ควันหลง โมโตจีพี

ผ่านพ้นการจัดในปีแรก จากทั้งหมดที่ได้สิทธิ์มา 3 ปีแล้ว

สำหรับศึกรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี 2018” สนาม ที่ 15 เมื่อวันที่ 5-7 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

แน่นอนว่า แฟนกีฬาคงทราบผลการแข่งขันไปเรียบร้อย แต่ในส่วนของบรรยากาศด้านต่างๆ ยังมีควันหลงออกมาอย่างต่อเนื่อง

โดยในส่วนของกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็ได้เดินทางไปชมถึงขอบสนามมาด้วย

อดีตรัฐมนตรีกีฬาได้โพสต์รายละเอียดเอาไว้ ในเฟซบุ๊ก Kobkarn Suriyasat Wattanavrangkul Official เนื้อหาน่าสนใจ อยากให้พี่น้องชาวไทย ได้ลองอ่านกันดู

ooooooo

เสียงเชียร์ดังสนั่นหวั่นไหว คนดูเต็มทุกอัฒจันทร์ เพื่อชมและเชียร์การแข่งขันโมโตจีพี ที่จัดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ จัดระหว่าง 5-7 ตุลาคม

เปิดการท่องเที่ยวภาคอีสาน การท่องเที่ยวเชิงกีฬา การกระจายรายได้สู่ชุมชน ผู้ชมทั้งไทยและต่างชาติมากันเยอะค่ะ 3 วันน่าจะประมาณ 200,000 คน ต่างชาติน่าจะประมาณ 12–15%

มีการบริหารการเดินทาง-ขนส่งคน มีจุดจอดรถ 27 จุดกระจายทั่วเมือง ทางเข้าสนามได้ 3 ประตู จัดระบบรักษาความปลอดภัยรัดกุม จากการทำงาน ผสานทุกหน่วยงาน การจัดที่พักนอกจากโรงแรมในจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียง โฮมสเตย์ต่างๆแล้ว ยังมีโซนเต็นท์ แคมป์ของสปอนเซอร์ (3,500 เต็นท์ ของ Honda, Yamaha และ ปตท.) รอบสนามสะดวกมาก

น่ารักที่สุดคือการให้ชาวนา ชาวไร่ มีส่วนร่วม ขับรถอีแต๋นของเขาจากหลายๆอำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ แต่งรถด้วยผ้าขาวม้า และกองฟาง เก๋มากๆ มาให้บริการด้วยความภาคภูมิใจ รับ–ส่ง จากโซนถึงโซน เป็นอีแต๋น Shuttle วิถีอีสานมีเสน่ห์ประทับใจมากๆ ต่างชาติชอบถ่ายรูปกันใหญ่

มีพาวิลเลียน บูธ เอ็กซ์โป ร้านอาหาร OTOP ชุมชนต่างๆจากหลายจังหวัดภาคอีสานมาขาย ททท. เอาหัตถกรรมท้องถิ่นอีสานมาแสดง และให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองทำ สร้างสีสัน คึกคัก เป็นการสนับสนุนการขายที่ดีมาก

ให้อุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย คือ จักรยานยนต์ ซึ่งฐานผลิตใหญ่สุดในภูมิภาคอยู่ในประเทศไทยของเรา ทำให้เขาไม่คิดย้ายฐานการผลิตไปที่ประเทศเพื่อนบ้านของเรา ที่มีประชากรมากกว่า มีเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตสูง และมี incentive ในการลงทุนสูงกว่าบ้านเรา

และเป็นการสนับสนุนท่องเที่ยวเมืองรอง ท่องเที่ยวชุมชน ชูอัตลักษณ์วิถีอีสาน ได้อย่างสร้างสรรค์นำเสนอประเทศไทยเป็น Sports Dream Destination

ช่วงเช้านักแข่งฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่ ก่อนการแข่งเก็บคะแนนในช่วงบ่าย ทุกคนชมว่าสนามมีมาตรฐานสูงท้าทายความสามารถมาก

นับเป็นความภาคภูมิใจและความสำเร็จที่รัฐบาลให้การสนับสนุนการจัดในครั้งนี้

ooooooo

เรียกได้ว่า อดีตรัฐมนตรีกีฬาเขียนได้เห็นภาพชัดเจน ซึ่งกระทรวงกีฬาประเมินรายได้ออกมาแล้ว ตัวเลขอยู่ที่ 3,100 ล้านบาท ถือว่าไม่น้อยเลย ถ้าเทียบกับที่ภาครัฐลงทุนปีละ 100 ล้านบาท รวมกับเอกชนอีก 300 ล้านบาท

ประเทศได้กลับมาในหลายๆด้านแบบมหาศาล

ที่สำคัญยังได้โชว์ตัวตนของเรา ที่ไม่ต้องอายใคร ให้ชาวโลกได้รับรู้ หากอยากจะเห็นก็ต้องมาที่เมืองไทยเราเท่านั้น กับรถอีแต๋นเท่ๆที่ใช้รับส่งผู้ชมตลอดงาน เป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยม ขอชื่นชมไว้ในโอกาสนี้

ส่วนอีก 2 ปีที่เหลือ จะเป็นอย่างไร จะจัดได้ดี ต่อเนื่องอีกหรือไม่

คอยติดตามกันต่อไป...

ฟ้าคำราม