ไทยรัฐฉบับพิมพ์
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ชมนักตบลูกขนไก่ไทย ในศึกเวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ 2018 แม้จะไม่ได้แชมป์ แต่ภาพรวมมีเลือดนักสู้ ทุ่มเทจนได้ใจแฟนกีฬาชาวไทยไปเต็มร้อย พร้อมระบุ “เมย์” รัชนก อินทนนท์ กลับมาสู่ฟอร์มที่ดี ปีหน้าเก็บแต้มไปโอลิมปิกเกมส์ สมัยที่ 3 ได้แน่นอน ส่วน “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย แกร่งขึ้นต่อเนื่อง
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า แม้ว่าการแข่งขันแบดมินตัน “เอชเอสบีซี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ 2018” ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีนนั้น นักแบดไทย จะไม่ได้แชมป์กลับมา แต่ถือว่าทุกคนสู้ได้อย่างยอดเยี่ยมและได้ใจคนไทยทั้งประเทศ โดยประเภทหญิงเดี่ยว แม้ “เมย์ รัชนก อินทนนท์ มืออันดับ 8 ของโลก ที่แพ้ ปุสซาร์ลา เวนกะตา สินธุ มืออันดับ 6 ของโลกจากอินเดีย ในรอบรองชนะเลิศ แต่ก็เป็นเกมที่สนุกมากๆ ทั้ง 2 คนเล่นกันได้อย่างสนุกตื่นเต้น รัชนกแสดงให้เห็นว่าตอนนี้กลับมาอยู่ในฟอร์ม
การเล่นที่ยอดเยี่ยม มีความพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจและความแข็งแกร่ง สามารถเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม จากการชนะ เฉิน ยู่เฟย มืออันดับ 3 ของโลกได้ในรอบแรก ที่ต้องเล่นกันถึง 3 เกม ถือได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดีของเมย์ คาดว่าในปีหน้าจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ให้แฟนแบดมินตันชาวไทยได้ชื่นชมอีก โดยปีหน้าจะเป็นปีที่สำคัญมากในการเก็บคะแนนสะสมอันดับโลกเพื่อคว้าสิทธิ์ไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ซึ่งจะเป็นโอลิมปิกครั้งที่ 3 ของเมย์อีกด้วย
ส่วนประเภทคู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มืออันดับ 7 ของโลก ที่แพ้ให้กับ เจิ้ง ซิเหว่ย กับ หวง หย่าเฉียง คู่มืออันดับ 1 ของโลกจากจีนนั้น
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในการแข่งขัน แต่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ แค่โชคไม่ดีที่ผลการจับสลากในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งแม้ว่า “บาสกับปอป้อ” จะแพ้ไป แต่ส่วนตัวเห็นว่าทั้งคู่เล่นได้อย่างสนุกและสูสี สามารถเอาชนะไปได้ก่อนในเกมแรก ก่อนที่จะพลาดใน 2 เกมหลัง
ถือว่าได้ใจจากแฟนกีฬาแบดมินตันที่ชมการถ่ายทอดสดแน่นอน การพ่ายแพ้นี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต ฟอร์มการเล่นของทั้งคู่แสดงให้เห็นถึงความเร็ว ความหนักหน่วงและความเหนียวแน่น ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของนักกีฬาแบดมินตันระดับโลกและเชื่อว่าจะก้าวขึ้นไปอันดับดีขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน
นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวต่อว่า ขณะที่ “กัน” กัณตภณ หวังเจริญ ชายเดี่ยว แม้จะไม่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันครั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าได้สร้างเสริมประสบการณ์ใหม่มากขึ้น “กัน” แสดงให้ทุกคนเห็นสภาพร่างกายที่แข็งแรงและหัวใจนักสู้ ทีมงานผู้ฝึกสอนต้องไปวางแผนพัฒนาต่อไปให้มีความหลากหลายและมีเทคนิคชั้นเชิงเพิ่มมากขึ้น เชื่อว่าในอนาคตจะสามารถเทียบชั้นบรรดานักแบดมินตันระดับท็อปของโลกได้ในไม่ช้าเช่นกัน ทั้งนี้ สมาคมฯอยู่ระหว่างการติดต่อประสานกับผู้ฝึกสอนระดับโลกในประเภทเดี่ยว เพื่อเข้ามาร่วมงานในการพัฒนานักกีฬาประเภทเดี่ยวทั้งชายและหญิง ในการก้าวขึ้นสู่การเป็นนักกีฬาระดับโลก
และในส่วนของหญิงคู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ ถือว่าผลงานเป็นที่น่าพอใจ แม้จะชนะเพียงนัดเดียว แต่ต้องยอมรับว่าทั้งคู่สามารถยกระดับ จนสามารถผ่านเข้าสู่ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ ได้สำเร็จ เพียงแต่การจะก้าวจากจุดนี้เพื่อขึ้นสู่ระดับท็อปของโลกจะต้องใช้เวลาในการปรับปรุงอีกสักระยะหนึ่ง และจากการแข่งขันในครั้งนี้ เชื่อว่าทั้งคู่จะได้รับบทเรียนอย่างมากจากคู่แข่งในระดับโลก เพื่อจะนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้นต่อไป