ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ที่ผ่านมา วงการกีฬาเราจะคุ้นชิน แค่คำว่า กีฬากับท่องเที่ยว หรือไม่ก็ กีฬากับบันเทิง ที่สามารถเดิน เคียงข้างกันไปได้อย่างกลมกลืนเสียเป็นส่วนใหญ่
แต่สำหรับมหกรรมกีฬาระดับชาติ อย่างการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 46 “เจียงฮายเกมส์” ที่กำลังจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 18-28 พ.ย.นี้ ที่จังหวัดเชียงราย ดูจะเป็นครั้งแรกๆเลยก็ว่าได้ ที่กีฬาจะพบประสบการณ์ใหม่เดินคู่ไปกับ “ศิลปะ” ศาสตร์อีกแขนง ดูบ้าง
เชียงรายมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เป็นนครหลวงก่อนการกำเนิดอาณาจักรล้านนา มีคำเมือง เป็นภาษาท้องถิ่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะศิลปะ รวมไปถึงประเพณีวัฒนธรรม ที่มีความหลาก หลายทางชาติพันธุ์ในรูปแบบล้านนา ไทใหญ่ ไทเขิน และไทลื้อ จากสิบสองปันนา ผสมผสานกัน
และตอกย้ำว่า กีฬากับศิลปะเคียงคู่กันไป ได้ลงตัว ก็เพราะมีศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ เป็นแม่งานใหญ่ ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ ทั้งกระตุ้น สร้างกิจกรรมในจังหวัด พร้อมสื่อสารไปทั่วประเทศ
อีกทั้ง ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย ยังออกแบบตราสัญลักษณ์ สัตว์นำโชค หรือมาสคอตการแข่งขัน แม้กระทั่งเหรียญรางวัลที่จะมอบให้นักกีฬาในกีฬาแห่งชาติครั้งนี้ เอาไว้ได้อย่างสวยงามอีกด้วย
จนกีฬาแห่งชาติ เจียงฮายเกมส์ ถูกพูดถึง คึกคักกว่าหลายๆครั้งที่ผ่านมา!!!
“ในฐานะที่เชียงราย เป็นเมืองที่มีศิลปินมากที่สุด เป็นเมืองวัฒนธรรมล้านนา พิธีเปิดต้องยิ่งใหญ่อลังการ ไม่เหมือนจังหวัดใดๆ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมนับหมื่นคน ทางจังหวัดเตรียมจอแอลอีดีรอบสนามกีฬาจังหวัดเชียงราย รองรับผู้เข้าร่วมงานเพื่อให้ทุกคนได้เห็นพิธีเปิดอันยิ่งใหญ่อย่างทั่วถึง” ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงรายกล่าว
สำหรับสัญลักษณ์การแข่งขัน นอกจากสวยงามสมกับที่เชียงรายเป็นเมืองศิลปะ ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย ยังแฝงความหมายลึกซึ้ง เป็นการหลอมรวมของพลังชาวเชียงรายให้เป็นหนึ่งเดียว ออกแบบนำสถาปัตยกรรมทั้ง 3 แห่งของจังหวัด เข้าด้วยกัน คือ บ้านดำ, วัดร่องขุ่น และวิหารดิน (ไร่เชิญตะวัน)
ขณะที่แมง 4 หู 5 ตา ชื่อว่า “คำสุข” รับหน้าที่ เป็นมาสคอต
แมง 4 หู 5 ตา ถูกเล่าขานว่า เป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งในตำนานว่าด้วยวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย มีลักษณะเหมือนหมีดำตัวอ้วน มีหู 2 หู และตา 5 ดวง ที่ดวงตาแมง 4 หู 5 ตา เป็นสีเขียว รับประทานถ่านไฟร้อนเป็นอาหาร และถ่ายเป็นมูลทองคำ
4 หู 5 ตา แสดงถึงหลักธรรมทางพุทธศาสนา คือ พรหมวิหาร 4 และศีล 5 เป็นการให้คติแก่พุทธศาสนิกชน
ส่วนกีฬาแห่งชาติครั้งนี้ จัดการแข่งขันทั้งหมด 45 ชนิดกีฬา แบ่งสนามออกเป็น 6 ศูนย์
ศูนย์แรกสนามกีฬาจังหวัดเชียงราย, ศูนย์ที่ 2 สนามกีฬาสังกัดเทศบาลนครเชียงราย, ศูนย์ที่ 3 สนามกีฬามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, ศูนย์ที่ 4 สนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, ศูนย์ที่ 5 สนามกีฬาสังกัดสถานศึกษาและภาคเอกชน และศูนย์ที่ 6 สนามกีฬานอกพื้นที่จังหวัดเชียงราย
นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา ให้เหตุผลกรณีกีฬาแห่งชาติครั้งนี้ ดูน่าติดตามกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาว่า กีฬาแห่งชาติ ซึ่งมี กกท.เป็นเจ้าของเกม มีมูลค่าในตัวอยู่แล้ว อยู่ที่แต่ละจังหวัดที่เป็นเจ้าภาพ จะใช้มูลค่าที่มีอยู่อย่างไร
“เชียงรายถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่นำเอากีฬาแห่งชาติไปเพิ่มมูลค่า นำจุดเด่นของตนเอง คือ ศิลปะผนวกเข้าไป อีกทั้งการร่วมแรงร่วมใจของคนในจังหวัดก็ทำได้ดี ทำให้กีฬาแห่งชาติครั้งนี้ คึกคักขึ้นมา ซึ่งจังหวัดอื่นๆควรเรียนรู้ นำจุดเด่นของตนเองมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด” รองผู้ว่าการ กกท.กล่าว
เรียกได้ว่า เจียงฮายเกมส์ ครั้งนี้ แสดงออก บอกตัวตนได้ชัดเจนมากๆ และน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการปลุกกีฬาแห่งชาติ ที่ดูจืดๆ เงียบเหงาไปนาน
ให้กลับมากระปรี้กระเปร่า อีกครั้ง...
กัญจน์ ศิริวุฒิ เรื่อง