หน้าแรกแกลเลอรี่

เชียร์ลีดดิ้ง "ทีมไทยแลนด์" ตั้งเป้าคว้าแชมป์โลกที่ญี่ปุ่น

ไทยรัฐออนไลน์

21 พ.ย. 2562 14:30 น.

เชียร์ลีดดิ้งประเทศไทย เตรียมล่าแชมป์โลกในการแข่งขัน “The 10th Cheerleading World Championships 2019” ระหว่างวันที่ 23 – 24 พ.ย. 2562 ณ เมืองทาคาซากิ ประเทศญี่ปุ่น 

กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ สหพันธ์กีฬาเชียร์ลีดดิ้งประจำประเทศไทย สมาคมเชียร์ลีดดิ้งแห่งประเทศไทย โดยการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส่งทัพนักกีฬาไทยกว่า 100 ชีวิตเดินทางร่วมการแข่งขันเชียร์ลีดดิ้งชิงแชมเปี้ยนโลก ครั้งที่ 10 “The 10th Cheerleading World Championships 2019” ระหว่างวันที่ 23–24 พ.ย. 2562 ณ เมืองทาคาซากิ ประเทศญี่ปุ่น

ทั้งนี้ ดร.ฐิติพงศ์ นันทาภิวัฒน์ กรรมการบริหารสหพันธ์กีฬาเชียร์ลีดดิ้งนานาชาติ เลขาธิการสหพันธ์กีฬาเชียร์ลีดดิ้งประจำประเทศไทย และกรรมการบริหารสมาคมเชียร์ลีดดิ้งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับสหพันธ์กีฬาเชียร์ลีดดิ้งประจำประเทศไทย สมาคมเชียร์ลีดดิ้งแห่งประเทศไทย โดยการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ส่งทีมนักกีฬาเชียร์ลีดดิ้งและเชียร์ดานซ์เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันเชียร์ลีดดิ้งชิงแชมเปี้ยนระดับโลก โดยครั้งนี้ประเทศไทยส่งทีมนักกีฬาร่วมการแข่งขันกว่า 100 คน ประเทศไทยส่งแข่งขัน 12 ประเภท จากทั้งหมด 19 ประเภท โดยเป็นทีมจาก "สโมสรศราญญ์สตูดิโอ" "สโมสรโรงเรียนเทศบาล 3 (ตลาดล่าง) นครสุราษฎร์ธานี" และ "สโมสรมหาวิทยาลัยรังสิต" แบ่งเป็น รุ่นอายุ 7-12 ปี 

ดร.ฐิติพงศ์ กล่าวเสริมว่า "กีฬาเชียร์ลีดดิ้งสามารถส่งเสริมการสร้างสปิริต คุณธรรม การทำงานเป็นทีม และพัฒนาความสามารถแก่เยาวชนไทยอย่างแท้จริง โดยนักกีฬาเชียร์ลีดดิ้งและเชียร์ดานซ์จากประเทศไทยได้เข้าร่วมการแข่งขัน CWC มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2009 และคว้าแชมป์โลกในประเภทการแข่งขันต่างๆ มาตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่าเยาวชนไทยมีความสามารถระดับโลก สามารถเข้าร่วมแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง สร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทย ทั้งนี้ในการแข่งขัน CWC 2019 จะมีนักกีฬาเชียร์ลีดดิ้งและเชียร์ดานซ์จากทุกทวีปทั่วโลกร่วมการแข่งขัน เช่น ญี่ปุ่น (เจ้าภาพ), รัสเซีย, เนเธอร์แลนด์, โปแลนด์, สโลเวนีย, สหราชอาณาจักร, อิตาลี, คิวบา, บราซิล, เอกวาดอร์, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, ฮ่องกง, ไชนีส-ไทเป, เยอรมนี, เกาหลีใต้ และประเทศไทย".