ไทยรัฐออนไลน์
น่องเหล็กทีมชาติไทย “สราวุฒิ สิริรณชัย” และ "ศุภักษร นันตะนะ” ผงาดแชมป์จักรยานทางไกล “THE GREAT MEKONG BIKE RIDE 2019” ขณะที่ประเภททีม “sai cycling” คว้าถ้วยไปครอง ด้าน “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” เผยยอดเงินสะพัดกว่า 150 ล้านบาท...
วันที่ 30 มิ.ย. 62 การแข่งขันจักรยานทางไกลแห่งประเทศไทย รายการ “THE GREAT MEKONG BIKE RIDE 2019” ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 1 ล้านบาท โดยจัดการแข่งขันขึ้นช่วงวันที่ 28-30 มิถุนายน แบ่งออกเป็น 3 สเตจ ผ่านเส้นทาง 3 จังหวัด ประกอบด้วย นครพนม, สกลนคร และ มุกดาหาร
การแข่งขันสเตจที่ 1 : King of Speed วันที่ 28 มิถุนายน เริ่มออกสตาร์ทจากพญาศรีสัตตนาคราช จ.นครพนม ปั่นบนถนนทางหลวงสายหลัก มุ่งสู่จ.สกลนคร ระยะทาง 100 กิโลเมตร จากนั้นเข้าสู่สเตจที่ 2 : King of Endurance วันที่ 29 มิถุนายน โดยนายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานปล่อยตัวนักกีฬา ออกสตาร์ทจากประตูเมืองสกลนคร ปั่นบนถนนทางหลวงสายหลัก ก่อนปั่นขึ้นเขาช่วง 5 กิโลเมตรแรก มุ่งสู่จ.มุกดาหาร ระยะทาง 150 กิโลเมตร และปิดท้ายสเตจที่ 3 King of Khong วันที่ 30 มิถุนายน โดยมีนายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานปล่อยตัวนักกีฬา ออกสตาร์ทจากหอแก้วมุกดาหาร ปั่นบนถนนทางหลวงสายหลักเลียบฝั่งแม่น้ำโขง มุ่งสู่จ.นครพนม ระยะทาง 125 กิโลเมตร รวมระยะทาง 3 สเตจ ทั้งหมด 375 กิโลเมตร ซึ่งตลอดเส้นทางการแข่งขัน มีประชาชนออกมาให้กำลังใจนักปั่นกันอย่างล้นหลาม
สำหรับผู้ชนะเลิศในประเภททั่วไปชาย ได้แก่ สราวุฒิ สิริรณชัย ทำเวลา 08.43.09 ชั่วโมง ส่วนผู้ชนะเลิศทั่วไปหญิง ได้แก่ ศุภักษร นันตะนะ ทำเวลา 10.50.41 ชั่วโมง และทีมชนะเลิศคะแนนรวม ได้แก่ Sai Cycling ทำเวลา 08.30:27 ชั่วโมง โดยทั้ง 3 ประเภทได้รับถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การแข่งขันรายการนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี โดยเส้นทางการแข่งขัน สร้างความประทับใจให้กับผู้แข่งขันทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ททท. ได้เก็บภาพความประทับใจแบบจัดเต็ม เพื่อจะนำภาพดังกล่าวมาเป็นของขวัญให้ผู้ร่วมแข่งขันและภาพดังกล่าวจะถูกเผยแพร่ไปสู่สื่อออนไลน์ เพื่อให้เห็นถึงความสวยงามของเส้นทางการแข่งขันที่จะตอบโจทย์ของการท่องเที่ยวเชิงกีฬาไปทั่วโลกด้วย
ขณะที่ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า นครพนมเข้าร่วมจัดการแข่งขันตลอด 4 ปีที่จัดมา ทุกปีได้ยกระดับการแข่งขันและเส้นทางให้ดียิ่งขึ้น ในภาพรวมพึงพอใจการแข่งขันที่มีการพัฒนาขึ้น และสร้างความตื่นตัวให้คนในพื้นที่สนใจการปั่นจักรยาน รวมทั้งยังเติมเต็มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจังหวัด ช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้น
ส่วนนางยุพา ปานรอด ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม ททท. กล่าวว่า ในช่วงแข่งขัน ได้ประเมินยอดเงินสะพัดใน 3 จังหวัดแล้วรวมกว่า 150 ล้านบาท ถือว่าเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน ซึ่ง ททท. มีเป้าหมายจะยกระดับการแข่งขันรายการนี้ไปสู่ระดับโลกภายใน 3 ปีข้างหน้า