ประโยชน์สุดคุ้ม

เดินหน้าเฟ้นหานักชกดาวรุ่งอย่างต่อเนื่องสำหรับสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยของ “บิ๊กบางจาก” พิชัย ชุณหวชิร หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมาเคยได้ นักชกสาวดาวรุ่งมาร่วมค่ายอย่างคับคั่งจากรายการมวยสากลหญิง “จีพีพี แชมเปียนชิป 2018” ภายใต้ความคิดของ “นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม” ในฐานะที่ปรึกษาสมาคม

ล่าสุดสมาคมมวยเสื้อกล้ามเตรียมจัดการ แข่งขันมวยสากลเยาวชน “ไทยแลนด์ ยูธบ็อกซิ่ง สตาร์ 2019” ชิงเงินรางวัลกว่า 2 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 5-10 เม.ย. ที่ห้องเอ็มซีซีฮอลล์ ชั้น 4 เดอะมอลล์บางกะปิ ซึ่งเป็นความร่วมมือกันของบริษัท จีพีพี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทไทยน้ำทิพย์ จำกัด และบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด

รายการนี้จะเป็นการเฟ้นหานักชกชาย-หญิง มีอายุระหว่าง 16-18 ปี เข้ามาเสริมทัพ เพราะนักชกยังเติร์กชุดนี้หากมีการฝึกซ้อมเก็บตัวอย่างต่อเนื่องจะสามารถรับใช้ชาติอีกหลายปี ขอเพียงเจียระไนให้เป็นเพชรเม็ดงามเท่านั้น โอกาสที่จะยืนหยัดรับใช้ชาติได้อย่างยาวนาน

โดยจะแบ่งเป็นชาย 8 รุ่น คือรุ่น 45 กก., 48 กก., 52 กก., 56 กก., 60 กก., 64 กก., 69 กก.และ 75 กก. และหญิง 7 รุ่น คือ 48 กก., 51 กก., 54 กก., 57 กก. 60 กก., 64 กก. และ 69 กก.

ซึ่งผู้ชนะเลิศได้เงินรางวัล 50,000 บาท ชนะเลิศ อันดับ 2 ได้ 30,000 บาท ชนะเลิศ อันดับ 3 ได้ 15,000 บาท และชนะเลิศอันดับ 4 ได้ 6,000 บาท รอบแรกผู้แพ้ได้ 1,500 บาท รอบรองผู้แพ้ได้ 2,000 บาท

ที่สำคัญกว่าเด็กชุดนี้จะก้าวไปสู่ชุดใหญ่จะตักตวงประสบการณ์ความแข็งแกร่งได้อย่างเต็มเปี่ยม หรือเรียกว่ามีโอกาสได้ฝึกวิทยายุทธมาอย่างช่ำชอง

ถือเป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยมและตรงจุดของทีมผู้บริหารมวยเสื้อกล้ามชุดนี้

ที่ผ่านมาเรามักจะได้นักชกที่มีอายุมาก นั้นหมายถึงโอกาสที่เราจะได้ใช้งานมีไม่กี่ปี เพราะกว่าที่มหกรรมใหญ่อย่างโอลิมปิกเกมส์จะจัดแต่ละครั้งต้องใช้เวลาถึง 4 ปี หากนักชกคนใดที่พลาดหวังครั้งแรกโอกาสที่จะได้ไปต่อในครั้งต่อไปก็ริบหรี่เต็มที

หนึ่งต้องลุ้นในเรื่องของอายุที่อาจจะเกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้ หรือต้องไปลุ้นว่าจะได้โควตาไปล่าความสำเร็จหรือเปล่า

ผมถือว่ารายการนี้ถือเป็นการตอบโจทย์ที่ตรงประเด็นที่สุดและได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับการลงทุน และในรอบปีที่ผ่านมาทีมมวยยังเติร์กไทยก็สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและมีโอกาสก้าวขึ้นกำลังสำคัญในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ก็ได้

เพราะที่ผ่านมารายการยูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 ที่อาร์เจนตินาทีมมวยยังเติร์กไทยก็สามารถคว้ามาได้ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง แสดงให้เห็นว่าสมาคมฯ เดินมาถูกทางแล้ว ที่สร้างมวยเยาวชนไทยขึ้นมา

การจะสู้กับชาติชั้นนำอย่าง อุซเบกิสถาน หรือคาซัคสถาน ได้อย่างสูสีหรือดีกว่าก็ต้องหันมาเริ่มจากระดับเยาวชนเป็นพื้นฐาน เพราะเมื่อไหร่ที่ทีมเยาวชนเราแข็งแกร่งนั้นก็จะส่งผลระยะยาวถึงชุดใหญ่ด้วย

แบบนี้เขาเรียกว่าเดินมาถูกทางและเกิดประโยชน์ที่สุดครับ.

โจโจ้