ไทยรัฐฉบับพิมพ์
บทสรุปกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 35 “บุรีรัมย์เกมส์” ทัพนักกีฬาเมืองหลวง กทม. กวาดไป 143 เหรียญทอง ครองแชมป์เป็นสมัยที่ 31 ขณะที่ “น้องพิงค์” พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ นักตบขนไก่ ดาวรุ่งวัย 12 ปี จากเชียงใหม่ ทั้งสวยทั้งเก่ง ซิวทองหญิงเดี่ยวยุวชน 2 สมัยติด เผยมี “พี่เมย์” รัชนก อินทนนท์ เป็นแรงบันดาลใจ ด้านกฤษฎา แก้วสองเมือง รองผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ปลื้มจัดแข่งขันกีฬาเยาวชนฯ ประสบผลสำเร็จ เล็งต่อยอดขอเป็นเจ้าภาพกีฬาแห่งชาติ ส่วน “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. แจงผลงานนักกีฬาโครงการสปอร์ตฮีโร่ ทำไปได้ถึง 160 เหรียญทอง
มหกรรมกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 35 “บุรีรัมย์เกมส์” ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา ดำเนินมาถึงวันที่ 11 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการแข่งขัน ผลชิงเหรียญทองกีฬาที่น่าสนใจ มีดังนี้ แบดมินตัน ชิง 7 ทอง รอบชิงชนะเลิศ ไฮไลต์อยู่ที่รุ่นยุวชน หญิงเดี่ยว “น้องพิงค์” พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ นักตบขนไก่หน้าหวาน ดาวรุ่งวัย 12 ปี จากเชียงใหม่ เอาชนะศิรดา รุ่งพิบูลโสภิษฐ์ วัย 14 ปี จากระยอง 2-0 เกม คว้าแชมป์ 2 สมัยติดต่อกัน 21-5, 21-15 คว้าโดย “น้องพิงค์” กล่าวว่า การคว้าแชมป์ครั้งนี้ทำให้มั่นใจมากขึ้น ส่วนตัวมี “พี่เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือ 7 โลก เป็นไอดอลเพราะชื่นชอบในความมีวินัยและทุ่มเท สำหรับในปีหน้าอยากจะข้ามรุ่นไปตีในรุ่นเยาวชน เพื่อพัฒนาฝีมือเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ส่วนรายการต่อไปคือเอสซีจี จูเนียร์ แบดมินตัน แชมเปียนชิป 2019 วันที่ 4-9 มิ.ย.นี้ ที่ กทม.
ขณะที่ทัพนักตบขนไก่ กทม. กวาดไปได้ 5 ทอง จากรุ่นยุวชน ชายเดี่ยว วงศ์ทรัพย์ วงศ์ทรัพย์อินทร์, หญิงเดี่ยว อทิตยา โปวานนท์, คู่ผสม สิรวิชญ์ โสทน กับพิชญานิน อังคะ, หญิงคู่ อทิตยา โปวานนท์ กับญาณิสา ชื่นเจริญ, ชายคู่ สิรวิชญ์ โสทน กับธนดล พันธ์พานิช ส่วนอีก 1 ทอง ชายเดี่ยว วรท อุไรวงค์ จากปราจีนบุรี
เซปักตะกร้อ ชิง 2 ทอง โดยทีมชุดชาย “แชมป์เก่า” นครปฐมเจอกับอุบลราชธานี ที่ก่อนหน้านี้เก็บไปแล้ว 1 ทอง จากทีมเดี่ยวชาย ผลปรากฏว่า อุบลราชธานียังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรง ฟาดเอาชนะไปได้ 2-0 ทีม (ผลทีม ก 21-11, 16-21, 21-7 ทีม ข 21-17, 22-20) ย้ำแค้นได้อีกครั้ง ส่วนทีมชุดหญิง ราชบุรี แชมป์เก่า 2 สมัยซ้อน พบกับ กทม. ปรากฏว่าสาวราชบุรีเฉือนชนะ กทม. ไป 2-1 ทีม คว้าทองเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน
วอลเลย์บอล ชิง 2 ทอง ทีมหญิง เป็นการรีแมตช์คู่ชิงที่ “น่านเกมส์” นนทบุรี แชมป์เก่า
“น่านเกมส์” พบพระนครศรีอยุธยา ปรากฏว่า นนทบุรียังคงโชว์ฟอร์มสมราคาแชมป์เก่า ย้ำแค้น เอาชนะไปได้อีกครั้ง 3-1 เซต 25-15, 25-27, 25-7 และ 25-17 ด้านทีมชาย ขอนแก่น โค่น สุพรรณบุรี แชมป์เก่า ไปได้ 3-0 เซต 25-18, 25-15, 25-20
วอลเลย์บอลชายหาด ชิง 4 ทอง กาญจนบุรี ได้ไป 2 ทองจากประเภทยุวชน หญิง ปวีณา เติมกระโทก จับคู่กับวิมลมาศ จันทะโสตถิ์ เอาชนะ กาฬสินธุ์ ที่มีปิยฉัตร สืบเพ็ง กับกฤติยาณี ภูกันดาน 2-0 เซต 21-8, 21-13 และประเภททีมหญิง จุฑามาศ สังข์ยัง กับชนินทร์พร หมื่นผัด เอาชนะ กทม. ที่มี กาณจนา เลี่ยงบุญ กับอภิญญา แสงแพง 2-0 เซต 21-18, 21-7 ขณะที่อีก 2 ทอง ประเภทยุวชนชาย นนทบุรี ที่มีวิพลชัย เนื้อขาว กับนพวิชญ์ พุทธรงค์ ชนะกาฬสินธุ์ ที่มีเจตริน เฉิดละออ กับวัฒนธรรม ภูโนนทา 2-0 เซต 21-10, 23-21 และทีมชาย กาฬสินธุ์ ที่ประกอบด้วย ภาคตะวัน ศรีหามาตร กับปรวิทย์ เดาวะโต ชนะจันทบุรี ที่มีอนุชา สิงห์ทอง กับสุประจิต วงค์หินกอง 2-0 เซต 21-16, 21-12
สรุปเหรียญรางวัลหลังจบการแข่งขัน เรียงตามลำดับเหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง 10 อันดับแรก โดยทัพเมืองหลวง กทม. คว้าเจ้าเหรียญทองสมัยที่ 31 ทำไปถึง 143-116-129, อันดับ 2 ชลบุรี 53-59-50, อันดับ 3 สุพรรณบุรี 47-33-46, อันดับ 4 นครราชสีมา 46-24-29, อันดับ 5 เชียงใหม่ 29-31-47, อันดับ 6 นครศรีธรรมราช 26-24-33, อันดับ 7 สมุทรปราการ 19-20-22, อันดับ 8 ศรีสะเกษ 19-12-29, อันดับ 9 ขอนแก่น 18-7-24, อันดับ 10 นนทบุรี 16-31-27 โดยมี 2 จังหวัดที่ไม่มีเหรียญรางวัลใดๆเลย คือ สมุทรสงคราม และสระแก้ว
ต่อมาในช่วงเย็นมีพิธีปิดการแข่งขัน ทาง เจ้าภาพจัดการแสดงแสง สี เสียง ไว้อย่างตระการตา ก่อนจะมีพิธีดับไฟในกระถางคบเพลิง พร้อมกับมอบธงประจำการแข่งขันให้จังหวัดตราด รับหน้าที่ เป็นเจ้าภาพกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 36 “ช้างขาว เกมส์” ระหว่างวันที่ 19-29 มี.ค.2563 โดยเบื้องต้นมีการชิงชัยทั้งสิ้น 36 ชนิดกีฬา
ขณะที่นายกฤษฎา แก้วสองเมือง รอง ผวจ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า การเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ประสบความสำเร็จจากความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ทั้งนี้ ต้องขอบคุณการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่มอบหมายให้บุรีรัมย์เป็นเจ้าภาพ ในอนาคตได้มีการพูดคุยกันว่าจะยกระดับไปรับเป็นเจ้าภาพกีฬาแห่งชาติต่อไป เพื่อให้บุรีรัมย์กลายเป็นเมืองแห่งกีฬาอย่างเต็มรูปแบบ
ด้าน “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า ใน “บุรีรัมย์เกมส์” มีนักกีฬาของโครงการพัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศ เข้าร่วมแข่งขันจำนวน 436 คน จาก 15 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กรีฑา กอล์ฟ จักรยาน เทควันโด เทนนิส เทเบิลเทนนิส แบดมินตัน มวยปล้ำ มวยสากลสมัครเล่น ยิงปืน วอลเลย์บอลชายหาด ยกน้ำหนัก ยูโด เรือพาย และว่ายน้ำ เมื่อจบการแข่งขันแล้วปรากฏว่า นักกีฬาสามารถทำผลงานไปได้ทั้งหมด 365 เหรียญรางวัล แบ่งเป็น 160 ทอง 109 เงิน 96 ทองแดง จากนี้คณะกรรมการจะพิจารณาคัดเลือกนักกีฬาเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ โดยพิจารณาจากนักกีฬาที่ได้รับเหรียญในการแข่งขันครั้งนี้ เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 40 คน