นารี (ยัง) ขี่ม้าขาว

เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก...เผลอแป๊บเดียวปีพุทธศักราช 2561 ก็กำลังจะเคลื่อนคล้อยผ่านไป ขณะที่ศักราชใหม่ 2562 จะเข้ามาแทนที่อยู่รอมร่อในสัปดาห์หน้านี้แล้วในปี 61ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าเป็น “ปีทอง” ที่น่าจดจำของวงการกีฬาไทยอีกปีนึง โดยเฉพาะบรรดา “นักกีฬาหญิง” ที่ถือว่าสร้างผลงานและความสำเร็จในระดับอินเตอร์กันอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสายจริงๆ

ไม่ว่าจะเป็น “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล โปรกอล์ฟสาว “มือ 1” ของโลก ที่สร้างผลงานได้อย่างกระฉูดแตก ด้วยการคว้าอันดับ 1 ของแอลพีจีเอ ประจำฤดูกาล 2018

สถิติไร้เทียมทานที่เธอสร้างขึ้นมาอย่างมากมายในปีนี้ โดยเฉพาะอันดับเงินรางวัลรวมสูงที่สุดประจำฤดูกาลที่ 2,743,949 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 90.55 ล้านบาท) มันคือสิ่งการันตีความเป็น “สุดยอด” นักกอล์ฟหญิงของโลกแห่งยุค ได้เป็นอย่างดี

ขณะเดียวกันพี่สาวของโปรเม อย่าง “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล ก็ยังผงาดคว้าแชมป์แรกในแอลพีจีเอทัวร์ที่แอลเอ สหรัฐอเมริกา ได้สำเร็จ สร้างประวัติศาสตร์เป็นพี่น้องคู่ที่สองที่สามารถคว้าแชมป์แอลพีจีเอต่อจากแอนนิกาและชาร์ล็อตตา โซเรนสตัม ที่เคยทำได้มาก่อน

ส่วนกีฬาต่อสู้ ชั่วโมงนี้คงไม่มีใครเกิน “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวเจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิก วัย 21 ปี ที่ประสบความสำเร็จกวาดแชมป์เทควันโดรายการเมเจอร์ของโลกตลอดทั้งปี 2018 มาครองได้ถึง 6 รายการ

โดยเฉพาะการคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ที่แดนอิเหนา ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เธอครองความเป็น “เบอร์ 1” เทควันโดโลก ในรุ่น 49 กก.หญิง อยู่อย่างสง่างามในปัจจุบัน

ทางด้านกีฬาประเภททีม ก็ต้องยอมรับว่า ปีนี้ทีมกีฬาที่สร้าง “PASSION” ให้กับแฟนกีฬาชาวไทยของเรามากที่สุด หนีไม่พ้นทีม “วอลเลย์บอลสาว” ที่ฝากผลงานสนั่นเอเชีย ด้วยการทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศศึกเอเชียนเกมส์ 2018 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ที่สุดแล้วแม้พวกเธอจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อมหาอำนาจลูกยางหญิงโลกอย่างสาวจีนแผ่นดินใหญ่ แต่นั่นก็เพียงพอที่จะสร้างความสุขและความภาคภูมิใจให้กับคนทั้งชาติมากแล้วล่ะ

เช่นเดียวกับ ทีมฟุตบอลหญิง “ชบาแก้ว” ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมคนสวย ที่คว้าโควตาจากศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่จอร์แดน ตีตั๋วไปลุยฟุตบอลหญิงโลก 2019 ในปีหน้าที่ดินแดนน้ำหอม ฝรั่งเศสได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 2

ถือเป็นการกู้หน้าสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยุค 4.0 ของ “นายกอ๊อด” พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง หลังปีที่ผ่านมา ทีมบอลชาย ทุกระดับอายุพากัน “แห้งแล้ง” ความสำเร็จแบบเรียบวุธ

และสุดท้ายที่สร้างชื่อให้วงการกีฬาไทยในปีนี้ก็คือ “ทีมแบดมินตันหญิง” ชุดรองแชมป์อูเบอร์คัพ โดยไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การพลิกโค่นทีมสาวจีนแชมป์ 14 สมัยมาได้ในรอบรองชนะเลิศ สร้างประวัติศาสตร์เข้าชิงถ้วยนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 61 ปี

แต่ที่น่าชื่นใจกว่า...คือผลงานการเป็นเจ้าภาพแบดมินตันทีมชายและทีมหญิงชิงแชมป์โลก “โธมัส-อูเบอร์ คัพ 2018” เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามเกินคาด

โดยทาง สหพันธ์แบดมินตันโลก (บีดับเบิลยูเอฟ) ได้ชื่นชมและยกเครดิตให้กับทางสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ภายใต้การนำของนายกหญิงเหล็ก “คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล” ที่ทำหน้าที่จัดศึกใหญ่คราวนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติจริงๆ

ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่บีดับเบิลยูเอฟ จะมอบความไว้วางใจให้ไทยเราได้สิทธิเป็นเจ้าภาพ โธมัส คัพ และอูเบอร์ คัพ กันอีกครั้งในปี ค.ศ. 2022 (พ.ศ.2565) หรืออีก 4 ปีข้างหน้าแบบไม่มีลังเล

และทั้งหมดก็คือภาพรวมของผลงานนักกีฬาไทยในรอบปี 2561

ซึ่ง (ยัง) เป็นอีกปีที่ได้ “นารี ขี่ม้าขาว” มาเป็น “ฮีโร่” ให้กับวงการกีฬาบ้านเรา...โดยแท้!!!

บี บางปะกง