หน้าแรกแกลเลอรี่

พ่ายเวียดนามงามหน้า โจทย์ใหญ่ไทยต้องแก้

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

15 ธ.ค. 2562 05:01 น.

เป็นไปตามคาดเมื่อฟิลิปปินส์เจ้าภาพ ซีเกมส์ครั้งที่ 30 ซิวตำแหน่ง “เจ้าเหรียญทอง” ไปครองหลังทำผลงานกวาดไปถึง 149 เหรียญทอง 117 เหรียญเงิน 121 เหรียญทองแดง

แต่ที่เซอร์ไพรส์มากกว่าคงจะเป็นพี่ไทยของเรากลับจบด้วยอันดับ 3 ในตารางเหรียญรวม ทำไป 92 เหรียญทอง 103 เหรียญเงิน 123 เหรียญทองแดง ขณะที่เวียดนามก็แซงขึ้นไปจบที่ 2 ด้วยผลงาน 98 เหรียญทอง 85 เหรียญเงิน 105 เหรียญทองแดง

จึงนับเป็นการหลุดจาก 2 อันดับแรก ในตารางเหรียญรวมซีเกมส์เป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี โดยครั้งสุดท้ายที่ไทยจบอันดับ 3 คือซีเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่ฟิลิปปินส์ ปี 1991

ทั้งที่ก่อนจะมาแข่งขันสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เชิญ 50 สมาคมกีฬา (ไม่รวมยกน้ำหนัก) มาแถลงความพร้อมในงาน “มีตเดอะเพรส” ทั้ง 7 ครั้ง ซึ่งประเมินรวมกันไว้ที่ 121 เหรียญทอง

แต่เมื่อการแข่งขันจบลงผลงานที่ทำได้เพียง 92 เหรียญทอง จึงถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายไป 29 เหรียญทอง

ขณะเดียวกัน สมาคมสื่อกีฬายังได้ทำสรุปผลงานหลังจบซีเกมส์เอาไว้ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.เกินเป้าหมาย ประกอบด้วย 1.กรีฑาประเมิน 6 ได้ 12 ทอง, 2.จักรยานประเมิน 2 ได้ 6 ทอง, 3.เทควันโดประเมิน 4 ได้ 7 ทอง, 4.เรือใบ ประเมิน 3 ได้ 5 ทอง, 5.มวยไทยประเมิน 2 ได้ 4 ทอง, 6.ยิงปืนประเมิน 3 ได้ 4 ทอง,7.ยิงธนูประเมิน 2 ได้ 3 ทอง, 8.ยูโด/แซมโบ ประเมิน 6 ได้ 7 ทอง

2.ตามเป้าหมายประกอบด้วย 1.รักบี้ฟุตบอล ประเมิน 1 ได้ 1 ทอง, 2.คาราเต้/คิกบ็อกซิ่งประเมิน 3 ได้ 3 ทอง, 3.มวยสากลประเมิน 5 ได้ 5 ทอง, 4.หมากรุกประเมิน 1 ได้ 1 ทอง, 5.ตะกร้อประเมิน 3 ได้ 3 ทอง, 6.เทเบิลเทนนิสประเมิน 1 ได้ 1 ทอง, 7. เปตองประเมิน 2 ได้ 2 ทอง, 8. แบดมินตันประเมิน 1 ได้ 1 ทอง, 9.บิลเลียด สนุ้กเกอร์ประเมิน 1 ได้ 1 ทอง, 10.ฟิกเกอร์สเกต และสปีดสเกตติ้งประเมิน 2 ได้ 2 ทอง, 11.ฮอกกี้น้ำแข็งประเมิน 1 ได้ 1 ทอง, 12.คูราชประเมิน 2 ได้ 2 ทอง, 13.ไตรกีฬาประเมิน 1 ได้ 1 ทอง, 14.วอลเลย์บอลประเมิน 2 ได้ 2 ทอง

3.ต่ำกว่าเป้าหมายประกอบด้วย 1.เรือพาย เรือแคนู และเรือประเพณีประเมิน 7 ได้ 2 ทอง, 2.ฟันดาบประเมิน 3 ได้ 2 ทอง, 3.วินด์เซิร์ฟประเมิน 2 ได้ 1 ทอง, 4.ยูยิตสูประเมิน 5 ได้ 2 ทอง, 5.กอล์ฟประเมิน 4 ได้ 1 ทอง, 6.ว่ายน้ำ กระโดดน้ำ และโปโลน้ำประเมิน 3 ได้ 2 ทอง, 7. อี-สปอร์ต ประเมิน 3 ได้ 2 ทอง, 8.เอ็กซ์ตรีม (สเกตบอร์ด/ เวคบอร์ด / จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ผาดโผน) ประเมิน 6 ได้ 3 ทอง, 9.ยิมนาสติกประเมิน 2 ได้ 1 ทอง, 10.ฮอกกี้/ฟลอร์บอลประเมิน 2 ได้ 1 ทอง, 11.ปันจักสีลัต ประเมิน 2 ได้ 1 ทอง 4.ไม่ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่มีเหรียญทองประกอบด้วย 1.เบสบอลประเมิน 1 ทอง, 2.ซอฟท์บอลประเมิน 2 ทอง (ไม่มีเหรียญรางวัล), 3.มวยปล้ำประเมิน 2 ทอง,

4.ลอนโบวล์สประเมิน 2 ทอง, 5.ปัญจกีฬาสมัยใหม่ ประเมิน 3 ทอง, 6.ซอฟท์เทนนิสประเมิน 2 ทอง, 7.สควอชประเมิน 1 ทอง, 8.กระดานโต้คลื่น ประเมิน 1 ทอง, 9.เทนนิสประเมิน 3 ทอง, 10.วูซูประเมิน 1 ทอง,11.บาสเกตบอลประเมิน 2 ทอง, 12.โบว์ลิ่งประเมิน 1 ทอง, 13.ลีลาศ ประเมิน 3 ทอง, 14.แฮนด์บอลประเมิน 1 ทอง, 15.ฟุตบอลประเมิน 2 ทอง และ 16.เนตบอล ตั้งเป้าหมายหวังเข้าชิง แต่แพ้รอบรองชนะเลิศ

นอกจากนี้ หากดูในส่วนเฉพาะกีฬาสากล จากข้อมูลของงานกำกับดูแลและติดตามประเมินผลกีฬาเป็นเลิศ กององค์กรและพัฒนากีฬาเป็นเลิศ ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ระบุว่า การแข่งขันครั้งนี้ทั้งหมด 56 ชนิดกีฬาแยกออกเป็นกีฬาสากลได้ 27 ชนิดกีฬา 303 รายการ

ทัพไทยส่งแข่ง 26 ชนิดกีฬา 293 รายการ ขาดไปเพียงยกน้ำหนักชนิดกีฬาเดียว ผลปรากฏว่า เฉพาะกีฬาสากล ไทยได้อันดับ 3 เช่นเดียวกันทำไป 64 เหรียญทอง ส่วนอันดับ 1 เป็นเวียดนาม 70 เหรียญทอง และอันดับ 2 ฟิลิปปินส์ 69 เหรียญทอง

เพราะเหตุใดผลงานของทัพนักกีฬาไทยจึงไม่เปรี้ยงในการแข่งขันครั้งนี้?

โดยมุมมองของ “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ระบุว่า เรื่องจำนวนเหรียญ อาจจะไม่ถูกใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่าครั้งนี้ไทยเน้นนักกีฬาหน้าใหม่เข้ามาถึง 57 เปอร์เซ็นต์ หรือตีเป็น 550 กว่าคนได้ ดังนั้น ยังมีโอกาสที่จะเติบโตมากกว่านี้ในอนาคต

“จริงอยู่ที่ครั้งนี้เราอาจจะพลาด แต่เชื่อว่าถ้ามีการทำงานร่วมกันระหว่าง กกท., คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ และสมาคมกีฬาต่างๆ เพื่อปรับกลยุทธ์ไปต่อสู้กับชาติอื่นๆ เราก็ยังมีโอกาสจะกลับมาได้ในครั้งหน้า”

“ในส่วนของวิทยาศาสตร์การกีฬาต้องยอมรับว่าไทยยังล้าหลังชาติอื่นในอาเซียน อย่างเช่น เวียดนามก็ดีกว่าไทยแล้ว เพราะมีทั้งสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งชาติและโรงพยาบาลกีฬา สิ่งเหล่านี้เราจะต้องรีบดำเนินการทำโครง-สร้างพื้นฐานให้ดี” ดร.ก้องศักดกล่าวปิดท้าย

ด้าน “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ชุดทำศึกซีเกมส์ 2019 ก็ระบุด้วยว่า หากเราเทียบผลงานโดยเฉพาะกีฬาสากลทั่วไปที่มีในโอลิมปิกเกมส์เเละเอเชียนเกมส์ กับชาติอย่างเวียดนาม เจ้าภาพซีเกมส์ ปี 2021 ต้องบอกว่า เวลานี้มีความใกล้เคียงเเละสูสีกันกับเราจริงๆ บางกีฬาดีกว่าเราด้วยซ้ำ

“อย่างกรีฑา วายน้ำ ซึ่งเป็นกลุ่มกีฬาสถิติ เวียดนามทำได้ดีมาก ซึ่งจุดนี้เราต้องเก็บข้อมูลของเขาอย่างละเอียด ว่ามีการพัฒนากีฬาเเต่ละชนิดอย่างไร ส่งนักกีฬาไปฝึกซ้อมเเละเเข่งขันที่ไหนบ้าง”

ฮอตสปอร์ตเห็นด้วยว่า ไม่ว่าจะเรื่องอายุนักกีฬา หรือแม้แต่การพัฒนาของเพื่อนบ้าน ทำให้ซีเกมส์ครั้งนี้พวกเขาทำได้ดีกว่า และคงทำให้หน่วยงานของรัฐได้การบ้านให้กลับไปแก้ไข เพื่อสู้ศึกในซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม

แน่นอน คงไม่ใช่งานง่าย แต่ในเมื่อเจ้าภาพครั้งหน้าแสดงความตั้งใจจัดแข่งขันเฉพาะกีฬาสากลทั่วไป ถ้าเป็นเรื่องจริงก็นับเป็นสิ่งที่ดีในการพัฒนานักกีฬาอาเซียน รวมถึงเราจะได้วัดกับเวียดนามไปเลยว่าใครจะทำได้ดีกว่ากัน

โดยเฉพาะครั้งนี้กีฬาฟุตบอล ทัพดาวทอง ได้ครองความยิ่งใหญ่ทั้งบอลชาย บอลหญิง

แต่คราวหน้าก็อยากฟังเพลงชาติไทยถูกเปิด บนสังเวียนของเจ้าถิ่นบ้าง คงเป็นภาพที่สะใจยิ่ง

อยู่ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯจะให้ความสำคัญหรือเปล่า

ทั้งหมดนี้เป็นบทเรียนที่เกิดขึ้นแล้ว อยู่ที่ว่า จะต้องแก้ไขอย่างไร

เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย!!

พิสิฐ ภูตินันท์ เรื่อง