หน้าแรกแกลเลอรี่

เรียงหน้าชน : กระจกซีเกมส์

เบี้ยหงาย

9 พ.ย. 2562 05:01 น.

กลิ่นอายซีเกมส์ ฉุนขึ้นทุกที วันวาน พล.อ.กิตติเชษฐ์ ศรดิษฐพันธ์ ประธานโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย นำทีมช่อง 3, 5, 7, 9 และเอ็นบีที 2 HD ก็ช่อง 11 เดิมนั่นแหละ เปิดแถลงข่าวการถ่ายทอดสดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ซึ่งประเทศฟิลิปปินส์จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 30 พ.ย. ถึง11ธ.ค.นี้

ส่วนช่องไหนจะถ่ายอะไร เมื่อไหร่ เวลาไหนบ้าง เขาหมุนสลับกัน จำกันลำบาก รอดูกันหน้างานวันต่อวันดีที่สุด แต่ที่แน่ๆก่อนพิธีเปิดเป็นทางการ มีกีฬายอดฮิตอย่างฟุตบอลชายเตะกันก่อน ซึ่งนัดแรก ไทยพบอินโดนีเซีย ในวันที่ 26 พ.ย. เป็นคิวของ ช่อง 7 ในเวลา 15.00 น.

ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน สมาคมนักข่าวช่างภาพ กีฬาฯก็จัดงาน “มีตเดอะเพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่30” ซึ่งเชิญสมาคมกีฬาต่างๆที่จะไปแข่งขันมาประเมินความหวังเป็นชุดๆ จัดมาสักพักแล้ว และยังจะมีต่อไปเพราะยังไม่ครบ ก็กีฬาซีเกมส์ครั้งนี้แข่งกันมากมายกว่า 50 ชนิดกีฬา แถมจนถึงขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียงไม่ถึงเดือน เจ้าภาพยังไม่สรุปชัดๆ ขนาด “บิ๊กจา” พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ ถามไปเอง ก็ยังไม่ได้คำตอบในขั้นสุดท้าย ซึ่งก็คงมีแต่ซีเกมส์เท่านั้นที่มีประเด็นอย่างนี้

ขณะที่บรรยากาศ และความคาดหวัง ปนคาดเดาที่ออกจะระแวง เพื่อให้เกิดความระมัดระวัง ยังมุ่งไปที่ความพร้อมไม่พร้อมของฟิลิปปินส์ ทั้งสนามและการบริหารจัดการ ความขลุกขลักต่างๆนานา รวมถึงความปลอดภัยในการไปใช้ชีวิตที่นั่น ซึ่งมีการตักเตือนกันล่วงหน้า

และที่สำคัญ เรื่องของการตัดสิน โดยเฉพาะกีฬาที่ไม่ใช้สถิติ อันเป็นวิทยาศาสตร์ แต่มีนัยของการใช้ความคิดเห็น และมุมมองของกรรมการเป็นสำคัญ พูดง่ายๆก็ระวังถูกโกง และถูกเอารัด เอาเปรียบ ว่างั้นเถอะ

ยังมีเรื่องของการตั้งข้อสังเกตกับกีฬาที่บรรจุ ทั้งที่เป็นสากล กีฬาถิ่น กีฬาแปลกๆที่เพิ่มเติมเข้ามา รวมถึงการตัดกีฬาสากลบางอีเวนต์ออกไป เพื่อชิงความได้เปรียบ และเพิ่มโอกาสในจำนวนเหรียญทองของเจ้าภาพ นั่นทำให้ไทยเราต้องดึงไปใช้ตัวชี้วัดกับกีฬาสากลเป็นหลัก

ซึ่งก็เป็นประเด็นแทบทุกครั้งเมื่อการแข่งขันกำลังจะเกิดขึ้น

นั่นแสดงให้เห็นว่า ทรรศนะของซีเกมส์ ไม่เปลี่ยนแปลง เคยเป็นไง ก็เป็นงั้น!

เช่นกันสิ่งที่คล้ายๆเดิมๆ ซึ่งปรากฏให้เห็น ก็คือคนกีฬา โดยเฉพาะผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงกีฬาทั้งหลาย มีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก นักกีฬายังมีโอกาสเปลี่ยนได้ง่ายกว่าและบ่อยกว่ามาก ถ้าฟอร์มตก หมดความหวัง แต่กลุ่มคนระดับสูงในกีฬาไทยนั้นแทบไม่มีความแตกต่างออกมาให้เห็น

ซีเกมส์เป็นวงรอบทุก 2 ปี ที่ผู้บริหารกีฬาในอาเซียนได้พบปะ เชื่อมสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน เป็นเวทีที่นักกีฬาของแต่ละชาติ จะได้มาประลอง ทดสอบ เพื่อก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้นอย่างเอเชียนเกมส์และโอลิมปิกเกมส์

ด้วยมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาบุคลากรกีฬา นักกีฬา สนามแข่งขัน รวมไปถึงการยกระดับมาตรฐานกีฬา และการบริหารจัดการให้สูงขึ้น

สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำเหล่านี้ พอจะชี้ให้เห็นได้หรือไม่ว่า กีฬาซีเกมส์ ซึ่งมีมิติย่อยของกีฬาในหมู่ชาติสมาชิก รวมทั้งไทยเรา เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ พัฒนาหรือไม่ และจุดไหนเป็นปัญหา!

กระจกซีเกมส์ สะท้อนให้เห็นอะไร...


“เบี้ยหงาย”