บี บางปะกง
รูดม่านปิดฉากไปเรียบร้อยแล้ว กับมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์
แม้จะมีหลากหลายเรื่องราวที่ทำให้เราไม่อยากจดจำซีเกมส์เที่ยวนี้สักเท่าไหร่!
ทั้งเรื่องความไม่พร้อมจิปาถะของเจ้าภาพ
ตัวเลขเหรียญทองที่ไปไม่ถึงเป้าหมายของทัพนักกีฬาไทย
โดยยอดรวมเบ็ดเสร็จที่ 92 เหรียญทอง 103 เหรียญเงิน 122 เหรียญทองแดง จบที่อันดับ 3 ของตาราง
แถมเมื่อวัดมาตรฐานที่ “กีฬาสากล” ก็ยังแพ้ให้กับเวียดนามอีกต่างหาก!!
รวมถึงความล้มเหลวของ “ฟุตบอล” กีฬามหาชน ที่ทีมชายร่วงรอบแรกอย่างไม่เป็นท่า ขณะที่ทีมหญิงแพ้เวียดนาม ได้แค่เหรียญเงินกลับบ้าน
แต่ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็จะถูกบันทึกไว้เป็นตำนาน และเป็นบทเรียนเล่มใหญ่ให้นักกีฬารุ่นต่อๆไปได้ศึกษาเป็น “เคส Study” กันอย่างมิรู้จบ
เช่นเดียวกับความสำเร็จของนักกีฬาไทยอีกหลายประเภท ที่คว้าเหรียญทองมาคล้องคออย่างน่าชื่นชม
และจะเป็นกำลังให้สมาคมกีฬานั้นๆได้พัฒนาต่อยอดไปสู่จุดหมายปลายทางของตัวเองในทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต
สำหรับ “เหรียญทอง” ที่ตัวผมเอง (ย้ำว่า... ส่วนตัวนะครับ) ค่อนข้าง “โดนใจ” ในซีเกมส์ 2019 พิจารณาดูแล้วมีอยู่ 3 ชนิดกีฬา ได้แก่
เหรียญทอง ยิมนาสติกลีลา ประเภทอุปกรณ์คฑา ของ “น้องปิ่น” เบญจพร ลิ้มพานิชย์ ที่โชว์ลีลาพริ้วไหวชนะใจกรรมการ คว้าทองซีเกมส์ยิมฯลีลา เหรียญแรกในรอบ 8 ปี ให้ทัพยิมนาสติกไทยได้สำเร็จ
ทำให้ผมนึกถึงภาพความสำเร็จในอดีตของ “น้องโม” ธาราทิพย์ ศรีดี สุดยอดนักยิมฯลีลาระดับตำนาน ซึ่งวันนี้มี “น้องปิ่น” มาสานต่อความยิ่งใหญ่แล้ว
ทองต่อมาเป็น เหรียญทองประวัติศาสตร์ ยิงธนู ประเภทคันธนูทดกำลังทีมหญิง ที่คว้ามาได้เป็นครั้งแรกในซีเกมส์
โดย 3 โรบินฮูดสาวไทยชุดนี้ ประกอบด้วย กนกนภัส แก้วชมภู, กัณยาวีธ์ มณีสมบัติกุล และ กชพร ประทุมสุวรรณ
ซึ่งพวกเธอทำเซอร์ไพรส์ด้วยการโค่นเอาชนะแชมป์เก่าตลอดกาลอย่างอินโดนีเซียได้อย่างน่าทึ่ง!!
และทองสุดท้ายที่ผมติดตราตรึงใจมากที่สุดในซีเกมส์หนนี้
ก็คือการเหมาคว้า 2 เหรียญทอง ของปอดเหล็กหนุ่มลูกครึ่งไทย–อเมริกัน “คีริน ตันติเวทย์” ที่ถูก สมาคมกรีฑาฯดึงมารับใช้ชาติในซีเกมส์ที่แดนตากาล็อกเป็นครั้งแรก
ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ทำให้แฟนกีฬาชาวไทยต้องผิดหวัง เมื่อโชว์พลังอึดวิ่งแซงคู่ต่อสู้แบบฉีกกระดาษ เข้าป้ายคว้าแชมป์วิ่ง 10,000 เมตร และ 5,000 เมตร ได้แบบเหลือๆ
ทำให้ชื่อของนักวิ่งลูกครึ่ง วัย 22 ผู้นี้ หอมกรุ่นขึ้นมาทันที เพราะนอกจากเขาจะโชว์ฝีไม้ลายเท้าได้อย่างสุดติ่งกระดิ่งแมวแล้ว
คีรินยังมีหน้าตาคมเข้ม หล่อเหลาเอาการ สไตล์หนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน ที่ตรงสเปกของสาวน้อย สาวใหญ่ทั้งหลายอีกด้วย
ที่สำคัญโปรไฟล์ของเจ้าตัวไม่ธรรมดา เป็นลูกชายคนเล็กของ ดร.วรเวช ตันติเวทย์ ที่ปรึกษาโครงการอาวุโสของ world bank ซึ่งเป็นศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯ (osk 84)
สนใจการวิ่งและวิ่งได้ดีตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม จนปัจจุบันที่เขากำลังศึกษาอยู่ปี 4 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา
จากสถิตินักกีฬา World Athletics คีริน เป็นนักกรีฑามือวางอันดับ 590 ของโลก ในระยะ 10,000 เมตร
โดยเงื่อนไขของการเป็นนักกรีฑาของฮาร์วาร์ด เจ้าตัวจะไม่สามารถรับเงินรางวัลใดๆ ทั้งสิ้นจากการแข่งขันที่เข้าร่วมในทุกระดับ
ดังนั้น อัดฉีด 2 ทองซีเกมส์จากรัฐบาล คีริน เคยบอกไว้แล้วว่า
จะมอบให้ ร.ร.สวนกุหลาบฯ สมทบเป็น
กองทุน “บูรณะตึกยาว” ที่บิดาได้ร่ำเรียนมาจนได้ดิบได้ดี
แหม! รู้อย่างนี้...ยิ่งโดนใจจริงๆพ่อคุณเอ๋ย!!!
บี บางปะกง