ระบบไหน

พิพัฒน์ รัชกิจประการ

หลังจากประเทศไทยเรามีรัฐบาลแบ่งสรรกระทรวงต่างๆกัน เรียบร้อย เข้าไปนั่งบัญชาการกันมาระยะหนึ่ง ก็ถึงเวลาจะต้องมีฝ่ายนิติบัญญัติจากรัฐสภา ซึ่งตามหลักการก็คือการเข้ามาตรวจสอบ คะคาน การใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร ในรูปแบบของคณะกรรมาธิการ คณะต่างๆ

ทั้งในส่วนของวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎรวุฒิสภาได้ตัวกันมานานแล้ว แม้หลักการเป็นฝ่ายนิติบัญญัติทำงานสภา แต่ปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร ใครแต่งตั้งเข้ามา แล้วจะมาคะคานกันอย่างไร หรือไม่ ก็ว่ากันไป สังคมรับรู้และคิดได้อยู่แล้ว

จนถึงตอนนี้ไม่รู้มีการแบ่งคณะกรรมาธิการออกมา หรือวางตัวประธานแต่ละคณะกันอย่างไร

ส่วนฝั่ง ส.ส. หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบ่งกรรมาธิการกันเรียบร้อย และวันที่ 11 ก.ย.นี้ ก็จะนำรายชื่อเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ เพื่อให้ความ

เห็นชอบต่อไป ก็คงจะเห็นกันชัดๆว่ากรรมาธิการแต่ละคณะมีใครบ้าง และใครเป็นประธาน

เอากันเฉพาะกิจการงานกีฬาของชาวเรา ซึ่งก็คือ คณะกรรมาธิการกีฬา ในส่วนของ ส.ส. เป็นโควตาของพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ได้มีอะไรผิดไปจากที่คิดกันไว้ ด้วยพรรคภูมิใจไทยจับจอง และจับจ้อง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไว้แต่ต้น ซึ่งก็ได้มาสมใจ แล้วทำไมคณะกรรมาธิการกีฬาจะปล่อยไปให้คนอื่น และก็ไม่รู้จะมีใครแสดงเจตจำนงขอแย่งชิงด้วยหรือไม่

ก็เป็นอันว่า เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ฝ่ายบริหาร รมต.คุมกระทรวง พิพัฒน์ รัชกิจประการ รวมทั้ง รองนายกฯ ที่กำกับดูแล

อนุทิน ชาญวีรกูล ก็หัวหน้าพรรค แล้วฝ่ายนิติบัญญัติ ผู้ตรวจสอบ เสนอแนะ ในรูปของคณะกรรมาธิการกีฬา ก็ภูมิใจไทย!

ส่วนตัวบุคคลใครจะมานั่งเป็นประธานก็ไว้เปิดตัวแล้วรู้เอง แต่พรรคนี้มีหลายท่านที่อยู่ในข่ายเคยจับกีฬามาก่อน อย่าง สรอรรถ กลิ่นประทุม, ชาดา ไทยเศรษฐ์, ภราดร ปริศนานันทกุล, สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ อยู่ในกลุ่มนี้แหละ

เมื่อกิจการงานกีฬาของชาวเรา เป็นของพรรคภูมิใจไทยแบบเบ็ดเสร็จ ทั้งบริหาร และตรวจสอบ นั่นคงจะนำมาซึ่งความราบรื่น มั่นคง ไม่ต้องวอกแวกอะไรทั้งสิ้น

จะมีโชว์ฟอร์มบ้างก็คงเล็กๆน้อยๆ พอเป็นสีสัน ซึ่งก็คงจะมุ่งไปที่หน่วยงานรัฐ และบุคลากรเป็นหลัก ก็ข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดนั่นแหละ ฝ่ายการเมืองคงไม่แตะต้องกันอะไรมากนัก

ฝั่งของวุฒิสภาก็แล้วแต่พระคุณท่าน มีบุคลากรที่พันๆอยู่กับกีฬามาบ้าง อย่าง “เสธ.อู้” พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช, ภาณุ อุทัยรัตน์, ชาญวิทย์ ผลชีวิน, พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก, พล.ต.โอสถ ภาวิไล, ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ รวมทั้งอดีตฝ่ายรัฐบาลที่ดูกีฬาก็พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร และวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ แต่หลายท่านก็คงอยากไปคณะอื่นที่ใหญ่กว่า

ส่วนจะหวังได้หรือไม่ในการเข้ามาทำหน้าที่ของคณะกรรมาธิการ ที่ระบบวางไว้ให้เป็นฝ่ายตรวจสอบ เสนอแนะ คะคานอำนาจของฝ่ายบริหาร!

หรือจะกลับกลายเป็นระบบนิรภัย 2 ชั้น ให้มั่นใจ ปลอดภัยกัน

สังคมจะรับรู้กันเอง...

“เบี้ยหงาย”