หน้าแรกแกลเลอรี่

หัวหน้าปัญญาชนไทยมั่นใจ ครองเจ้าเหรียญทองกีฬา ม.อาเซียนอีกสมัยแน่

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

16 ธ.ค. 2561 13:00 น.

รศ.ดร.วิชิต คนึงสุขเกษม หัวหน้านักกีฬา มั่นใจทัพปัญญาชนไทยได้ตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง ในกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ครั้งที่ 19 ที่เมียนมาแน่นอน ขณะที่ทีมไต้ฝุ่นชายไทยไม่พลาด ป้องกันแชมป์วิ่งผลัด 4 คูณ 100 เมตร ไว้ได้อีกสมัย ส่วนเรือพายไทย ก็เก็บเพิ่มอีก 4 เหรียญทอง รวมเป็น 6 เหรียญทอง ผลงานทะลุเป้าเรียบร้อยแล้ว

การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ครั้งที่ 19 ที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ทีมวิ่งผลัด 4×100 เมตรชายของไทย ซึ่งประกอบด้วย กฤษฎา นามสุวรรณ์, ณัฐพงศ์ วีระวงศ์รัตนศิริ, จิระพงศ์ มีนาพระ, รัตนพล โสวัน สปีดเข้าเส้นชัยเป็นทีมแรก ด้วยเวลา 39.63 วินาที ป้องกันแชมป์ไว้ได้อีกสมัย เหรียญเงิน มาเลเซีย 40.34 วินาที เหรียญทองแดง อินโดนีเซีย 40.92 วินาที

“มิ้ว” จิระพงศ์ กล่าวว่า พอใจกับสถิติ อยู่ในเกณฑ์ที่ดี และดีใจที่ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ เพราะซ้อมตีไม้รวมทีมกันเพียงครั้งเดียวก่อนมาแข่ง การมาแข่งขันครั้งนี้ตั้งเป้าจะคว้าเหรียญทอง 200 เมตรชาย และผลัด 4×100 เมตรชาย หลังจากนี้จะไปแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 46 ที่จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งใจว่าจะทำลายสถิติที่ 21.08 วินาที ที่ “โจ๊ก” สิทธิชัย สุวรประทีป รุ่นพี่ในทีมชาติเคยทำไว้เมื่อ 10 ปีที่แล้วให้ได้

ขณะที่วิ่งผลัด 4×100 เมตรหญิง ทีมไทย ที่ประกอบด้วย พัชรมณี ชินบวรวงศ์, สุชาดา มีศรี, ศิริลักษณ์ ปะละภา, จันทนา เนียมน้อย เข้าเส้นชัยที่ 2 เวลา 46.86 วินาที ได้เหรียญเงิน ส่วน เหรียญทอง อินโดนีเซีย 46.47 วินาที เหรียญทองแดง มาเลเซีย 47.58 วินาที

ส่วนเรือพายไทย กวาดเพิ่มอีก 4 เหรียญทอง รวมเป็น 6 เหรียญทอง ทะลุเป้าที่วางไว้ โดยเป็นการแข่งขันระยะ 1,000 เมตร ชิง 6 เหรียญทอง ไทยได้ 4 เหรียญทอง จากเปรม นามประเทือง นักกีฬาทีมชาติดีกรี 2 เหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ 2018 ในเรือกรรเชียง 1 คนชาย พายคู่ โอเพ่น เข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ด้วยเวลา 1.59.78 นาที เหรียญเงิน โทนี ซูทิซนา จากอินโดนีเซีย 2.02.83 นาที เหรียญทองแดง มูฮัมหมัด ไครุดดิน จากมาเลเซีย 2.03.45 นาที

ส่วนอีก 3 เหรียญทองเรือพาย ได้จากกรรเชียง 2 คนชาย พายคู่ สกล สมหวัง กับชนินทร์ ศรีสมบูรณ์ เวลา 1.39.32 นาที, กรรเชียง 8 คนหญิง พายเดี่ยว กฤติยา หริรักษ์, ศรันยา ปลัดสิงห์, กัญยาณี จำปาบุรี, รัชนีกร เลห์กล, รจนา รักเหล่า, เมธินี ระรื่น, ปาริษา แช่มพุดซา, อารีรัตน์ เอื้ออารี, พนิตพิชา เอกวัฒน์ 1.40.73 นาที, เรือยาวประเพณี ทีมผสม 10 ฝีพาย ไทยคว้าทอง เวลา 2.23.41 นาที

นอกจากนี้ ฝีพายไทยยังได้เพิ่มอีก 1 เหรียญเงิน จากกรรเชียง 4 คนชาย พายเดี่ยว เหรียญเงิน (จารุวัฒน์ แสนสุข, ชัยชนะ ทะคำ, ฌานินทร์ อัมรินทร์, ศรราม ศิลปศร) 1.37.79 นาที และ 1 เหรียญทองแดง กรรเชียง 1 คนชาย พายคู่ ไลต์เวท พิพัฒน์ ปิย–ศักดิ์สันติกุล 1.53.60 นาที

รศ.รังสรรค์ วงศ์สรรค์ ผู้จัดการทีมเรือพายไทย กล่าวว่า ถือว่าเป็นผลงานที่ทะลุเป้า เพราะหวังแค่ 5 เหรียญทอง จากที่เคยทำได้ในกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ที่สิงคโปร์ เมื่อ 2 ปีก่อน แต่นี่นักกีฬาไทยสามารถคว้ามาได้แล้ว 6 เหรียญทองจากวันแรกที่ได้ 2 เหรียญทองและล่าสุดอีก 4 เหรียญทอง โดยยังเหลือให้ลุ้นในวันที่ 16 ธันวาคม ที่จะชิงชัยวันสุดท้าย ตนยังมองว่านักกีฬาไทยยังมีลุ้นทำได้อีก 3 เหรียญทอง

“ความสำเร็จนี้ต้องขอชื่นชมนักกีฬาที่มุ่งมั่นและตั้งใจโชว์ฟอร์มกันเต็มที่ ทั้งเรือยาวประเพณี และเรือกรรเชียง อย่างเรือกรรเชียง ถือว่าพลิกความคาดหมายหลายรายการ เพราะคู่แข่งอย่างอินโดนีเซีย ขนชุดเหรียญทอง เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 มาแข่งขันแบบเต็มที่ แต่นักกีฬาไทยก็สามารถเบียดแย่งเหรียญมาได้ เนื่องจากนักกีฬาเรือพายไทยได้มีการฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่อง”

ด้าน รศ.ดร.วิชิต คนึงสุขเกษม หัวหน้านักกีฬาปัญญาชนไทย กล่าวว่า ตอนนี้เหรียญทองของไทยเริ่มทิ้งห่างชาติอื่นๆ ไปไกลแล้ว เพราะมีหลายชนิดกีฬาที่ทำผลงานทะลุเป้า เทนนิส ได้ทั้งหมด 7 เหรียญทอง เรือพายก็เกินเป้าได้มา 6 เหรียญทอง วูซูได้มา 4 เหรียญทอง และกีฬาอื่นๆ ก็ทำผลงานได้ดี อีกปัจจัยหนึ่งมาจากการที่หลายชาติส่งนักกีฬามาไม่มากนัก เช่น ฟิลิปปินส์ มีปัญหาองค์กรในประเทศซ้ำซ้อนกัน ส่วนเวียดนามมีปัญหาทางด้านการเงิน จึงส่งแค่ชนิดกีฬาที่มีความหวังเท่านั้น ทำให้มั่นใจว่าไทยจะได้เจ้าเหรียญทองนอกบ้านอีกครั้งอย่างแน่นอน รวมทั้งทะลุเป้าที่วางไว้ 51 เหรียญทองแน่นอน.