ์คำสั่งของวาด้านี้และคงส่งให้ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลกตัดสินอีกทีหนึ่ง ซึ่งคราวที่แล้วสิ่งที่ศาลอนุญาโตตุลาการฯ ตัดสินก็มีการกลับคำสั่งของวาด้ามาแล้วหลายครั้ง

ยังไม่แน่นอนว่ากีฬาประเภทใด หรือคนใดของรัสเซีย จะโดนตัดสิทธิในการแข่งขันในโอลิมปิก 2020 บ้าง

ตอนนี้แรงกดดันจากองค์กรกีฬาและนักกีฬาต่างๆมีมากขึ้น เพราะข้อมูลการตรวจพบการโด๊ปของรัสเซียก็มีอยู่เรื่อยๆ

แม้แต่โอลิมปิกฤดูหนาวคราวที่แล้วยอมให้ส่งแบบไม่ใช้ชื่อรัสเซีย ก็ยังพบการโด๊ปของนักกีฬารัสเซียถึงสองคน

หลายคนยังขอและหวังให้คราวนี้คณะกรรมการโอลิมปิกสากลกล้าใช้มาตรการเด็ดขาด ในการลงโทษอย่างจริงจังกับประเทศรัสเซีย เพื่อช่วยปกป้องให้กับนักกีฬาคนอื่นที่เข้าแข่งขันด้วยความพยายามอย่างแท้จริง “Clean Athletes” ทั้งนี้ ก็เพื่อความน่าเชื่อถือของวงการกีฬานานาชาติในอนาคต ซึ่งเราก็คงต้องรอดูกันต่อไปครับว่าเขาจะตัดสินใจกันยังไง การเมือง การกีฬา อะไรจะมาก่อน พวกเราก็อย่าเพิ่งรีบดีใจกันไปก่อน ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดต่อไป.

OOOOOOOO

เรื่องของการ “โด๊ปนักกีฬา” ประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบมาแล้วก่อนหน้านี้ในกีฬายกน้ำหนัก

ไม่รู้ว่าเรื่องราวที่นักกีฬารัสเซียถูกแบนครั้งนี้จะส่งผลกระทบให้เราโดนลงโทษหนักขึ้นด้วยหรือไม่ เพราะจะว่าไปอาจถือได้ว่าเป็นการเชือดไก่ให้ราชสีห์ดูไปแล้ว

คงต้องให้ความร่วมมือกันอย่างจริงจังต่อจากนี้.

พาวเวอร์บอมบ์