พาวเวอร์บอมบ์
(ภาพ) เอเลียด คิปโชเก
สัปดาห์ที่ผ่านมา “เอเลียด คิปโชเก” นักวิ่งปอดเหล็กเจ้าของสถิติโลก ชาวเคนยา สร้างสถิติอันน่ามหัศจรรย์ ด้วยการเป็นมนุษย์คนแรกที่วิ่ง “ฟูล มาราธอน” ระยะทาง 42.195 กม. ด้วยการใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ในการวิ่งที่ชื่อ INEOS 1:59 Challenge ซึ่งจัดขึ้นพิเศษ ที่ประเทศออสเตรีย
เขาทำสถิติได้ 1.59.40.2 ชั่วโมง เรื่องนี้สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก
บทความต่อไปนี้เป็นบางช่วงบางตอนที่อยู่ในเพจที่ชื่อ Running Insider น่าสนใจทีเดียวครับ
การวิ่งใน INEOS 1:59 Challenge ถูกออกแบบให้มีเป้าหมายแรกที่ 1.59.50 เพื่อป้องกันการผิดพลาดทดไว้ 9 วินาที
คิปโชเกใช้เวลาวิ่งครึ่งแรกที่ 59.54 นาที และวิ่งครึ่งหลังที่ 59.47 นาที เร็วขึ้นอีก 7 วิ.
อ้างอิงจากผลการวิเคราะห์ของอัลเบอร์โต มาสซุสเซลลิ นักวิทยาศาสตร์การกีฬาชาวอิตาลี บันทึกว่า เพซที่ช้าที่สุดของเอเลียดในครั้งนี้คือ 2.52/Km เกิดขึ้นทั้งหมด 6 ครั้ง-เพซที่เร็วที่สุดของเอเลียด คือ 2.48/Km เกิดขึ้นทั้งหมด 9 ครั้ง-เพซ 2.50/Km ที่เป็นโจทย์หลักครั้งนี้ เอเลียดวิ่งในโซนความเร็วนี้ได้มากถึง 24 ครั้ง
หรือว่ามีมากถึง 24 กิโลเมตรที่เขารักษาช่วงความเร็วนี้ได้อย่างมั่นคง (ที่เหลือเป็นเพซ 2.51)
เอเลียดวิ่งจาก กม.33-40 อย่างมั่นคงและผ่อนคลายขึ้นมีรอยยิ้มให้เห็นบ่อยๆ นับว่าน่าทึ่งที่สามารถรักษาช่วงความเร็วที่มั่นคงเช่นนี้ได้ในการเข้าสู่ชั่วโมงที่ 2 ที่อุณหภูมิสูงขึ้น กล้ามเนื้อถูกบดอย่างต่อเนื่อง
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า Pacer Warrior ที่ทำให้เกิดจังหวะความเร็วที่คงเส้นคงวา วิ่งกันดั่งเครื่องจักร
ช่วงสุดท้ายที่วิ่งไปเข้าเส้นชัย กม.41 ไป 42 เอเลียดวิ่งที่เพซ 2.49 เพื่อจบประวัติศาสตร์หน้าสำคัญนี้
เขาแสดงออกถึงความแข็งแรงดั่งนักรบเคนยา แตะหน้าอกตัวเอง 2 ครั้งก่อนพุ่งทะยานสู่คานเวลาเส้นชัยเหมือนกับภาพที่พวกเราเคยเห็นในเบอร์ลินปี 2018 ตอนทำลายสถิติโลก 2.01.39
แต่ครั้งนี้เอเลียดมาเร็วกว่าเดิม 1 นาที 59 วินาทีเสียแล้ว
ที่เส้นชัยบนถนนฮัพทาเล ในสวนเดอะ พราเธอร์ เสียงผู้ชมร้องดีใจคละเคล้ากันหลายชาติหลายภาษา วันนี้มีภรรยาและลูกทั้งสามคนยืนรอรับ เป็นครั้งแรกที่มีครอบครัวเป็นกำลังในสนาม ถัดมามีโค้ช แพททริก แซง รอรับสวมกอดและอุ้มชูเขาขึ้น
โค้ชที่เสมือนเป็นคุณพ่อคนที่ 2 เทรนให้เอเลียดมา 19 ปี จากนั้นทีมเพซเซอร์ทั้ง 41 ชีวิตก็เข้ามาอยู่ในฉากจบที่ชื่นมื่น
เอเลียดให้สัมภาษณ์หลังจากหยุดเวลาที่ 1.59.40.2 ชั่วโมงว่า เขามีเพซเซอร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ความสำเร็จในวันนี้
ส่วนหนึ่งมาจากยอดนักวิ่งทุกคนที่เคียงข้างนำทางผม
เป้าหมายต่อไปของวีรบุรุษผู้นี้ ที่เชื่อว่าเป็นความใฝ่ฝันต่อเขาและชาวเคนยาเช่นกัน นั่นคือ
ลงแข่งมาราธอนที่ #Tokyo2020 เพื่อชนะเหรียญทองมาราธอนเป็นสมัยที่ 2 และหากเขาสามารถไปย้ำชัยชนะที่เบอร์ลินมาราธอนอีกครั้ง จะขึ้นเป็นแชมป์สมัยที่ 4 เช่นเดียวกับที่เคยทำไว้ในลอนดอนมาราธอน
หลังจากนี้เป็นกำไรและจารึกชื่อเป็นตำนานเกียรติยศ จากอดีตเด็กส่งนมที่ไปขอตารางซ้อมจากยอดนักวิ่งวิบากที่ลานชุมชนชนบทเมื่อร่วม 20 ปีก่อน
แล้วเราได้เรียนรู้อะไร? จากนักกีฬานามนี้ หาใช่เฉพาะสถิติความเร็วเหนือมนุษย์ หากแต่เป็น “ความเรียบง่าย” สิ่งที่เป็นกระจกสะท้อนถึงความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของเขาในวันนี้ มาด้วยตัวตนภายในมากกว่าเทคโนโลยีใดๆ ที่มาสวมใส่ นั่นคือ วินัย
ไม่นานมานี้ คิปโชเกเคยเล่าเรื่องนี้ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดว่า “ช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะปลูกต้นไม้ คือ 25 ปีที่แล้ว แต่เวลาที่ดีรองลงมาก็คือ วันนี้”
หากคุณอยากสำเร็จสักสิ่ง การปลูกสร้างวินัยต้องเริ่มจากวันนี้ หากไม่มีวินัยแล้ว คุณจะตกเป็นทาสของอารมณ์ ไม่พบอิสระ วินัยเป็นกุญแจไปสู่อิสรภาพ
เมื่อถอดแบบสิ่งที่เขาถ่ายทอดไว้มี 8 เรื่องที่เป็นแกนชีวิต และ 8 เรื่องนั้นก็ล้วนอยู่ในทุกอณูของเขาตั้งแต่ตัดสินใจทุ่มเทเป็นนักวิ่งมาราธอนอาชีพตอนปี 2013
1.มีวินัยต่อตัวเอง 2.เตรียมตัวให้ดีที่สุด 3. มีการจัดการที่ดีเสมอ 4.ตัดความคิดลบๆออกไป 5.ทำงานร่วมกับคนอื่น 6.ลงมือทำสม่ำเสมอ 7.ยอมรับความเปลี่ยนแปลงได้ และ 8.ออกไปทำด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง
สุดยอดจริงๆครับ
ขอขอบคุณด้วยสำหรับข้อมูลจากเพจ Running Insider.
พาวเวอร์บอมบ์