มะระหวาน
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเปลี่ยนบรรยากาศจากการสูดกลิ่นอายของหญ้าในสนามฟุตบอลไปสูดกลิ่นยางที่ได้รับการเบิร์นในแทร็กสนามแข่งกับรถที่เร็วที่สุดในโลกอย่าง “ฟอร์มูล่า วัน”
เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ได้ดู “เอฟ วัน” ในศึกรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก 2019 หลังจากเคยไปดูตอนที่มาร์ค เว็บเบอร์ จากทีมเรด บูลล์ เรซซิ่ง ที่มาขับโชว์ที่บริเวณถนนราชดำเนินเมื่อ 9 ปีก่อน
ครั้งนั้นว่าตื่นเต้นแล้ว แต่การได้มาดูการแข่งขันแบบเต็มๆ ในรายการ “สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์” มันตื่นเต้นกว่าเยอะ
สำหรับศึก “สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์” ใช้สนามแข่งขันแบบสตรีทเซอร์กิต หรือใช้สนามแข่งบนถนนจริงๆ ไม่ใช่แทร็กสนามแข่งแบบรายการอื่นๆ ในบริเวณรอบมารินา เบย์ที่เป็นไฮไลต์ของประเทศเป็นสนามแข่งขัน
นอกจากผลการแข่งขันแล้ว บรรยากาศนอกสนามก็น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก เพราะคนมากมายมหาศาลที่เข้ามาดูการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งชาวสิงคโปร์เอง หรือชาวต่างชาติ ที่เหินฟ้าบินมาเชียร์ทีมแข่ง หรือนักแข่งคนโปรด
นอกจากชาวชาติอื่นๆแล้ว สำหรับปีนี้ก็มีคนไทยเข้ามาชมกันมากมายกว่าปกติ เนื่องจากในปีนี้มีนักแข่งไทยอย่างอเล็กซานเดอร์ อัลบอน นักขับลูกครึ่งไทย-อังกฤษลงแข่งขัน
อัลบอนออกสตาร์ตปี 2019 ด้วยการแข่งให้ทีม โทโร รอสโซ ก่อนช่วงครึ่งฤดูกาลหลังเรดบูลล์ เรซซิ่ง ที่ถือว่าเป็นทีมพี่ของโทโร รอสโซ ก็ได้ดึงตัวของนักขับวัย 23 ปีขึ้นไปขับเคียงข้างแม็กซ์ เวอร์สแตพเพน ยอดนักซิ่งชาวฮอลแลนด์
โดยในวันเสาร์ ก่อนการแข่ง 1 วัน ผมได้มีโอกาสเข้าไปตะลุยในพิตของทั้งเรด บูลล์ เรซซิ่ง และโทโร รอสโซ บอกได้ว่ามันน่าตื่นเต้นมาก เพราะทราบมาว่าการเข้าไปเดินดูในพิตของทีมแข่งได้นั้นไม่ง่าย
บุกหลังพิตไปดูว่าการวอร์มยางให้พร้อมทำยังไงกันบ้าง ได้ไปยืนมองทีมวิศวกรของแต่ละทีมกำลังจูนรถปรับแต่งห้องเครื่อง เพื่อที่ให้พร้อมลงสนามมากที่สุดในการไล่ล่าตำแหน่งแชมป์มาครอง
แถมยังได้เจออัลบอน นักขับขวัญใจชาวไทยของทีมเรด บูลล์ เรซซิ่งอีกด้วย สำหรับอัลบอน เป็นคนที่อัธยาศัยค่อนข้างดีและเรียบร้อย พูดน้อย แต่เวลาขึ้นรถแล้วเหยียบคันเร่งนั้นสุดดุดันกลายเป็นคนละคนเลยทีเดียว
แต่ที่นี่เป็นมืออาชีพแบบสุดๆ ทีมงานจัดเวลาให้คุณแค่ 3 นาที ก็ 3 นาทีเป๊ะจริงๆ ห้ามเกินเลยทีเดียว เพราะนักแข่งแต่ละคนต้องการเวลาพักผ่อนและทำสมาธิพอสมควร
นอกจากนั้น วันแข่งยังมีโอกาสได้นั่งดูอยู่บริเวณแกรนด์สแตนฝั่งตรงข้าม พิต สต็อปได้เห็นลีลาการทำงานของทีมแข่งต่างๆในการเปลี่ยนยางให้กับนักแข่ง เรียกได้ว่าเปลี่ยนยางทั้ง 4 ล้อใช้เวลาไม่เกิน 2 วินาทีเท่านั้น
ส่วนผลการแข่งขันสนามนี้ แชมป์ตกเป็นของเซบาสเตียน เวทเทล นักขับชาวเยอรมันของเฟอร์รารี ส่วนอันดับ 2 ก็เป็นเพื่อนร่วมทีมจากเฟอร์รารี อย่างชาร์ล เลอแคลร์ ขณะที่อันดับ 3 ตกเป็น ของแม็กซ์ เวอร์สแตพเพน จากเรด บูลล์ เรซซิ่ง
ด้านอเล็กซานเดอร์ อัลบอนนั้น จบอันดับ 6 ถ้าเทียบกับการขับเป็นปีแรกถือว่าเป็นอันดับที่น่าพอใจแบบสุดๆ โดยบรรดากูรูของเอฟ วัน ต่างยกให้อัลบอนเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองในศึกเอฟวันในอนาคต
ต้องขอขอบคุณบริษัท สยามไวเนอรี คอมเมอร์เชี่ยล จำกัด และยูโรเปียน เรดบูลล์ ที่ได้พาไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆในศึก “สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์” ไปดูในสิ่งที่คนอื่นๆ ไม่ได้เห็นกัน
เรียกได้ว่าพาไปชมกันแบบเอกซ์คลูซีฟจริงๆ
ต้องขอขอบคุณอีกครั้งไว้ ณ ที่นี้.
มะระหวาน