ไทยรัฐออนไลน์
ศึกบลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย ระเบิดความมันเรซแรก ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยแชมป์รุ่นใหญ่เป็นของ "แพทริค นีเดอร์เฮาเซอร์" นักขับชาวสวิตเซอร์แลนด์ จับคู่ทีมเมทชาวเยอรมัน "มาร์คุส พอมเมอร์" กรุ๊ปเอ็ม เรซซิ่ง ทีม ขณะที่ทีมแข่งไทยผลงานเยี่ยมในคลาสเล็ก ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษฎา และ พิษณุ ศิริมงคลเกษม ได้ขึ้นโพเดียมต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทย...
วันที่ 12 พ.ค. 61 การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับโลก รายการ บลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย 2018 (Blancpain GT Series Asia 2018) ดวลความเร็วเรซแรกของสนาม 2 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ นับเป็นครั้งที่ 2 ที่แฟนความเร็วชาวไทยได้ชมศึกซูเปอร์คาร์สุดโหดรายการนี้แบบติดขอบสนามในเมืองไทย
สำหรับศึกบลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย จะดวลความเร็ว 2 เรซในแต่ละสนามที่เดินทางไปแข่งขัน โดยแต่ละเรซจะใช้เวลาทั้งสิ้น 60 นาที มีนักขับแต่ละคันจำนวน 2 คน กริดสตาร์ตเรซนี้เป็นของยอดทีมแข่งจากฮ่องกง อย่าง กรุ๊ปเอ็ม เรซซิ่ง ทีม ด้วยรถแข่งเมอร์เซเดส เอเอ็มจี จีที3 หมายเลข 999 ขับโดย "แพทริค นีเดอร์เฮาเซอร์" นักขับชาวสวิตเซอร์แลนด์ จับคู่ทีมเมทชาวเยอรมัน "มาร์คุส พอมเมอร์" ขนาบข้างด้วยรถแข่งเฟอร์รารี่ 488 จีที3 หมายเลข 27 จากทีมฮับออโต คอร์ซา ที่ขับโดย ฮงหลี ยี นักขับจีน และ นิค ฟอสเตอร์ ทีมเมทชาวออสเตรเลียน ส่วนนักขับลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ "แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค" ภายใต้รถแข่งปอร์เช จีที3อาร์ หมายเลข 911 จากทีมคราฟท์ แบมบู เรซซิ่ง จับคู่ เช เดวีส์ ทีมเมทชาวออสเตรเลีย ได้ออกสตาร์ตจากกริดที่ 14
ในการออกสตาร์ตเรซ นำโดยรถแข่งเมอร์เซเดส เอเอ็มจี จีที3 หมายเลข 999 เจ้าของโพลโพซิชั่นที่ขับไม้แรกโดยนีเดอร์เฮาเซอร์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงครึ่งทางแรกของการแข่งขัน แต่ในการเข้าพิตเพื่อเปลี่ยนตัวนักขับ กลายเป็นรกแข่งลัมบอร์กินี ฮูราคาน จีที3 หมายเลข 19 จาก เอฟเอฟเอฟ เรซซิ่ง ทีม บาย เอซีเอ็ม ที่ไล่บี้ตลอดทั้งเรซ แซงขึ้นนำได้สำเร็จ
อย่างไรก็ดี มาร์ติน โคดริช นักขับจากโครเอเชีย ที่ออกนำในช่วง 8 นาทีสุดท้าย กลับต้องโดนลงโทษ สต็อป แอนด์ โก ในพิตเลน ส่งผลให้เสียตำแหน่งผู้นำกลับคืนให้รถแข่งเมอร์เซเดส เอเอ็มจี จีที3 หมายเลข 999 ที่ขับโดยพอมเมอร์ นักขับคนที่สอง ขยับขึ้นนำและเข้าป้ายเป็นคันแรก คว้าแชมป์ในรุ่นจีที 3 เรซแรกไปครอง ส่วนอันดับ 2 เป็นของรถแข่งเฟอร์รารี่ 488 จีที3 หมายเลข 27 จากทีมฮับออโต คอร์ซา ที่ขับโดย ฮงหลี ยี และ นิค ฟอสเตอร์ ตามหลังแชมป์เพียง 1.432 วินาที ตามด้วย รถแข่งเอาดี้ อาร์8 แอลเอ็มเอส จีที3 หมายเลข 3 ขับโดย มาร์ติน รัมป์ นักขับเอสโตเนีย และ แฟรงกี้ เฉิง นักขับจีน ตามหลังแชมป์ 19.806 วินาที
ด้านแซนดี้ ที่จับคู่กับเดวีส์ ทำผลงานได้ดีภายใต้รถแข่งปอร์เช 911 จีที3อาร์ ที่เป็นรองในช่วงทางตรงอย่างมาก ออกสตาร์ตจากกริดที่ 14 ขยับขึ้นมา 3 อันดับ เข้าเส้นชัยเป็นคันที่ 11 ตามหลังแชมป์ 52.128 วินาที
ขณะที่ผลการแข่งขันในรุ่นจีที4 แชมป์ตกเป็นของรถแข่งเมอร์เซเดส เอเอ็มจี จีที4 หมายเลข 666 ขับโดย ไรน์โฮลด์ เรนเจอร์ นักขับชาวเยอรมัน ตามด้วย รถแข่งปอร์เช เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต เอ็มอาร์ หมายเลข 77 จากทีมคราฟท์ แบมบู เรซซิ่ง ขับโดย แฟรงค์ ยู นักขับ ฮ่องกง และ ฌอง มาร์ค เมอร์แลง นักขับชาวฝรั่งเศส ในอันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 เป็นของทีมแข่งจากไทย เจดับบลิวดี-ยูนิกซ์ เรซซิ่ง ทีม ภายใต้รถแข่งปอร์เช เคย์แมน จีที4 คลับสปอร์ต เอ็มอาร์ หมายเลข 22 ขับโดย ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษฎา และ พิษณุ ศิริมงคลเกษม ได้ขึ้นโพเดียมในคลาสนี้ ต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทย
สำหรับการแข่งขันเรซที่ 2 ของศึกบลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย 2018 สนาม 2 จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ถ่ายทอดสดทางทรูโฟร์ยู ช่อง24