ไทยรัฐออนไลน์
ทัพนักบิดไทย บินลัดฟ้าบุกแดนปลาดิบ ป้องกันแชมป์บิดมาราธอนสุดหฤโหด! ศึกเอ็นดูรานซ์ JP250 4Hours พร้อมดันดาวรุ่งฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในรายการ Suzuka Sunday Road Race 2019
วันที่ 6 มิ.ย.62 เอ.พี.ฮอนด้า เดินหน้ายกระดับแผนโรดแม็ป Race To The Dream โปรเจกต์ปั้นนักบิดไทยสู่โมโตจีพี ภายในปี 2025 ประกาศสนับสนุนดาวรุ่งนักบิดในสังกัด เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ “บิว” วริทธิ์ ทองนพคุณ, “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ และ “การ์ฟิว” วัชรินทร์ ทับทิมอ่อน บินตรงสู่ประเทศญี่ปุ่น เสริมศักยภาพความแข็งแกร่ง ป้องกันแชมป์ศึกบิดทรหด JP250 4Hrs Endurance Race 2019 พร้อมเปิดโครงการแลกเปลี่ยน ส่งดาวรุ่งฝีมือดีจากรายการฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ “พีไนท์” กันตพัฒน์ แยบการไถ สัมผัสประการณ์ใหม่บนสังเวียนแข่งขันระดับนานาชาติ พัฒนาทักษะการขับขี่ในศึก Suzuka Sunday Road Race 2019 เตรียมดวลความเร็ว 2 รายการใหญ่ ระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายนนี้
โดยเมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมา ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วย จุฑามาศ อินปริงกานันท์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานสื่อสารการตลาด บ.เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เดินทางมาให้กำลังใจและส่งทัพนักบิดดาวรุ่ง ช่างเทคนิค และทีมงานทั้งหมด ภายใต้สังกัดทีมแข่งสัญชาติไทย เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ บินลัดฟ้ามุ่งหน้าสู่แดนปลาดิบ เพื่อร่วมทำการแข่งขันในรายการ JP250 4Hrs Endurance Race 2019 (เจพี250 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019) และ Suzuka Sunday Road Race (ซูซูกะ ซันเดย์ โร้ เรซ 2019) ที่สนามซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น
โดยล่าสุด เอ.พี.ฮอนด้า ได้ส่ง 3 นักบิดดาวรุ่งอย่าง “บิว” วริทธิ์ ทองนพคุณ และ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ สองนักบิดฝีมือดีจากศึกดวลความเร็วประจำทวีปเอเชีย รายการเอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2019 และ “การ์ฟิว” วัชรินทร์ ทับทิมอ่อน นักบิดดาวรุ่งผู้คว้าดับเบิลแชมป์การแข่งขัน ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ 2019 สนามล่าสุดที่ช้างฯ เซอร์กิต พร้อมรั้งตำแหน่งจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้ ซึ่งรับหน้าที่เป็นนักบิดสำรอง ร่วมทำศึกบิดหฤโหด รายการ JP250 4Hrs Endurance Race 2019 ที่ประเทศญี่ปุ่น ในสุดสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ทีมแข่ง เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ครั้งแรกเมื่อปี 2018 และสามารถผงาดคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ในประเภททีมแข่งเนชั่นแนล ขับขี่โดยสองคู่หูดาวรุ่งที่เพิ่งผนึกกำลังพาทีมแข่ง เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ กวาดแชมป์โฮมเรซ ศึกดวลความเร็วแห่งทวีปเอเชีย รายการเอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ สนาม 3 ที่บุรีรัมย์ ได้อย่างสะใจกองเชียร์ชาวไทย นำโดย ยอดนักบิดหญิงแกร่งหนึ่งเดียวของไทย “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช และทีมเมทรุ่นน้อง “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี โดยควบตัวแข่งฮอนด้า CBR 250RR หมายเลข 149 ภายในเวลา 4 ชั่วโมง วิ่งได้จำนวน 92 รอบ
นอกจากเป้าหมายเสริมศักยภาพความแข็งแกร่งและป้องกันแชมป์ JP250 แบบเอ็นดูรานซ์แล้ว ในปีนี้ เอ.พี.ฮอนด้า ยังได้ริเริ่มโครงการแลกเปลี่ยนนักแข่งที่ได้ดำเนินการร่วมกับ Mobility Land (โมบิลิตี แลนด์) ผู้บริหารสนามซูซูกะ แห่งประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้โอกาสนักแข่งในรายการ ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ และรายการซูซูกะ ซันเดย์ โรด เรซ ได้มีประสบการณ์การแข่งขันในสนามใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคย เพื่อสะสมประสบการณ์และพัฒนาทักษะการขับขี่ขั้นสูงต่อไปในอนาคตอีกด้วย
ส่วนนักบิดดาวรุ่งของ เอ.พี.ฮอนด้า ที่ได้ประเดิมเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนนักแข่งครั้งนี้ ได้แก่ “การ์ฟิว” วัชรินทร์ ทับทิมอ่อน ซึ่งนอกจากจะสแตนด์บายศึกดวลความทรหด JP250 แบบเอ็นดูรานซ์แล้ว ยังลงแข่งในรายการซูซูกะ ซันเดย์ โรด เรซ ด้วย ร่วมกับ “พีไนท์” กันตพัฒน์ แยบการไถ นักบิดดาวรุ่งอนาคตไกลวัย 15 ปี เจ้าของแชมป์ เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี ไทยแลนด์ ปี 2018 ปัจจุบันทำการแข่งขันในศึกฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ 2019 ผลงานล่าสุด ผ่านการชิงชัยไปแล้ว 4 เรซ เก็บแต้มสะสมได้ทั้ง 4 เรซ มี 26 แต้ม รั้งอันดับที่ 6 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ โดยทั้งคู่จะลงทำการแข่งขันในรุ่น J-GP3 บิดดวลความเร็ว 10 รอบสนาม ระยะทาง 5.8 กิโลเมตร บนสังเวียนซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายนนี้ เช่นเดียวกัน
สำหรับศึกดวลความเร็วสุดทรหด เอ็นดูรานซ์ JP250 4Hours เป็นการแข่งขันที่แตกต่างจากรายการทั่วไปที่เน้นขับขี่เข้าเส้นชัยให้เร็วที่สุดเพื่อคว้าชัยชนะ แต่กับรายการนี้ ทีมแข่งต้องทุ่มเทพลังกายและพลังใจ หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวในการลงแข่งขันแบบมาราธอนตลอด 4 ชั่วโมง ไม่มีพักเบรก เป็นการแข่งขันกันที่ความพร้อมของทีมแข่ง ความแข็งแกร่งของนักบิด สมรรถนะของรถแข่งที่พร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อร่วมแรงร่วมใจกันพาทีมไปถึงโพเดี้ยมแชมป์ให้ได้
โดย 1 ทีมที่ลงแข่งขันประกอบด้วย นักแข่งจำนวน 2 คน นักแข่งสำรอง 1 คน, รถแข่งที่ดีที่สุด 1 คัน และช่างเครื่องยนต์ประจำทีม เมื่อสัญญาณออกสตาร์ตเริ่มต้น นักบิดทุกทีมจะวิ่งจากพิทเลนไปที่รถของตัวเอง ก่อนกระโดดขึ้นรถแล้วออกสตาร์ตทันที ซึ่งแข่งขันกันภายในเวลา 4 ชั่วโมง ทีมไหนขับขี่ได้จำนวนรอบเยอะที่สุดจะเป็นผู้ชนะ.