หน้าแรกแกลเลอรี่

'ก้องศักด' เตรียมดัน 'สปอร์ตซิตี้' ให้ได้ครบทั้ง 76 จังหวัด

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

28 ก.ย. 2561 17:00 น.

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ว่าที่ผู้ว่าการ กกท. เตรียมขับเคลื่อนขยายตั้ง “สปอร์ตซิตี้” หรือเมืองแห่งกีฬาในไทยให้ครบทั้ง 76 จังหวัด เพื่อให้สอดคล้องกับแนวนโยบายที่จะพาประเทศไทยเป็น “ประเทศแห่งกีฬา” ชี้ที่ผ่านมาประกาศรับรองแค่ 6 จังหวัดถือว่าน้อยเกินไป ควรต่อยอดให้ครบ เพราะยังมีเมืองอื่นๆที่มีศักยภาพในการพัฒนากีฬาที่โดดเด่นเฉพาะด้านอีกมาก ทั้งภูเก็ต เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช...

วันที่ 28 ก.ย.61 ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกเมืองกีฬา หรือ “สปอร์ต ซิตี้ (Sports City)” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ซึ่งมีนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานพิจารณาคัดเลือกเมืองกีฬา และได้ดำเนินการคัดเลือกประกาศรับรอง 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี, จังหวัดสุพรรณบุรี, จังหวัดศรีสะเกษ, จังหวัดบุรีรัมย์, จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดกระบี่ เป็นจังหวัดต้นแบบในการจัดตั้งเมืองกีฬา ไปแล้วนั้น แต่มีหลายภาคส่วน ตั้งคำถามว่า มีจังหวัดใหญ่ที่มีความพร้อมน่าจะได้รับโอกาสในการประกาศเป็นเมืองกีฬาเช่นกัน

เรื่องนี้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ว่าที่ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่จะเข้ามารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการวันที่ 1 ต.ค.2561 กล่าวว่า เรื่องการจัดตั้งเมืองกีฬาในความคิดเห็นของตนให้การสนับสนุนเต็มที่ และสอดคล้องกับนโยบายในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น “ประเทศแห่งกีฬา” แต่การประกาศรับรอง 6 จังหวัดถือว่ายังน้อยเกินไป อยากให้ขยายผลต่อในจังหวัดใหญ่ที่มีศักยภาพ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต นครศรีธรรมราช เป็นต้น เพราะแต่ละจังหวัดมีศักยภาพในการพัฒนากีฬาที่แตกต่างกันอยากให้สนับสนุนทุกๆเมือง

“ผมไม่อยากให้เน้นในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานมากเกินไป แต่ควรดูที่ความสำเร็จของการพัฒนานักกีฬาในจังหวัดนั้นๆดูความโดดเด่นของแต่ละจังหวัดเป็นหลัก เช่น นครศรีธรรมราช มีการสร้างนักกรีฑาที่เก่ง, ภูเก็ต มีนักกีฬาเปตอง, แบดมินตัน และมีศูนย์กีฬาว่ายน้ำ ฯลฯ ที่ได้มาตรฐาน ส่วน เชียงใหม่มีนักกีฬาว่ายน้ำ รวมถึงการบริหารจัดการ การส่งเสริมการชม การเชียร์ การเป็นเจ้าภาพที่ดีใน การจัดการแข่งขันรายการใหญ่มาประกอบด้วย ใน เรื่องนี้เมื่อเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการจะมีการหารือกับผู้ใหญ่เพื่อขยายเมืองกีฬา เราควรทำให้ เป็นเมืองกีฬาครบทั้ง 76 จังหวัด ” ดร.ก้องศักดกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ดร.ก้องศักด ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างในการเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ กกท.แล้ว หลังจากนั้นส่งหนังสือสัญญาว่าจ้างให้รองนายกรัฐมนตรีลงนามรับทราบเพื่อเห็นชอบต่อไป โดยในหนังสือสัญญาว่าจ้าง ดร.ก้องศักด มีกำหนดเข้าทำงานอย่างเป็นทางการวันที่ 1 ต.ค.2561