หน้าแรกแกลเลอรี่

สู้เต็มที่! 3 นักขับไทยตั้งเป้าคว้าโพเดียม ช้าง ซูเปอร์ จีที

ไทยรัฐออนไลน์

29 มิ.ย. 2561 19:30 น.

3 นักขับไทย นำโดย ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ-ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ คู่หูจาก อาร์โต้-แพนเธอร์ ทีม ไทยแลนด์ และ กันตธีร์ กุศิริ จาก เอสต์ โคล่า บาย เอเอเอส มอเตอร์สปอร์ต พร้อมเต็มร้อยลุยศึก “ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018” เผยรถแข่งสมบูรณ์กว่าทุกครั้ง สร้างความมั่นใจให้ทีมอย่างมาก ตั้งเป้าพาธงชาติไทยฉลองโพเดียม โฮมเรซในสุดสัปดาห์นี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์...

วันที่ 29 มิ.ย. 61 การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับโลก รายการ ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018 เตรียมระเบิดความมันเป็นปีที่ 5 ในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน-1 กรกฎาคม ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยล่าสุดทีมแข่งทุกทีมได้นำรถแข่งทั้งในรุ่น จีที500 และ จีที300 เข้าเซตอัพในพิตเป็นที่เรียบร้อย โดยในปีนี้มีทีมแข่งไทยลงดวลความเร็วในบ้านเกิดถึง 2 ทีม นำโดย อาร์โต้-แพนเธอร์ ทีม ไทยแลนด์ ซึ่งลงแข่งแบบเต็มฤดูกาลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ด้วยการขับของคู่หูจอมเก๋าอย่าง ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ และ ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ รวมถึงทีมที่ได้สิทธิ์ไวด์การ์ดอย่าง เอสต์ โคล่า บาย เอเอเอส มอเตอร์สปอร์ต ขับโดยดาวโรจน์ชาวไทยอย่าง กันตธีร์ กุศิริ และทีมเมทชาวฝรั่งเศส แม็กซิม จูสส์ 

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด บรรดานักขับทั้งหมดในศึกช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ ได้ลงทำการเดินสำรวจแทร็กเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันอย่างพร้อมเพรียง รวมถึงนักขับไทยทั้ง 3 คน ที่ต่างก็ทำงานร่วมกับทีมอย่างหนักเช่นกัน 

ด้าน ณัฐวุฒิ เผยว่า หากเทียบกับปีที่แล้ว ทีมของเราลงตัวขึ้นมากครับ เราสามารถลดช่องว่างระหว่างรถคันอื่นๆ ในรุ่นจีที300 ได้เยอะมาก ตอนนี้เวลาต่อรอบตามหลังกลุ่มหน้าไม่มาก แต่คงต้องรอดูผลการซ้อมครั้งแรกในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ก่อนจะวางแผนขั้นต่อไป ผมคิดว่าเราจะต้องผ่านควอลิฟายแรกให้ได้ เชื่อว่าศักยภาพตอนนี้ไปถึงท็อปเท็นได้ไม่ยาก ส่วนแผนการทำงานจะต้องเป็นตามขั้นตอนไปก่อน และวิเคราะห์ในทุกๆ ช่วงของการลงซ้อม เชื่อว่าจะได้เห็นผลงานดีๆ ในสนามช้างฯ ครับ

ขณะที่ ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในปีนี้มีความพร้อมมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว ซึ่งเป็นปีแรกที่ลองผิดลองถูกกับการแข่งขันแบบเต็มฤดูกาล รถแข่งที่ใช้ก็ลงตัวมากขึ้น มีการเซตอัพที่เหมาะกับสนามต่างๆ มากกว่าเดิม รวมถึงตัวนักขับทั้งผมและพี่ณัฐวุฒิก็ทำได้ดีขึ้นตามลำดับ เราทำเวลาต่อรอบได้เร็วกว่าปีที่แล้วใน 3 สนามแรก เร็วกว่าเดิมถึง 1 วินาทีเศษๆ ในทุกสนาม ทำให้มั่นใจว่าการแข่งขันสุดสัปดาห์นี้ที่ประเทศไทย ค่อนข้างมีลุ้นเลยทีเดียว ผมคิดว่าเราจะติดท็อปเท็นได้ ส่วนการลุ้นโพเดี้ยมขึ้นอยู่ที่จังหวะและเกมการแข่งขันที่อะไรก็เกิดขึ้นได้

ส่วน กันตธีร์ เปิดเผยว่า นี่เป็นครั้งแรกของผมกับ ซูเปอร์ จีที ในฐานะนักแข่งรถที่คือรายการในฝันที่นักขับทั่วโลกอยากลงแข่งสักครั้ง ฉะนั้นนี่ก็เหมือนฝันที่เป็นจริงเลยก็ว่าได้ ความพร้อมตอนนี้ร่างกายเต็มร้อย ส่วนรถแข่งของเราซึ่งใช้เบนท์ลีย์ คอนติเนนทัล จีที3 ถือว่าพร้อมมากครับ ล่าสุดทีมได้ทดสอบยางมิชลินถือว่าทำเวลาต่อรอบได้ค่อนข้างคงที่ เราเดินทางมาถึงที่นี่ด้วยความมั่นใจ ผมกับแม็กซิมร่วมงานกันมาเกือบ 1 ปี โดยเขาเป็นเทรนเนอร์ในทีม และแข่งในระดับนานาชาติหลายรายการ และจากเวลาที่ทำได้กับรถคันนี้ในรายการอื่น ผมเชื่อว่าเราจะติดท็อปเท็นอย่างแน่นอน แต่ในการแข่งขันซูเปอร์จีที มีตัวแปรหลายอย่างมาก ผมตั้งเป้าขอขึ้นโพเดียมในบ้านเกิดให้ได้ครับ และคิดว่าเรามาโอกาสทำผลงานได้ดีต่อหน้าแฟนๆ ชาวไทย

ด้านแม็กซิม จูสส์ เผยว่า สุดสัปดาห์นี้เรามีความพร้อมค่อนข้างมาก ผมทำงานกับรถแข่งคันนี้มาตั้งแต่ต้นปีกับการแข่งขันในรายการไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ ทำให้มั่นใจว่าจะสู้กับทีมระดับหัวแถวในรุ่นจีที300 ได้ ผมพร้อมทำเต็มที่เพื่อช่วยให้ทีมไทยก้าวขึ้นมาเป็นทีมชั้นนำของเอเชีย รวมถึงในรายการนี้ แม้จะลงแข่งที่นี่ไม่บ่อยนัก แต่ทีมของเราก็มีข้อมูลที่นี่ค่อนข้างมาก เป้าหมายของเราคือพาทีมไทยขึ้นโพเดียมครับ

สำหรับการแข่งขัน ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018 จะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมครั้งแรกในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน ก่อนจะจับเวลารอบควอลิฟายในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน จากนั้นจะแข่งรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม เวลา 15.00-17.00 น. ถ่ายทอดสดทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 ​ผู้สนใจเข้าร่วมชมการแข่งขัน จะได้พบกับ ช้าง เจแปนีส สตรีท เฟสติวัล (Chang Japanese Street Festival) ได้ชมและชิมอาหารญี่ปุ่น, ​แฟชั่นโชว์ คอสเพลย์, โชว์ cover dance สุดมันส์จาก บีสตาร์ทีม ที่มียอดวิวหลักล้านทางยูทูบ,​ ไขตู้ชากาปอง,​ กิจกรรมศึกชิงแชมป์จ้าวนักกิน ชิงเงินรางวัลรวม 20,000 บาท พร้อมช็อปปิ้งสินค้าญี่ปุ่นมือสองมากมาย ยกเมืองญี่ปุ่นมาไว้ที่บุรีรัมย์ บริเวณหน้าสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต