หน้าแรกแกลเลอรี่

ที่พึ่งกีฬาของชาติ

เบี้ยหงาย

7 มิ.ย. 2561 05:01 น.

พระราชบัญญัตินโยบายการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ.2561 มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 135 ตอนที่ 19 ก เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งพระราชบัญญัติฉบับนี้ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติขึ้นมา หรือเรียกชื่อย่อว่า “คกช.”ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธาน, รมต.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นรองประธาน

มีกรรมการโดยตำแหน่ง 18 คน ได้แก่ รมต.มหาดไทย รมต.ศึกษาธิการ รมต.สาธารณสุข ปลัดก.กลาโหม ปลัด ก.พัฒนาสังคมฯ ปลัด ก.อุตสาหกรรม เลขาธิการคณะ กก.พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผอ.สํานักงบประมาณ อธิการบดีสถาบันการพลศึกษา ผู้ว่าฯ กทม. นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลฯ นายกสมาคม อบจ. นายกสมาคม อบต. ประธาน กกมท. ประธานคณะ กก.พาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกฯ ประธานสภาหอการค้าฯ และประธานสภาอุตสาหกรรมฯ

ยังมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จํานวนไม่เกินหกคน ซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ด้านการกีฬา ด้านการบริหารจัดการกีฬา ด้านกฎหมาย ด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านการศึกษา ด้านการแพทย์ ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ด้านวิศวกรรม หรือด้านอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการกีฬา

รวมทั้งต้องมี ผู้แทนสมาคมกีฬาที่ใช้คําว่า “แห่งประเทศไทย” จํานวนหนึ่งคน ซึ่งมาจากการเลือกกันเองของนายกสมาคมกีฬาที่ใช้คําว่า “แห่งประเทศไทย” เป็นกรรมการ และผู้แทนสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด จํานวนหนึ่งคน ซึ่งมาจากการเลือกกันเองของนายกสมาคม กีฬาแห่งจังหวัด เป็นกรรมการ

โดยมีปลัด ก.ท่องเที่ยวและกีฬาเป็นกรรมการและเลขานุการ, อธิบดีกรมพลศึกษา และผู้ว่าการ กกท. เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

จนถึงปัจจุบันนี้นับว่า พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ประกาศใช้มากว่า 2 เดือนแล้ว คณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ ก็ยังไม่ได้มีการประชุมกันเลย เพิ่งมีการตั้งกองงานคณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ และปลัด ก.ท่องเที่ยวและกีฬาไปตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้แก่เจ้าหน้าที่ดังกล่าว ณ ที่ทำการซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 2 อาคารสระว่ายน้ำวิสุทธารมณ์ ภายในสนามกีฬาแห่งชาติ

น่าสนใจที่มีการกำหนดบทบาทและหน้าที่ของ กองงานคณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัด ก.ท่องเที่ยวและกีฬา ที่มีการเผยแพร่ออกมา อาทิ จัดทำนโยบายและยุทธศาสตร์ หรือมาตรการเพื่อส่งเสริมและพัฒนาด้านการกีฬา จัดทำแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กำกับ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานตามนโยบายและแผนงาน พัฒนาระบบกลไกการประสานงานด้านการกีฬาของภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ

นั่นเสมือนว่ากองงานนี้ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในสำนักงานปลัดฯ จะมีความสำคัญยิ่ง และเป็นตัวทำงาน รวบรวม และส่งผ่านเรื่องราวให้ คกช. หรือซุปเปอร์บอร์ดการกีฬา ที่มีบิ๊กๆในรัฐบาลอยู่เพียบ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะทราบเรื่องของกิจการงานกีฬาดีแค่ไหน เคาะเป็นเรื่องๆไป

มีการระบุว่า คกช.จะประชุมกันครั้งแรกภายในเดือน มิ.ย.นี้ เอาแค่กรรมการ ส่วนที่ต้องมีการมอบหมาย แต่งตั้ง รวมทั้งเลือกกันเองในกลุ่ม ถึงตอนนี้ทำกันรึยังก็ไม่มีอะไรปรากฏออกมา

ซุปเปอร์บอร์ดการกีฬา ใหญ่มาก สำคัญมาก ระดมคนมีอำนาจเข้ามานั่งกันมาก เป็นกลไกขับเคลื่อนกีฬาของประเทศทั้งระบบ

ส่วนประโยชน์จริงๆจะมากและมีประสิทธิภาพมากหรือไม่ คงต้องหวังพึ่งท่านเจ้าหน้าที่ในสำนักงานปลัด ก.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้โปรดนำพากีฬาชาติให้รุ่งเรืองด้วยเถิด...

“เบี้ยหงาย”