หน้าแรกแกลเลอรี่

ต่างชาติชื่นชม ไทยจัดศึกยกเหล็ก "อีแกท คัพ 2019" ได้สุดประทับใจ

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

11 ก.พ. 2562 13:20 น.

“มาดามบุษ” บุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ พอใจจอมพลังชายไทย มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก หลังช่วยกันคว้าไปได้รวม 6 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ในศึกยกน้ำหนัก อีแกท คัพ อินเตอร์เนชั่นแนล เวทลิฟติ้ง แชมเปียนชิปส์ 2019 เก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิก โตเกียว 2020 ที่ จ.เชียงใหม่ ส่วนการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ ต่างชาติชื่นชมไทยทำได้ดีเป็นที่ประทับใจ

การแข่งขันยกน้ำหนักอีแกท คัพ อินเตอร์เนชั่นแนล เวทลิฟติ้ง แชมเปียนชิปส์ 2019 (เก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิก โตเกียว 2020) ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วันสุดท้าย เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ไม่มีจอมพลังไทยลงสนามแล้ว สรุปผลงานจากวันแรกเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ปรากฏว่า ทีมยกเหล็กชายไทย ทำไปได้รวมทั้งหมด 6 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง

หลังการแข่งขัน นางบุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า รู้สึกเสียดายที่จอมพลังของไทยลงแข่งขันน้อยเกินไป หากลงมากกว่านี้ โอกาสจะคว้าเหรียญทองจะเพิ่มมากขึ้น แต่พอใจในแง่ของฟอร์มการยกเหล็กของทุกคน เพราะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก อาจจะมีข้อผิดพลาดในการเรียกเหล็กของทีมโค้ชบ้าง ถือว่าเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ปรับปรุงแก้ไขกันได้ อาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ของผู้ฝึกสอนในจังหวะชี้เป็น ชี้ตายยังไม่เด็ดขาดนัก

“เสียดายมากกว่าที่นักกีฬาของเราไม่ได้ลงแข่งมากกว่านี้ เนื่องจากปัญหาบางประการอย่างที่ทราบกันดี ไม่เช่นนั้นเราคงมีเหรียญทองมากกว่าที่ได้ แต่ในแง่ของฟอร์มการยกน้ำหนักของทุกคน ถือว่าดี น่าพอใจ มีพัฒนาการอย่างเห็นได้ชัด บางเรื่องอาจจะมีผิดพลาดบ้าง เช่นการเรียกน้ำหนักเหล็กของโค้ช แต่เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ของแต่ละคน จังหวะที่จะต้องเรียกเหล็กเพื่อหลอกคู่ต่อสู้ หรือลุยเพื่อแย่งเหรียญยังทำได้ไม่ดีนัก คงจะต้องแก้ไขกันต่อไป”

ส่วนรูปแบบการจัดแข่งขันครั้งนี้ นางบุษบา กล่าวว่า ทั้งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ของทุกชาติที่เข้าร่วม ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ประเทศไทยจัดงานยิ่งใหญ่และสมบูรณ์เทียบเท่าระดับโลก บางประเทศที่เคยไปร่วมแข่งมา ยังทำสู้ประเทศไทยไม่ได้ รวมถึง จ.เชียงใหม่ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่สวยงาม ทำให้นักกีฬามีโอกาสได้พักผ่อนหลังทำการแข่งขันเสร็จแล้ว เรื่องนี้เป็นไปตามนโยบายสปอร์ตทัวริซึ่ม ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ต้องการให้กีฬานั้นควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวด้วย

“ถือว่าประสบความสำเร็จมากในการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ เพราะทั้งเชียงใหม่และประเทศไทย ได้รับคำชมเชยจากทุกๆคนที่เข้าร่วมการแข่งขัน สนามแข่งจัดได้สวยงาม การรับส่งนักกีฬา ที่พัก อาหาร ทุกคนเอ่ยปากว่ายังไม่เคยเจอที่ไหนทำได้ดีเหมือนที่ประเทศไทยทำ” นางบุษบา กล่าว.