หน้าแรกแกลเลอรี่

'ปตท.-สนามช้างฯ' ผนึกกำลังดันศึกสองล้อทางเรียบไทยสู่เรซอินเตอร์

ไทยรัฐออนไลน์

19 มิ.ย. 2561 17:15 น.

2 ผู้บริหารสนามช้างและปตท. พอใจผลงานสนามแรกศึกพีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2018 ช่วยยกระดับสู่ระดับสากล มั่นใจ พร้อมจัดศึกโมโตจีพี ครั้งแรกในไทย... 

วันที่ 19 มิ.ย. 61 นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ กล่าวถึงสนามแรกของปี 2018 ในศึกพีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ 2018 ว่า สำหรับสนามแรกถือเป็นเรซที่สนุกมาก เป็นการแข่งขันที่เข้มข้นจนถึงรอบสุดท้าย ในปีนี้เป็นปีแรกที่เราเปิดเป็น อินเตอร์เนชั่นแนล เรซ มีนักแข่งจากต่างชาติทั้งในเอเชียและยุโรปมากขึ้น ถือเป็นการกระตุ้นให้นักแข่งไทยพัฒนาตัวขึ้นไปต่อสู้กับนักบิดต่างชาติ

“ผมเชื่อว่าเราจะได้เห็นนักบิดต่างชาติทยอยเข้ามาแข่งในไทยมากขึ้น อาจยังไม่เยอะมาก และเป็นการลองแข่งเป็นสนามๆ ไป ที่ผ่านมา เราจัดทั้งเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ และเอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ ซึ่งยากต่อการที่ทีมต่างชาติจะเข้าร่วม และครั้งนี้ในศึกพีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ ได้ขยับตัวเป็นเรซอินเตอร์ ถือเป็นการเปิดให้ทีมแข่งจากต่างชาติเข้าชิมลางดูในปีแรก” นายตนัยศิริ กล่าว 

ด้าน นางเมญาพิมพ์ สมประสงค์ ผู้จัดการส่วนสื่อสารการตลาด บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้เป็นอีกก้าวสำคัญของปตท. กับการสนับสนุน พีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ เพราะทางสนามช้างฯได้ขยับขึ้นเป็นเรซระดับอินเตอร์เนชั่นแนล จึงถือเป็นปีที่น่าจับตามองมากๆ ในการเติบโตแบบก้าวกระโดดของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย

“เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า สนามช้างฯ จะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโมโตจีพีครั้งแรกของเมืองไทย ซึ่งปตท.เป็นผู้สนับสนุนหลักในรายการพีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ เพราะฉะนั้นนี่คือสนามระดับโลกที่นักบิดไทยจะได้ใช้เสริมความแข็งแกร่ง เพื่อต่อสู้กับนักแข่งจากทั่วโลกในอนาคตของพีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์” นางเมญาพิมพ์ กล่าว

สำหรับศึกพีทีที บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ ยังคงมีรางวัลเกียรติยศสูงสุดของแชมป์ประจำปีคือการคว้าสิทธิ์ไวด์การ์ดเข้าร่วมแข่งในรายการเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิพ และ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ ที่จะมีขึ้นที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยสนามที่ 2 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 กรกฎาคม ก่อนจะแข่งอีก 2 สนามที่เหลือเพื่อตัดสินแชมป์ประจำปี และนี่ถือเป็นอีกรายการแข่งขันที่จะพาวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ก้าวขึ้นสู่การแข่งขันชั้นนำของภูมิภาคและในระดับโลกต่อไป