หน้าแรกแกลเลอรี่

คิดอย่างยั่งยืน

โจโจ้

21 ก.ค. 2561 05:01 น.

เป็นบทพิสูจน์อีกครั้งสำหรับ ค่ายปีกนก “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” หลังจากเพิ่งเปิดตัวนักบิดดาวรุ่งเลือดใหม่พันธุ์ไทยแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ลุยศึกจักรยานยนต์ทางเรียบสุดหฤโหดแบบ มาราธอนระดับโลก รายการ “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง 2018” เป็นหนึ่งในอีเวนต์ระดับโลก

พูดถึงเกมประลองความเร็วระดับโลก นอกจากรายการใหญ่อย่าง “โมโตจีพี” ที่จัดแข่งทุกปีแล้ว อีกหนึ่งรายการสำคัญไม่แพ้กันคือการแข่งขันรถจักรยานยนต์แบบมาราธอนสุดทรหด “ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง” ระหว่างวันที่ 27-29 ก.ค. ที่สนามซูซูกะ เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น

สนามนี้ถือเป็นสังเวียนที่เหล่านักบิดฝีมือดีมากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นนักแข่งเจ้าถิ่นและนักแข่งฝีมือระดับพระกาฬจากชาติต่างๆเข้าร่วมประลองความเร็ว โดยแข่งกันตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนจะร่วมเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ด้วยดอกไม้ไฟยามค่ำคืน หลังได้ผู้ชนะอย่างเป็นทางการ

ทัวร์นาเมนต์นี้ไม่เพียงแต่แข่งขันเพื่อชิงความเป็นหนึ่งของรายการยังเป็นการวัดพลังความสามารถของเหล่านักบิดและทีมช่างที่ส่งทีมเข้าร่วมประลองความเร็วด้วย

เพราะเป็นรายการที่แตกต่างจากการแข่งขันประเภทอื่นๆที่ใช้ความเร็วแบบม้วนเดียวจบ แต่ “ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง” เป็นการลงแข่งขันแบบมาราธอนต่อเนื่องตลอด 4 ชั่วโมงไม่มีพักเบรก เผชิญหน้ากับโค้งทั้งหมด 18 โค้ง ตลอดระยะทาง 5.8 กิโลเมตร

ทีมใดที่สามารถขี่ได้จำนวนรอบมากที่สุดจนหมดเวลาก็จะเป็นทีมที่ได้รับชัยชนะไป แม้จะเป็นสนามที่ยาก แต่นักแข่งทั่วโลกก็ยังชื่นชอบที่จะมาพบกับความท้าทายที่สนามแห่งนี้ ซึ่งถือเป็นมนต์เสน่ห์ให้นักแข่งอยากมาประลองฝีมือ

ด้วยการแข่งขันที่ต่างจากรายการปกติดังนั้นทีมงาน โค้ช เครื่องยนต์ และนักแข่ง ต้องอยู่ในสภาพพร้อมสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์เพื่อร่วมแรงร่วมใจกันพาทีมไปถึงโพเดียมแชมป์ให้ได้ โดย 1 ทีมที่ลงแข่งขันประกอบด้วย นักแข่งจำนวน 2 คน,รถแข่งที่ดีที่สุด 1 คัน และช่างเครื่องยนต์ประจำทีม

สำหรับรายการ ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา ทีมนักแข่งและทีมช่างสัญชาติไทยของ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ อย่าง “น้องมุกข์” มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวดีกรีแชมป์เอเชีย หนึ่งเดียวในวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย และ “เจ้าเอ้” วรพงศ์ มาลาหวล ซึ่งทั้งสองคนก็ทำผลงานอย่างเต็มที่ ก่อนพารถของตัวเองเข้าลำดับที่ 4 นับเป็นผลงานที่น่าประทับใจยิ่งสำหรับการส่งทีมไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ลงแข่งขันเป็นครั้งแรก

ในปี 2018 นี้ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ส่งนักแข่งหน้าใหม่ดาวรุ่งไฟแรงอย่าง “เจ้าบิว” วริทธิ์ ทองนพคุณ กับ “เจ้าฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ สู่เวทีระดับโลก โดยไม่ได้ตั้งเป้าว่าต้องยึดโพเดียมให้ได้ เพราะฮอนด้าเองต้องการที่จะสร้างความยิ่งใหญ่อย่างยืนยาวในระดับโลกไม่ใช่แค่ชั่วคราว

เพราะที่ผ่านมาฮอนด้าเองก็ประกาศศักดาในเกมใหญ่ๆมานับไม่ถ้วน แต่การคิดใหญ่ของค่ายปีกนกที่ต้องการความสำเร็จแบบยั่งยืนนั้น ถือเป็นแนวคิดที่ถูกต้องและนับว่าเดินมาถูกทางแล้วการจะไปซื้อตัวนักแข่งหรือทีมช่างที่เก่งๆมาร่วมทีมนั้นจะอยู่กับเราไม่นาน

การปลุกปั้นทีมแข่งแบบเต็มระบบทั้งนักบิดและทีมช่างด้วยตัวเองจะได้ประโยชน์ที่คุ้มค่ากว่าแม้ต้องใช้ระยะเวลาที่นานสักหน่อย อย่างน้อยความผูกพันธ์และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวเกิดขึ้นแน่นอน.

โจโจ้