หน้าแรกแกลเลอรี่

คำอวยพร

เบี้ยหงาย

25 ก.ย. 2561 05:01 น.

หลังกีฬาเอเชียนเกมส์ผ่านพ้น ก็ถึงคิวของกีฬาคู่แฝดอย่าง “เอเชียนพาราเกมส์” หรือกีฬาเอเชียนเกมส์ของนักกีฬาผู้พิการทั้งหลาย ซึ่งจะจัดคู่กันไปเสมอ ประเทศไหนเป็นเจ้าภาพก็ต้อง รับไปสองรายการ ถือเป็นความเท่าเทียมกัน

กีฬาเอเชียนพาราเกมส์ ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 6-13 ต.ค.นี้ นับเป็นการแข่งขันครั้งที่ 3 ซึ่งอาจจะดูเหมือนเพิ่งจัด แต่จริงๆแล้วมีมานานและพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ

ย้อนอดีตกันนิดเพื่อความเข้าใจ โดยก่อนที่จะมีการแข่งขันกีฬาเอเชียนพาราเกมส์นั้น เดิมทีเป็นการแข่งขันกีฬาเฟสปิกเกมส์มาก่อน เชื่อว่าชื่อของ “เฟสปิกเกมส์” คงจะพอคุ้นหูกันมาบ้าง โดยเฉพาะ ผู้คนในวัย 30-40 ปีขึ้นไป

กีฬาเฟสปิกเกมส์ (FESPIC Games) นั้น ซึ่งมีสหพันธ์กีฬาเฟสปิกเป็นเจ้าของเกม ชื่อภาษาอังกฤษเต็มๆก็ Far East and South Pacific Games for the Disabled ถ้าเรียกกันเต็มๆเป็นภาษาไทยก็กีฬาคนพิการภาคพื้นตะวันออกไกลและ แปซิฟิกตอนใต้ โดยเป็นการแข่งขันระหว่างนักกีฬาผู้พิการทั้งในเอเชียและโอเชียเนีย แน่นอนว่าจำนวนประเทศย่อมมากกว่าในปัจจุบัน แข่งกันทุก 4 ปีครั้ง ในช่วงปี ค.ศ.1975-2006 รวม 9 ครั้ง ประเทศไทยเราก็เคยเป็นเจ้าภาพที่กรุงเทพฯ ในปี 1999 ระหว่างวันที่ 10-16 ม.ค. พ.ศ.2542

ช่วงหลังจัดล้อมากับเอเชียนเกมส์ แถมมีการเปลี่ยนแปลงในสหพันธ์กีฬาเฟสปิก แยกเป็น 2 องค์กร คือคณะกรรมการพาราลิมปิกเอเชีย และ คณะกรรมการกีฬาพาราลิมปิกโอเชียเนีย ในส่วนของเอเชียเราจึงกลายมาเป็นกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ ประเดิมชื่อใหม่ครั้งแรกก็ครั้งที่เมืองกว่างโจวของจีนเป็นเจ้าภาพกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 เมื่อปี 2010 เอเชียนพาราเกมส์ครั้งที่ 1 ครั้งนั้น ทีมไทยจบด้วยอันดับที่ 5 คว้ามาได้ 20 เหรียญทอง, 34 เหรียญเงิน และ 39 เหรียญทองแดง

พอเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 2 เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่เมืองอินชอน เกาหลีใต้ ปี 2014 ทัพนักกีฬาไทย ได้อันดับ 6 ด้วยผลงาน 21 เหรียญทอง, 39 เหรียญเงิน และ 47 เหรียญทองแดง

กับการแข่งขันครั้งที่ 3 ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ มีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ไทยไปแข่งขันรวม 372 คน ชิงชัยใน 17 กีฬา ส่วนผลจะออกมาประการใดก็ส่งแรงเชียร์พวกเรากันหน่อย ซึ่งนักกีฬาคนพิการไทยนั้นสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ และนำความ ภาคภูมิใจมาสู่ชาวไทยโดยตลอด

วันวานเหล่าฮีโร่ไทยก็ได้เข้าพบ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลด้วยความชื่นมื่น ซึ่งท่านก็ให้โอวาท และอวยพรให้คณะนักกีฬาไทยด้วยดี ให้ทำหน้าที่ได้สำเร็จตามที่ตั้งใจ เป็นที่ชื่นชมกันทั่วหน้า

แต่ช่วงท้ายมีหยอดอยู่นิด เมื่อท่านเห็นคณะนักกีฬาใส่เนกไทโทนสีเหลืองมา ท่านบอก “ดีใจที่ใส่เนกไทสีเหลืองมาพอดี ทุกคนก็ใส่สีเหลืองอยู่พอดี ปกติใส่หลายๆสี วันนี้ไม่รู้อย่างไรตั้งใจ ใส่สีเหลือง เหมือนใจเราตรงกัน ขอให้ประสบความ สำเร็จทุกคน”

ทุกคนนี่ไม่รู้หมายรวมถึงตัวท่านเองด้วยรึเปล่า ใครๆก็อยากได้พรกันทั้งนั้น...

ก็วันเดียวกันนี้ท่านเพิ่งประกาศชัดๆว่าสนใจการเมืองเสียด้วยสิ!!!

“เบี้ยหงาย”