ไทยรัฐออนไลน์
ธงชัย ใจดี ยอดโปรกอล์ฟขวัญใจชาวไทย ในฐานะตัวแทนของมูลนิธิ ธงชัย ใจดี จัดแถลงข่าวการแข่งขันกอล์ฟอาชีพรายการ "ธงชัย ใจดี ฟาวน์เดชั่น 2019" ที่อาคารสโมสร สนามกอล์ฟจอมพล ป.พิบูลสงคราม จ.ลพบุรี ชิงเงินรางวัลรวม 4 ล้านบาท...
วันที่ 12 ก.พ. 62 ที่อาคารสโมสรศูนย์พัฒนากีฬามณฑลทหารบกที่ 13 (สนามกอล์ฟจอมพล ป.) มูลนิธิ ธงชัย ใจดี และ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด แถลงข่าวจัดการแข่งขันกอล์ฟ ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ รายการ “ธงชัย ใจดี ฟาวน์เดชั่น 2019” จัดโดย มูลนิธิธงชัย ใจดี ชิงเงินรางวัลรวม 4 ล้านบาท (แชมป์รับ 7 แสนบาท) โดยมี ธงชัย ใจดี ยอดโปรชาวไทย และประธานมูลนิธิฯ, นายสรวง จันทรอุไร ผู้จัดการสำนักงานส่งเสริมกีฬา บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด, นายวิบูลย์ จำปาเงิน ผู้อำนวยการกองบริหารงานและมาตรฐานกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย, นางสาวนงนุช สุวรรณรักษ์ รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลพบุรี, บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน), นายกสิน ชาติจิรกาล ผู้จัดการอาวุโส บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด, มร. จูเลียน ฟรายเอ็ตต์ ประธานบริษัท ริโก้ (ประเทศไทย) จำกัด, ศูนย์พัฒนากีฬามณฑลทหารบกที่ 13 ( สนามกอล์ฟจอมพล ป.), นายเมธี สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย, นายจักรพงศ์ ทองใหญ่ ประธานกรรมการบริหารออลไทยแลนด์ กอล์ฟทัวร์, นายวันชัย มีชัย ผู้อำนวยการจัดการแข่งขันและตัวแทนจากเอเชียน เดเวลล็อปเมนท์ทัวร์ พร้อมด้วย โปรบุญชู เรืองกิจ, โปรชัพชัย นิราศ และโปรชั้นนำของเมืองไทยเข้าร่วมงานพร้อมด้วยสื่อมวลชนคับคั่ง
ด้าน ธงชัย เจ้าของแชมป์ยูโรเปี้ยนทัวร์ 8 รายการ และมือ 1 เอเชียนทัวร์ 3 สมัย กล่าวว่า ตนเองประสบความสำเร็จมากมายในการเล่นอาชีพและต้องการคืนสิ่งดีๆ ให้กับสังคม ที่เคยให้โอกาสและสร้างตนเองจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวก็ส่งผ่านมูลนิธิธงชัย ใจดี ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว สำหรับการจัดการแข่งขันรายการนี้ เพื่อให้โอกาสนักกอล์ฟรุ่นใหม่ๆ ได้พัฒนาและเข้าสู่วงการกีฬากอล์ฟมากขึ้น โดยปีนี้ย้ายสนามมาจัดที่สนามศูนย์พัฒนากีฬามณฑลทหารบกที่ 13 จังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโปรธงชัย
“ผมต้องการกลับมาพัฒนาบ้านเกิด และพัฒนาสนามที่เคยสร้างผมขึ้นมาจนถึงวันนี้” ธงชัย กล่าวด้วยความมุ่งมั่น
สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ นับเป็นช่วงระยะเวลาที่พิเศษสุด เพราะจะมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับการจัดงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ระหว่างวันที่ 8-17 กุมภาพันธ์ โดยในงานเวลคัมปาร์ตี้ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ นั้น นักกอล์ฟจะต้องใส่ชุดไทยเข้าร่วมงานอีกด้วย รายการนี้จะมีนักกอล์ฟ 156 คน เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งจะเป็นนักกอล์ฟที่มาจากทั้งเอดีที และออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ จำนวนทัวร์ละ 60 คน และนักกอล์ฟรับเชิญ 36 คน โดยบรรดา 7 นักกอล์ฟที่มีคะแนนนำในเอดีที ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต จะได้รับเชิญเข้าร่วมการแข่งขันพร้อมกับบรรดานักกอล์ฟที่ได้รับสิทธิ์พรีเมียมของเอเชียน ทัวร์ 2020 จะได้รับสิทธิ์ลงแข่งขัน โดยทุกรายการของ เอดีที ทัวร์ จะมีการคิดคะแนนอันดับโลก "เวิลด์ กอล์ฟ แรงกิ้ง" (OWG) โดยแชมป์จะคว้า 6 คะแนนเต็ม ขณะที่ท็อป 6 จะได้รับคะแนนลดหลั่นกันไป แข่งแบบสโตรกเพลย์ 72 หลุม และตัดตัวที่อันดับ 50 ร่วม หลังจบ 36 หลุม โดยใน 2 รอบสุดท้าย จะมีการถ่ายทอดสดทางช่องกอล์ฟชาแนล ไทยแลนด์ เอชดี วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ และวันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลา 13:00 น. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ นักกอล์ฟที่ยืนยันเข้าร่วมแข่งขันครั้งนี้ อาทิ บุญชู เรืองกิจ, ถาวร วิรัตน์จันทร์, ชัพชัย นิราช อดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2016, ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ, ธันยากร ครองผา, นำโชค ตันติโภคากุล และ “โปรบูม” อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์ ที่เพิ่งจะคว้าแชมป์ “บุญชู เรืองกิจ แชมเปียนชิพ” เมื่อเดือนที่แล้ว และกำลังนำในอันดับทำเงินของทั้งออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ และเอเชียนดีเวลล็อปเมนท์ทัวร์ ขณะที่ มิเกล คาร์เบลโญ วัย 39 ปี มือ 1 เอเชียน ดีเวลล็อปเมนท์ทัวร์ 2018 ยืนยันเข้าร่วมศึกครั้งนี้เช่นกัน
สำหรับการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 2015 แชมป์ตกเป็นของ "โปรอาร์ม" กิรเดช อภิบาลรัตน์ ที่ปัจจุบันรั้งมืออันดับ 38 ของโลก และเป็นโปรไทยคนแรกที่คว้าการ์ดทัวร์ของพีจีเอ ทัวร์ ส่วนครั้งที่ 2 ปี 2016 แชมป์ได้แก่ "โปรโจ๊ก" ชัพชัย นิราศ และปี 2017 "โปรอาร์ม" กลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง