ไทยรัฐออนไลน์
เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ ยอดนักเจ็ตสกีไทยคว้าคนเดียว 3 โทรฟี่ ครองแชมป์เวิลด์ คัพ, ถ้วยพระราชทาน และเป็นคนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ เวิลด์ ซีรีส์ รุ่นโปรเจ็ตสกีนั่ง 1,100 ซีซี ในศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก “การบินไทย เจ็ตสกีเวิลด์ คัพ 2019” ที่พัทยา
ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก “การบินไทย เจ็ตสกี เวิลด์ คัพ 2019” ที่หาดจอมเทียน พัทยา สนามตัดสินแชมป์โลกชนแชมป์โลก “เวิลด์ ซีรีส์ 2019” ต่อจาก ศึกชิงแชมป์ยุโรปที่เบลเยี่ยมและ เวิลด์ ไฟนอล ที่สหรัฐ โดยการชิงแชมป์โลกเวิลด์ ซีรีส์ ทั้ง 3 รายการมีประเทศไทยเป็นเจ้าของลิขสิทธิทุกรายการ ทำการแข่งขันวันสุดท้ายตัดสินแชมป์ และถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จะมอบให้แชมป์รุ่นโปร 6 รุ่นสุดยอดของโลก ที่เมืองพัทยาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.
รุ่นที่นักแข่งไทยคว้าแชมป์โลก แชมป์เวิลด์ ซีรีส์ และถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นรุ่นโปรเจ็ตสกีนั่ง 1,100 ซีซี โอเพ่น (Pro Runabout 1100 Open) ที่ สุภัค เสร็จธุระ กับ เพิ่มพล ธีรพัฒน์พานิชย์ 2 นักแข่งไทย มีคะแนนนำที่ 1 ร่วมกันเมื่อจบ 2 โมโตแรกเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.
เข้าการแข่งขันโมโต 3 เพิ่มพล ออกตัวได้ดีกว่าออกนำตั้งแต่ช่วงโฮลช็อต และนำโด่งจนเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ขณะที่ สุภัค ยังพยายามตามไล่และแซงคู่แข่งจากชาติอื่นจนเข้าที่ 3 ขณะที่อันดับ 2 โมโตนี้เป็นของ สุภทัต ฟูตระกูล นักแข่งไทยอีกคน
โมโตสุดท้ายยังเป็นการชิงดำกันของ เพิ่มพล กับ สุภัค ทั้งตำแหน่งแชมป์เวิลด์ คัพ และเวิลด์ ซีรีส์ แต่สุดท้าย สุภัค โชคร้ายเรือมีปัญหาระหว่างแข่ง อันดับ 1 โมโตนี้เป็นของ สุภทัต ฟูตระกูล ส่วนเพิ่มพล เข้าเป็นที่ 2 และ บุ๊ค เสริมสุวรรณ เป็นที่ 3 ซึ่งก็เพียงพอที่ทำให้ เพิ่มพล คว้าแชมป์เวิลด์ คัพ และถ้วยพระราชทานฯด้วยคะแนนรวม 226 คะแนน รองแชมป์เป็น สุภัค 197 คะแนน และ บุ๊ค เป็นอันดับ 3 มี 182 คะแนน
เพิ่มพล ยังคว้าแชมป์ ออฟ เดอะ แชมป์ "เวิลด์ ซีรีส์ 2019" รุ่นนี้เมื่อรวมคะแนน 3 สนามจากศึกยุโรปที่เบลเยี่ยม, เวิลด์ ไฟนอล ที่สหรัฐ และเวิลด์ คัพ ที่ไทย สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแข่งไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์เวิลด์ ซีรีส์
รุ่นเจ็ตสกีที่แรงและเร็วที่สุดในโลกโปรเจ็ตสกีนั่ง จีพี (Pro Runabout GP) ทำการแข่งขัน 3 โมโต ในโมโต 2 โมฮาเหม็ด เบอร์บาย่า ตัวเต็งจากคูเวตที่เรือมีปัญหาในโมโตแรก กลับมาแก้ตัวไล่แซง มาร์คัส ยอร์เกนเซ่น มือดีจากเดนมาร์ก เข้าเป็นที่ 1 ตามด้วย ยอร์เกนเซ่น และ ฌอง บอตติ จากฝรั่งเศส ส่วน วาลิด อัลชาร์ชานี่ ของคูเวตที่ 1 จากโมโตแรกหลุดไปถึงอันดับ 10
ในโมโตตัดสิน ยอร์เกนเซ่น ที่มีคะแนนนำจาก 2 โมโต พลาดตกน้ำ แต่ก็ยังกลับมาสู้จนเข้าที่ 4 อันดับ 1 เป็น ฌอง บอตติ ตามด้วย ฮาจิเมะ อิซาไซ จากญี่ปุ่น และ โมฮาเหม็ด เบอร์บาย่า จากคูเวต ซึ่งรวมคะแนน 3 โมโต ยอร์เกนเซ่น ยังคว้าแชมป์เวิลด์ คัพ และถ้วยพระราชทาน 149 คะแนน เฉือน บอตติ แค่ 2 คะแนน อันดับ 3 เป็น ฟิล โปป จากสหราชอาณาจักร์ ส่วนแชมป์เวิลด์ ซีรีส์ เป็นของ เบอร์บาย่า จากคูเวต
รุ่นโปรสปอร์ต จีพี (Pro Sport GP) สุภัค เสร็จธุระ แชมป์โลกเวิลด์ ไฟนอล ที่สหรัฐ ลุ้นแชมป์กับ ดัสติน ฟาร์ทติ้ง จากสหรัฐ แต่น่าเสียดายที่โมโต 3 สุภัค ประสบอุบัติเหตุตกน้ำต้องออกจากการแข่งขันไม่มีคะแนน ทำให้ ฟาร์ทติ้ง เข้าที่ 1 สบายๆ ตามด้วย คริส แม็คคลอกเกจ เพื่อนร่วมชาติ และ ธภัทรวัฒน์ โจสรรค์นุสนธิ์ นักแข่งไทย
ก่อนโมโตสุดท้าย ฟาร์ทติ้ง ก็ยังเข้าวินอันดับ 1 เหมือนเดิม คว้าแชมป์เวิลด์ คัพ และถ้วยพระราชทานฯด้วยคะแนน 233 คะแนน รองแชมป์เป็น คริส แม็คคลอกเกจ 170 คะแนน ส่วน สุภัค ยังคว้าอันดับ 3 ได้มี 154 คะแนน ส่วนแชมป์เวิลด์ ซีรีส์ เป็นของ โจอิชิโร่ ทาคาโน่ จากญี่ปุ่น ซึ่งได้อันดับ 5 ในสนามนี้
สุดยอดเจ็ตสกียืน โปรเจ็ตสกียืน กรังด์ปรีซ์ (Pro Ski GrandPrix) เฌเรมี โพเรต์ แชมป์โลกชาวฝรั่งเศส อันดับ 1 โมโตแรก และที่ 2 โมโต 2 ยังฟอร์มแรงในโมโต 3 ขึ้นนำและเข้าที่ 1 แบบไม่มีใครแซง ขณะที่ตัวเต็งรายอื่นๆสลับอันดับกันตลอดก่อน มาร์เทน มานนี จากเอสโตเนียเป็นที่ 2 และ ราฟาแอล เมาริน เป็นที่ 3
โมโตสุดท้าย เควิน เรทเทอเรอร์ จากออสเตรียที่นำมาตลอดเกิดเรือเสียทำให้ ราฟาแอล เมาริน แซงเป็นที่ 1 มาร์เทน มานนี่ ตามมาเป็นที่ 2 ขณะที่ โพเรต์ เข้าที่ 3 แต่ก็เพียงพอจะได้แชมป์เวิลด์ คัพ และถ้วยพระราชทานฯไปครองด้วยคะแนน 221 คะแนน รวมทั้งยังคว้าแชมป์เวิลด์ ซีรีส์ ของรุ่นนี้เช่นกัน รองแชมป์เป็น เมาริน 204 คะแนน เฉือนชนะ มานนี อันดับ 3 ที่มี 202 คะแนน
รุ่นโปร ฟรีสไตล์ (Pro Freestyle) แชมป์เวิลด์ คัพ และถ้วยพระราชทานฯเป็นของ ไทจิ ยามาโมโต้ จากญี่ปุ่น และแชมป์เวิลด์ ซีรีส์ เป็นของ ลี สโตน จากสหราชอาณาจักร
อีกรุ่นที่นักแข่งไทยคว้าแชมป์โลกเป็นรุ่นอาชีพเจ็ตสกีนั่ง โอเพ่น (Pro-Am Runabout Open) อรพรรณ ธีรพัฒน์พาณิชย์ นักแข่งสาวไทยเอาชนะบรรดานักแข่งชายจนคว้าแชมป์ไปด้วยคะแนน 221 คะแนน รองแชมป์เป็น ซาดาฮิโร่ มิคามิ จากญี่ปุ่น และที่ 3 จุนอิจิโร่ โคกิตะ จากญี่ปุ่นเช่นกัน
สรุปผลงานทัพเจ็ตสกีไทยในเวิลด์ คัพ ครั้งนี้คว้าแชมป์โลกได้ 7 แชมป์ และแชมป์เวิลด์ ซีรีส์ อีก 1 ถ้วย ขณะที่ถ้วยพระราชทานฯรุ่นโปรทั้ง 6 รุ่นอยู่ที่ไทย 1 ถ้วย ฝรั่งเศสกวาดไป 2 ถ้วย ไปอยู่ที่เดนมาร์ก 1 ถ้วย, สหรัฐ 1 ถ้วย และญี่ปุ่น 1 ถ้วย
ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่เดินทางมาร่วมชมการแข่งขันและมอบรางวัล ชมการจัดการแข่งขัน "การบินไทย เจ็ตสกี เวิลด์ คัพ 2019" ว่าเป็นการจัดการแข่งขันเจ็ตสกีนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จากข้อมูลที่มีผู้ชมทั้งชาวไทยและต่างประเทศร่วมชมที่สนามมากกว่าวันละ 8,000 คน สร้างรายได้ให้ประเทศไทยเฉลี่ยหัวละ 8,000 บาทต่อคนต่อวัน
นอกจากนี้ยังได้รับความสนใจจากนักแข่งมากที่สุดในโลกเช่นกัน เมื่อมีนักแข่งต่างชาติร่วม 2,000 คน จาก 42 ประเทศ ซึ่งจุดนี้สร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทยมากมาย ทั้งการแพร่ภาพผ่านสถานีโทรทัศน์ชั้นนำของโลกอย่าง ยูโร สปอร์ต เข้าถึงผู้ช 137 ล้านครัวเรือน สร้างมูลค่าทางการสื่อให้ประเทศไทยมากกว่า 3,000 ล้านบาท