ไทยรัฐออนไลน์
“เจ็ตสกี โปร ทัวร์ 2019” เข้าสู่ครึ่งหลังของฤดูกาลในสนามที่ 3 ที่อ่างเก็บน้ำหนองตะไก้ จังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 25-26 พฤษภาคม หลายรุ่นยังลุ้นแชมป์สูสี โดยเฉพาะรุ่นใหญ่อย่างเจ็ตสกีนั่ง จีพี ที่ปีนี้อาจจะได้แชมป์ประเทศไทย เป็นนักแข่งหญิงอีกครั้ง ขณะที่เจ็ตสกียืน จีพี ยังมีลุ้นแชมป์กันอยู่หลายคน...
วันที่ 22 พ.ค. 62 ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย “เจ็ตสกี โปร ทัวร์ 2019” เข้าสู่สนามที่ 3 ครึ่งหลังของฤดูกาล ที่อ่างเก็บน้ำหนองตะไก้ จังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 25-26 พฤษภาคม โดยการชิงชัยในรุ่นระดับมืออาชีพหลายรุ่นกำลังสูสี ต้องใส่กันเต็มที่เพื่อเก็บแต้มให้ได้มากที่สุด ก่อนชิงดำสนามสุดท้าย โดยรุ่นที่กำลังสูสีกันอย่างมาก เป็นรุ่นเจ็ตสกีที่แรงเร็วที่สุดในโลกอย่างรุ่นอาชีพเจ็ตสกีนั่ง จีพี (PRO-AM RUNABOUT GP) ที่มีนักแข่งระดับโลกหลายคนลงชิงชัย ไม่ว่าจะเป็น จุน อิโคมะ แชมป์เก่าชาวญี่ปุ่น, อรรถพล คุณสา, ทวีผล สุขเกษม และ เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ 3 นักแข่งชันนำของไทย
หลังจากผ่าน 2 สนามแรก ผู้นำในคะแนนสะสมกลับกลายเป็น อรพรรณ ธีรพัฒน์พานิชย์ กับ ศุภลักษณ์ นิลนพรัตน์ 2 นักแข่งสาวที่เก็บไป 108 คะแนน และเป็นแชมป์กันมาคนละสนาม ส่วน อรรถพล กับ จุน ตามมาห่างๆ ที่ 86 และ 83 คะแนน ตามลำดับ ดังนั้นสนามนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งกับนักแข่งทุกคน หาก อรพรรณ หรือ ศุภลักษณ์ คว้าแชมป์ จะได้เปรียบมากสำหรับคะแนนสะสม และอาจจะได้เห็นแชมป์ประเทศไทยรุ่นนี้เป็นนักแข่งหญิงอีกครั้ง หลังจากที่อรพรรณเคยทำได้เมื่อปี 2017 แต่ถ้าอรรถพล หรือ จุน ขึ้นมาเป็นแชมป์ได้บ้าง โอกาสยังเปิดกว้างในสนามสุดท้าย ในรุ่นสปอร์ต จีพี (SPORT GP) ยังมีความสูสีไม่แพ้กัน หลังผ่าน 2 สนาม ธภัทรวัฒน์ โจสรรค์นุสนธิ์ ดาวรุ่งวัย 17 ปี แชมป์สนามแรกยังเป็นผู้นำมี 113 คะแนน ขณะที่ สุภัค เสร็จธุระ แชมป์เก่า 8 สมัย แชมป์สนามที่ 2 ก็แรงขึ้นมาที่ 108 คะแนน ถ้าสนามนี้ใครทำอันดับดีกว่า จะได้งานง่ายในการชิงดำสนามสุดท้าย แต่ยังมี นนทวัชร์ พิมพ์เจริญ ที่มี 96 คะแนน มีโอกาสเป็นม้ามืดในกรณีที่ทั้ง ธภัทรวัฒน์ กับ สุภัค พลาดในสนามนี้ รุ่นนี้จึงต้องพร้อมสู้กันทั้งตัวนักกีฬาและทีมแข่ง ที่ต้องเตรียมเรือแข่งให้พร้อมที่สุด
สำหรับรุ่นเจ็ตสกียืนที่แรงที่สุดในโลกคือ รุ่นอาชีพเจ็ตสกียืน (PRO-AM SKI MODIFIED) นันทวัฒน์ สิงห์อุไร ดาวรุ่งแชมป์โลกของไทย ได้เปรียบคนอื่นๆ เล็กน้อยที่ 113 คะแนน เมื่อมีอีกหลายคนที่ยังมีลุ้นแชมป์ประเทศไทย อาทิ ทัศพงศ์ แสงอุทัย 99 คะแนน, มุสตาน มิน นักแข่งกัมพูชา 96 คะแนน รวมทั้ง ณัฐกร ภูภัคดี 86 คะแนน กับแชมป์เก่า กษิดิศ ธีระประทีป ที่มี 84 คะแนน ยังมีลุ้นเช่นกัน เนื่องจากรุ่นใหญ่ของเจ็ตสกียืน สถานการณ์ในสามารถสามารถพลิกผันกันได้ทุกนาที
ส่วนรุ่นอาชีพเจ็ตสกีนั่ง 1,100 ซีซี (PRO-AM RUNABOUT 1100 OPEN) เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ แชมป์เก่า ยังยอดเยี่ยมในรุ่นนี้ คว้าแชมป์มาแล้ว 2 สนาม มี 120 คะแนนเต็ม ทำให้ เชาวลิต เกื้อจรูญ ที่มี 87 คะแนน กับ สุภัค เสร็จธุระ ที่มี 82 คะแนน ได้แค่ลุ้นอยู่ห่างๆ
ขณะที่เรื่องความพร้อมของสนามแข่งขัน ที่ที่อ่างเก็บน้ำหนองตะไก้ จังหวัดอุดรธานี นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ยืนยันว่า มีความพร้อมเต็มที่ โดยมอบหมายให้ นายสิธิชัย จินดาหลวง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นหัวหน้าคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ร่วมด้วย นายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ. นายสมัคร บุญปก รองนายก อบจ. และ นางอารีย์ สุรารักษ์ รองปลัดฯ รักษาราชการแทนปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลหนองบัว เพื่อให้การจัดแข่งขันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ ซึ่งงบประมาณในการจัดการแข่งขัน ได้รับการสนับสนุนจากสมาคมเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยฯ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี