มะระหวาน
วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศจากเกมลูกหนัง มาดูอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่ผมชื่นชอบไม่แพ้เกมฟุตบอลนั่นก็คือ บาสเกตบอล ที่เป็นกีฬายอดนิยมของประเทศสหรัฐอเมริกา
สำหรับเกมรอบชิงชนะเลิศหรือเอ็นบีเอ ไฟนอลส์ มีการพลิกล็อกเกิดขึ้นเมื่อ “ไดโนเสาร์” โตรอนโต แร็พเตอร์ส เป็นฝ่ายโค่นยอดทีมอย่าง “นักรบทองคำ” โกลเดน สเตต วอร์ริเออร์ส ไปได้ 4-2 เกม ผงาดคว้าแชมป์ไปครองเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ของทีมที่ก่อตั้งมา 26 ปี
เรียกได้ว่าผลการแข่งขันที่ออกมานั้นหักปากกาเซียนเป็นอย่างมาก เพราะหลังจากได้คู่ชิงชนะเลิศ บรรดากูรูชื่อดังต่างฟันธงว่า วอร์ริเออร์ส จะเอาชนะไปได้แบบไม่ยากเย็น แต่สุดท้ายก็พลิกล็อกถล่มทลาย เป็น แร็พเตอร์ส ที่ซิวโทรฟีแลร์รี โอไบรอัน ไปครอง
ก่อนหน้านี้ แร็พเตอร์ส ทำได้ดีที่สุดแค่เข้าชิงแชมป์สายตะวันออก ไม่เคยผ่านเข้ามาเล่นรอบชิงแต่อย่างใด ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไปได้แค่รอบชิงแชมป์สายเท่านั้น!!
แต่การมาของ คาไว เลียวนาร์ด ทำให้ แร็พเตอร์ส เปลี่ยนไปจาก “ไดโนเสาร์” ที่เชื่องช้าและกลายเป็น “ไดโนเสาร์” ที่ดุร้ายอีกครั้ง
คาไว ถือว่าเป็นหัวใจหลักของ แร็พเตอร์ส ชุดนี้!!
แม้ว่าจะโดนเทรดมาด้วยการสร้างปัญหาให้กับทีมเก่าอย่าง ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส แต่พอย้ายมาอยู่กับ โตรอนโต กลับเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยทีเดียว
แม้ว่าบุคลิกส่วนตัวจะเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่ออกสื่อมากมาย เรียกได้ว่าเป็น “เสือยิ้มยาก” คนหนึ่งของวงการบาสเกตบอล NBA
แต่ด้วยความสามารถมากมายที่อัดแน่นอยู่ในตัว พอลงสนามแล้วก็จะกลายเป็นคนละคนอยู่นอกสนาม ทั้งเกมป้องกันและเกมรุกถือว่าเป็นนักบาสอีกคนที่ครบเครื่องที่สุดแล้วในชั่วโมงนี้
นอกจาก “แร็พเตอร์ส” ที่จะจดจำ คาไว เลียวนาร์ด ไปแล้ว สาวก ไมอามี ฮีต และ โกลเดน สเตต วอร์ริเออร์ส ก็คงจำแม่นไม่แพ้กัน
เพราะเขาคือชายผู้พังทลายความฝันของทั้ง 2 ทีมในการคว้าแชมป์เอ็นบีเอ 3 สมัยติด!!!
นับตั้งแต่ แอลเอ เลเกอร์ส ซิวแชมป์ 3 สมัยติดปี 2000-2002 ยังไม่มีทีมไหนทำได้อีกจนเวลาล่วงเลยมา 16 ปีแล้ว
จนมาถึงคิวของ ไมอามี ฮีต ที่มี เลบรอน เจมส์, ดเวน เวด และ คริส บอช 3 บิ๊กทรีแห่งยุคไล่ตบแชมป์มาแล้ว 2 สมัยในปี 2012 และ 2013 ก่อนจะหวังแชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกันให้ได้ ในปี 2014 แต่สุดท้ายต้องผิดหวังเมื่อโดนทีเด็ดของ คาไว และพ้องเพื่อน ซานอันโตนิโอ เอาชนะไป 4-1 ซึ่งปีนั้น คาไว ก็ได้ ไฟนอลส์ MVP มาครองด้วย
จนมาถึงในปี 2019 หนังม้วนเดิมกลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็น โกลเดน สเตต วอร์ริเออร์ส ที่คว้าแชมป์มาก่อนหน้านี้แล้ว 2 ครั้งในปี 2017 และ 2018 ก็หวังที่จะคว้าแชมป์ 3 สมัยติด แต่ชายผู้เข้ามาพังทลายความฝันของ “นักรบทองคำ” ลงไม่ใช่ใครที่ไหน
“คาไว” คนเดิม เพิ่มเติมคือเปลี่ยนสีเสื้อเป็น แร็พเตอร์ส เท่านั้นยังไม่พอ คาไว ยังรับตำแหน่ง ไฟนอลส์ MVP มาครองอีกครั้งอีกด้วย
เชื่อว่าสาวกทั้ง ไมอามี ฮีต และ โกลเดน สเตต วอร์ริเออร์ส คงจำชื่อ “คาไว” ฝังใจไปอีกนาน
“วินซ์ คาร์เตอร์” จุดประกายให้ “แร็พเตอร์ส” โด่งดัง
“คาไว เลียวนาร์ด” ก็มาเป็นผู้เติมเต็มถ้วยแชมป์ให้ทีมสำเร็จ
และเป็นฮีโร่ของ “แร็พเตอร์ส” ที่แท้จริง.
มะระหวาน