หน้าแรกแกลเลอรี่

"ดร.วิชิต" ผิดหวัง ผลงานปัญญาชนไทยในกีฬาม.โลก 2019 ไม่เข้าเป้า

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

16 ก.ค. 2562 15:30 น.

รศ.ดร.วิชิต คนึงสุขเกษม หัวหน้านักกีฬาปัญญาชนไทย แนะให้ดูการเตรียมพร้อมของญี่ปุ่น เจ้าเหรียญทองในกีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 30 “เนเปิล 2019” ที่อิตาลี ซึ่งเพิ่งจบลงไปให้ดี เพราะใช้ทัพนักกีฬาจากชุดโอลิมปิก 2020 มาแข่งขันในครั้งนี้ ส่วนทีมตบลูกยางสาวไทย ส่อชวดแข่งครั้งหน้า หลังจากครั้งล่าสุด จบอันดับ 15 จากทั้งหมด 16 ทีม โดยตามระเบียบจะมีการคัดเอา 3 ทีมท้ายสุดออกไป ขณะที่กรีฑาพลาดเป้าไปมาก ผลงานน่าผิดหวังหลายประเภท

หลังจากจบการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 30 “เนเปิลส์ 2019” ที่เมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี ไปเรียบร้อยแล้ว โดยทัพนักกีฬาปัญญาชนไทย ทำได้ 1 เหรียญทอง 4 เหรียญทองแดง ล่าสุด รศ.ดร.วิชิต คนึงสุขเกษม หัวหน้านักกีฬาปัญญาชนไทย กล่าวว่า ภาพรวมของทัพไทยครั้งนี้ ถือว่ายังมีเหรียญทองอยู่ แต่ก็ยังมีหลายกีฬาที่ทำผลงานไม่น่าพอใจ โดยเฉพาะวอลเลย์บอลหญิง ที่ได้อันดับ 15 จาก 16 ทีม ซึ่งระเบียบการแข่งขันจะคัดเอา 3 ทีมท้ายสุดออกจากการแข่งขันในครั้งหน้า ซึ่งไทยมีโอกาสสูงที่จะไม่ได้เล่น แต่ยังไม่แน่ว่าจะทำอย่างไรถึงจะได้กลับเข้ามาเล่นในกีฬามหาวิทยาลัยโลกให้ได้ เพราะถ้าหยุดแข่งขันจะทำให้ทีมหายไปจากกีฬามหาวิทยาลัยโลก เหมือนที่ฟุตบอลโดนไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งวอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่คนไทยสนใจ และเคยทำเหรียญรางวัลให้ทีมปัญญาชนไทยมาแล้ว

หัวหน้านักกีฬาไทยกล่าวต่อว่า กีฬาที่น่าผิดหวังที่สุด คือกรีฑา เพราะเป็นกีฬาที่ได้ตัวนักกีฬาทีมชาติชุดใหญ่มาหลายคน และมีผลงานที่ดีในระดับเอเชียนเกมส์และชิงแชมป์เอเชียมา รวมทั้งได้รับการดูแลที่ดีอย่างต่อเนื่องจากสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ ทั้งวิ่งผลัด 4×100 เมตรชาย ที่พลาดในการรับไม้ ขว้างจักรหญิง, เขย่งก้าวกระโดดหญิง, กระโดดค้ำชาย ถ้าสามารถทำสถิติได้เท่ากับในรายการชิงแชมป์เอเชีย ก็มีโอกาสลุ้นถึงเหรียญทอง แต่หลายคนก็มาเจ็บก่อนแข่ง กลับไปถึงประเทศไทยก็ต้องวางแผนร่วมกันใหม่ว่าจะต้องเตรียมทีมอย่างไรในการแข่งขันครั้งหน้า โดยอยากให้นักกีฬาได้พักแข่งขัน 2 เดือน ก่อนมาแข่งขันมหาวิทยาลัยโลก เพื่อให้ได้ผลงานที่ดีกว่านี้

ส่วนเทควันโดมี พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่แบเบอร์อยู่แล้วว่าจะได้เหรียญทองแน่ๆ แล้วก็ทำได้ ขณะที่ยิงปืนนั้น ใช้คะแนนขั้นต่ำของการแข่งขันเมื่อ 2 ปีที่แล้วที่ไต้หวัน ถือว่าเป็นเกณฑ์คัดตัวที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้สู้ชาติอื่นไม่ได้ในการแข่งขันจริง สำหรับฟันดาบถึงไม่มีเหรียญ แต่ก็ทำผลงานได้สูสีกับมือระดับโลก เป็นอีกกีฬาที่จะต้องให้การสนับสนุนต่อ ด้านเทนนิสเอง มีชมภู่ทิพย์ จันดาเขต ที่คว้าเหรียญทองแดงกู้หน้ามาได้ ถือว่าไม่จบมือเปล่า ส่วนยูโดก็ไม่สามารถเข้ารอบลึกได้

รศ.ดร.วิชิตกล่าวต่อว่า หลายกีฬาทีมงานทำเต็มที่ แต่บางกีฬาผลงานก็ไม่ดี ต้องมาคุยกันว่าอะไรเป็นจุดอ่อนและปัญหา เพราะในครั้งหน้าแข่งขันที่จีน เป็นงานที่หนักแน่นอน และจะหนักต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคต อยากให้ทุกสมาคมศึกษาผลงานของนักกีฬาญี่ปุ่นที่คว้าเจ้าเหรียญทองในครั้งนี้ เพราะเขาใช้นักกีฬาชุดที่จะแข่งขันโอลิมปิกมาทดสอบผลงาน มีทีมงานที่คอยติดตามวิเคราะห์ผลงานอย่างละเอียด ซึ่งเห็นผลชัดเจนจากการเป็นแชมป์ในครั้งนี้

“ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ทั้งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ผลงาน 1 เหรียญทอง 4 เหรียญทองแดง ถือว่าดีในระดับหนึ่ง เพราะนักกีฬายุโรปที่มาแข่งก็ฝีมือดีทั้งนั้น ไทยยังเป็นเบอร์ 1 ของอาเซียน แต่มีชาติเอเชียที่ผลงานดีกว่าอยู่หลายชาติ หลังจากนี้ก็ต้องมาเตรียมทีมให้พร้อมมากขึ้น เพื่อจะได้ทำผลงานที่ดีขึ้นในครั้งหน้าที่นครเฉิงตู ประเทศจีน ในอีก 2 ปีข้างหน้า” หัวหน้านักกีฬาไทยกล่าว