บี บางปะกง
เสาร์ที่ 7 ธ.ค.นี้ เชื่อเหลือเกินว่า จะมีกลุ่มทัวร์ของแฟนบอลชาวไทยไปรวมตัวกันที่นิสสัน สเตเดียม ประเทศญี่ปุ่น อย่างมากมาย!!
เพื่อร่วมกันเป็นสักขีพยานให้นักเตะไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่จะคว้าถาดแชมป์เจลีกมาครอง
“โก๋อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน สุดยอดวิงแบ็กซ้าย “เบอร์ 1” ของทีมชาติไทย กำลังจ่อเขียนตำนานหน้าใหม่ให้วงการลูกหนังอาเซียน ด้วยการพาต้นสังกัด โยโกฮามา เอฟ มารินอส เข้าป้ายซิวตำแหน่งแชมป์ลีกสูงสุดแดนซามูไร
ลูกทีมของ อังเก ปอสเตโคกลู กุนซือใหญ่ชาวออสเตรเลีย มาแรงแซงทางโค้งในช่วง 3 นัดสุดท้าย ที่พวกเขาคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งจนทำแต้มขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของตารางได้สำเร็จ
โดยสัปดาห์ล่าสุด มารินอส ผ่านเกมยากที่สุดของซีซัน ด้วยการบุกไปถล่มเอาชนะแชมป์เก่า 2 สมัยซ้อน คาวาซากิ ฟรอนตาเล อย่างขาดลอยถึง 4-1
ขณะที่ทีมลุ้นแชมป์ ทั้ง เอฟซี โตเกียว ทำได้แค่เปิดบ้าน เสมอ อุราวะ เรด ไดมอนส์ 1-1 ส่วน คาชิมา แอนท์เลอร์ส ยิ่งหนักกว่าเพราะแพ้คาบ้านให้ วิสเซล โกเบ 1-2
ทำให้เหลือเพียง โยโกฮามา เอฟ มารินอส และ เอฟซี โตเกียว ที่ได้ลุ้นแชมป์ถึงนัดสุดท้าย
ซึ่งต้องบอกเลยว่าโอกาสของทีม “เจ้าอุ้ม” แทบจะแบเบอร์แล้วด้วยซ้ำ เพราะ มารินอส มีแต้มห่างถึง 3 คะแนน และนัดสุดท้ายทั้งคู่จะพบกันที่บ้านของทีมจ่าฝูงด้วย
หากเจ้าถิ่น สามารถ ชนะ เสมอ หรือแพ้ไม่เกิน 3 ประตู ก็จะทำให้พวกเขาเถลิงแชมป์เจลีก เป็น สมัยที่ 4 ทันที
และนั่นก็จะทำให้ “ธีราทร บุญมาทัน” จารึกชื่อตัวเองด้วยการเป็นแชมป์ลีกซามูไรคนแรกที่เป็น “คนไทย”
น่าภูมิใจแทน “บุญจัง” กับความสำเร็จที่อยู่แค่เอื้อมจริงๆนะครับ
ใครเลยจะคิดว่าผู้เล่นแนวรับที่ไม่ประสบความสำเร็จในการมาค้าแข้งที่แดนปลาดิบปีแรก กับ วิสเซล โกเบ จนต้องย้ายมาร่วมทีม มารินอส ในฤดูนี้จะโชว์ฟอร์มได้อย่างเข้าตาสุดๆ
ทั้งที่ช่วงแรกเจ้าตัวเผชิญปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานจนเกือบถอดใจไปแล้ว
แต่พอหายกลับมา “โก๋อุ้ม” กลับโชว์ฟอร์มเทพในบอลถ้วย จนยึดตำแหน่งตัวจริงในลีกอย่างต่อเนื่อง และเป็นตัวจักรสำคัญที่กุนซือออสซี่จะขาดไปไม่ได้ เพราะเขาช่วยให้ทีมโกยแต้มจากคู่ต่อสู้เป็นกอบเป็นกำ
ลงเล่นศึกเจ ลีก 33 เกม เป็นตัวจริง 24 นัด ไม่เคยเป็นสำรอง และทำประตูได้ 2 ลูก บวกแอสซิสต์อีก 3 ลูก การันตีความเจ๋งเป้งของ “ซ้ายปิศาจ” ทีมช้างศึกเป็นอย่างดี
ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ ธีราทร กำลังจะได้ สัมผัสในวันเสาร์นี้ ตอกย้ำสถิติอันสวยสดงดงามในการค้าแข้งของตัวเขาเองที่ไม่ว่าจะไปเล่นอยู่ที่ไหน ก็พานพบแต่โทรฟี่ “แชมป์” ไม่เคยขาด
ไล่ตั้งแต่การคว้าถ้วยนับสิบรายการในสีเสื้อเซราะกราว บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก่อนจะย้ายมาประสบ ความสำเร็จกับทีม “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทองฯ
กระทั่งตัดสินใจออกมาผจญภัยในต่างแดนกับลีกระดับสูงกว่า ก็ไม่วายที่การเป็นแชมป์จะมาบรรจบกับเขาอีกจนได้
มีคนเคยบอกว่า ถ้า “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ คือนักฟุตบอลไทยที่เก่งฉกาจที่สุดในยุคนี้
“อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน นี่แหละ น่าจะเป็นแข้งไทยที่ทรงประสิทธิภาพ
ที่ทุกทีมอยากได้ไปครอบครองที่สุด...
ไม่แพ้กัน!!!
บี บางปะกง