โจโจ้
นับเป็นช่วงเวลาดีๆของเหล่านัก กีฬาไทยจากหลายสมาคมฯ ที่ประสบความสำเร็จในหลายเกมใหญ่ระดับนานาชาติ ในช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
ไล่ตั้งแต่ “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักปั่นประเภทลู่ทีมชาติไทยและเจ้าของเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2018 ที่ออกไปคว้าดับเบิลแชมป์คีรินในจักรยานประเภทลู่ ที่อิตาลี ถือเป็นการฉลองตำแหน่งนักกีฬาสมัครเล่นชายยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย
ความสำเร็จของ “จาย” ในครั้งนี้ทำให้คะแนนสะสมเพื่อโควตาโอลิมปิก 2020 ที่โตเกียว เข้าใกล้ความเป็นจริงในการลุยโตเกียวเพราะอันดับโลกน่าจะขยับจากอันดับ 35 ขึ้นไปอยู่ที่ 30 อย่างไม่ต้องสงสัย
อาทิตย์ต่อมา 2 นักปั่นเสือภูเขาไทย “น้องเพ็ชร” วิภาวี ดีคาบาเลส ประเภทดาวน์ฮิลล์หญิง และ “เบสต์” เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ ประเภทดาวน์ฮิลล์ ชาย ยังโชว์ผลงานสุดยอด ด้วยการคว้า 2 เหรียญทองศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่เลบานอน ถือเป็นความสำเร็จต่อเนื่องของสมาคมจักรยานไทย
จากนั้นในช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทีมกำปั้นชายชุดเอ ที่เป็นความหวังในโอลิมปิกเกมส์ก็โชว์ความแกร่งด้วยการคว้าถ้วยพระราชทานพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ศึก “มวยสากล” ไทยแลนด์โอเพ่น 2019 แม้จะไม่ใช่รายการนอกบ้าน แต่ทัวร์นาเมนต์นี้นับว่ายิ่งใหญ่เพราะมีชาติที่เป็นมหา อำนาจของมวยเสื้อกล้ามมาร่วมดวลหมัดอย่างคับคั่ง
จนมาถึงช่วงต้นสัปดาห์นี้เป็นนักตบลูกขนไก่ไทย “เจ้าวิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ทำผลงานได้อย่างสุดเนี้ยบด้วยการคว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์เอเชียอายุไม่เกิน 19 ปี ที่จีนและถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการแบดมินตันไทยเพราะเป็นนักแบดเยาวชนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในประเภทบุคคล
และที่ผ่านมาหมาดๆ เป็นคิวของ 2 นักบิดไทยจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ที่สร้างผลงานกระหึ่มแดนปลาดิบ “น้องมุกข์” มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่ง ที่ควงคู่ “เจ้าฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ คู่หู คว้าแชมป์รถจักรยานยนต์ทางเรียบมาราธอนนานาชาติสุดหฤโหด รายการ ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019 มาครองได้สำเร็จ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย
ที่นอกเหนือกว่านั้นคือบรรดาสื่อปลาดิบต่างตีข่าวถึงความสำเร็จของ “มุกข์ลดา” เพราะเป็นผู้หญิงคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์รายการหฤโหดครั้งนี้ได้
ส่วนค่าย ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม แม้จะไม่ถึงโพเดียมแต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอีกขั้นในการลงแข่ง “ซูซูกะ 8 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ 2019” เมื่อคู่หูนักบิดไทย “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ พร้อมด้วย “เจ้าโฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ผนึกกำลังนักแข่งระดับแชมป์ของประเทศญี่ปุ่น “ชินอิจิ นากาโทมิ” จบอันดับที่ 29 นับเป็นนิมิตหมายที่ดีในการลุยศึกปีหน้า
ทั้งหมดทั้งมวลเพราะความใส่ใจของผู้ใหญ่ในสมาคมหลายท่านที่คอยดูแลและเพาะบ่มนักกีฬาของแต่ละค่ายอย่างเป็นรูปธรรมจนทำให้มีผลงานอย่างน่าประจักษ์
โดยเฉพาะความสำเร็จของหลายสมาคมกีฬาทั้งจักรยาน แบดมินตัน และมวยสากลสมัครเล่น จะเป็นแรงผลักดันให้ก้าวไปถึงฝันในเกมระดับชาติอย่างซีเกมส์ที่จะมาถึงในปลายปีนี้
รวมถึงเกมใหญ่ที่เป็นเป้าหมายสูงสุด “โอลิมปิกเกมส์ 20” ในปีหน้า.
โจโจ้