หน้าแรกแกลเลอรี่

Game Over

JUPITER

22 ต.ค. 2561 06:00 น.

เรียบร้อยโรงเรียนกระทิงดุไปแล้ว สำหรับศึกโมโตจีพี 2018 หลังจาก "มาร์ค มาร์เกซ" บิดทะลุนรกพุ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ในสนามที่ 16 ทำแต้มสะสมมากพอที่จะคว้าแชมป์โลกในปีนี้ไปครองอย่างยิ่งใหญ่...

ในปีนี้ "มาร์เกซ" โชว์ฟอร์มสะท้านทรวงจริงๆ เพราะบิดเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ได้ถึง 8 สนาม จาก 15 สนาม (ปี 2018 สนามที่ 12 ยกเลิกเพราะฝนตกหนัก) จนสามารถทำแต้มทิ้งห่างอันดับ 2 แบบขาดไปแล้ว ไล่ยังไงก็ไม่ทัน แม้ว่าจะยังเหลือแข่งอีก 3 สนามก็ตามที

และการคว้าแชมป์ในปีนี้ ถ้านับเฉพาะช่วงที่เปลี่ยนมาใช้ชื่อ "โมโตจีพี" นอกจากจะเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 5 ของนักบิดชาวสเปนรายนี้แล้ว ยังเป็นการคว้าแชมป์โลก 3 ปีติดต่อกันอีกด้วย ไล่ตั้งแต่ปี 2016-18

นี่ถ้าในปี 2015 "มาร์เกซ" ไม่พลาด คงจะเป็นนักบิดคนแรกที่ได้แชมป์โลก 6 สมัยติดต่อกันไปแล้ว

"มาร์เกซ" ถือเป็นนักบิดรายที่ 2 ที่ได้แชมป์โลก 3 ปีติดในยุค "โมโตจีพี" เพราะคนแรกคือ "วาเลนติโน รอสซี" นักบิดจอมเก๋าชาวอิตาลี ที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลก 4 ปีติดช่วง 2002-05

ทั้งนี้ ถ้านับรวมความสำเร็จของ "มาร์เกซ" ในเส้นทางสองล้อ ต้องบอกว่าเขาคว้าแชมป์โลก 7 สมัย จากการลงแข่งทั้ง 3 รุ่น

เริ่มกันที่แชมป์โลกครั้งแรกเมื่อปี 2010 ในรุ่น 125ซีซี (หรือโมโต3 ในปัจจุบัน) "มาร์เกซ" เข้าเส้นชัยอันดับ 1 ได้ 10 จาก 17 สนาม

จากนั้นในปี 2012 "มาร์เกซ" คว้าแชมป์โลกครั้งที่ 2 ในรุ่นโมโต2 โดยเข้าเส้นชัยอันดับ 1 ได้ 9 จาก 17 สนาม

พอถึงปี 2013 ด้วยวัยเพียง 20 ปี ไม่มีใครคิดว่าเด็กหนุ่มอย่าง "มาร์เกซ" จะผงาดคว้าแชมป์โลกครั้งที่ 3 แต่เป็นแชมป์โลกสมัยแรกในรุ่นโมโตจีพี ที่เพิ่งลงแข่งเป็นครั้งแรกได้ โดยเข้าเส้นชัยอันดับ 1 ได้ 6 จาก 18 สนาม มีแต้มสะสมมากกว่ารองแชมป์โลกเพียง 4 แต้มเท่านั้น

ในปี 2014 เป็นช่วงเวลาแห่งการระเบิดฟอร์มของ "มาร์เกซ" อย่างแท้จริง เพราะบิดเข้าเส้นชัยอันดับ 1 ได้ถึง 13 จาก 18 สนาม ผงาดแชมป์โลกสมัยที่ 4 อย่างยิ่งใหญ่

จากนั้นในปี 2016 "มาร์เกซ" ฟอร์มแผ่วลงไปเยอะ เข้าเส้นชัยอันดับ 1 ได้เพียง 5 จาก 18 สนาม แต่ก็มีคะแนนมากพอที่จะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 ไปครอง

มาถึงปี 2017 "มาร์เกซ" ทำผลงานเข้าเส้นชัยอันดับ 1 ได้ 6 จาก 18 สนาม ผงาดคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 6 ไปแบบฉิวเฉียดอีกครั้ง

และเมื่อรวมกับปี 2018 ที่เพิ่งแข่งจบสนามที่ 16 "มาร์เกซ" ก็ได้แชมป์โลกสมัยที่ 7 สมใจไปแล้ว

สำหรับอีก 3 สนามที่เหลือ ต่อให้ "มาร์เกซ" ไม่ลงแข่ง ก็ไม่มีผลอะไรแล้ว แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ ยังไงก็คงลงแข่งตามปกติ แต่คงไร้ความกดดันใดๆ ทั้งสิ้น จะเข้าเส้นชัยอันดับเท่าไหร่ก็ได้ทั้งนั้น

ถึงตอนนี้ "มาร์เกซ" คงมองไปถึงปี 2019 แล้ว และคงอยากเจอบททดสอบ หรือความท้าทายที่มันมากกว่าปีนี้ ไม่อย่างนั้น จะไม่มีอะไรสนุกๆ ให้ลิ้มลอง

JUPITER