พาวเวอร์บอมบ์
มหกรรมกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา กำลังจะรูดม่านปิดฉากลงแล้ว
ขณะที่ผมปั่นคอลัมน์อยู่นี้เหลืออีกเพียงแค่ 4 วันสุดท้ายของการแข่งขันเท่านั้น โดยทัพนักกีฬาไทยทำผลงานคว้ามาได้ 2 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง
ยังห่างจากเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้อยู่อีก 1 เหรียญทอง
แต่ก็เชื่อว่าสุดท้ายแล้วเราคงทำได้ตามที่คาดหวังเอาไว้ เพราะยังเหลือมวยสากลสมัครเล่นที่เป็นกีฬาความหวังอยู่อีกหลายรุ่น
ยูธโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ถือว่า “เจ้าภาพ” อาร์เจนตินา ฉีกแนวกรอบความคิดเดิมๆออกไปพอสมควร
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสนามแข่งขันที่เขากระจายจัดสนามแข่งขันไปใน 5 พาร์คใหญ่ๆ แทนที่จะกระจุกอยู่ที่เดียวอย่างที่เคยๆ โดยมีการสร้างสนามแข่งขันเป็นฮอลล์ (ชั่วคราว) ขึ้นมาใหม่หลายฮอลล์สำหรับใช้งาน
แต่ฮอลล์เหล่านั้นก็เป็นเพียงการสร้างขึ้นมาชั่วคราวเท่านั้น เมื่อเสร็จสิ้นมหกรรมกีฬาครั้งนี้ก็สามารถที่จะแยกส่วนประกอบเอาไปเก็บได้ หรือแม้นหากอยากจะเอาไว้ใช้ประโยชน์ต่อ ก็สามารถทำได้เช่นกัน
ดังนั้น ก็อย่างที่ “รัฐมนตรีกีฬา” วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ที่มาดูงานได้กล่าวเอาไว้แหละครับว่า การเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬา ไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลอีกต่อไป
ยิ่งรายการนี้เป็นรายการสำหรับ “เยาวชน” คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ “ไอโอซี” จึงไม่ได้เน้นเรื่องของการแพ้หรือชนะ แต่มุ่งไปที่การให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมมากกว่า
ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้สนามที่ใหญ่โต แต่หากเป็นการนำสิ่งที่มีอยู่แล้ว เอามาปรับปรุงใหม่ให้สามารถใช้ในการจัดการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า
ว่ากันถึงการมีส่วนร่วมแล้ว เท่าที่อยู่ที่นี่มาเกือบๆ 10 วัน ได้เห็นชาวอาร์เจนไตน์มีส่วนร่วมกับรายการนี้มากจริงๆ
ช่วงเช้าจะมีคุณครูพาเด็กนักเรียนตัวเล็กๆ กลุ่มใครกลุ่มมันเข้าไปดูการแข่งขันกีฬาทุกๆชนิด กวาดตาดูแล้วเป็นจำนวนหลายพันคนต่อวัน หากรวมทุกชนิดกีฬาคงจะเป็นหมื่น
ตกช่วงบ่ายยิ่งไปกันใหญ่ บรรดาผู้ปกครองจูงลูกจูงหลานมาต่อแถวเข้าคิวรอเพื่อเข้าดูกีฬาชนิดต่างๆ แถวยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา
วัฒนธรรมการดูกีฬาอยู่ในสายเลือดของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
เห็นแล้วก็อยากให้บ้านเราปลูกฝังวัฒนธรรมการดูกีฬาแบบนี้ให้กับเด็กๆบ้าง
เพราะที่เป็นอยู่ตอนนี้ รอนิด รอหน่อยก็ร้องทนไม่ได้กันเสียแล้ว
โตขึ้นมาความอดทนมันเลยต่ำ.
พาวเวอร์บอมบ์