หน้าแรกแกลเลอรี่

'วีระศักดิ์' เร่งระดมทุกภาคส่วน-ขอความร่วมมือ จัดแข่ง‘โมโตจีพี2018’

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

4 พ.ค. 2561 14:00 น.

"วีระศักดิ์ โควสุรัตน์" รัฐมนตรีกีฬา เผยไทยเตรียมจัดศึกจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก 2018 “โมโตจีพี” มาถูกทาง หลังเดินทางมาดูงานสนามที่สเปน แต่ต้องเพิ่มเติมในเรื่องการบูรณาการความร่วมมือกันเตรียมงานนี้ของภาคส่วนรัฐบาล, ตำรวจ, ทหาร, จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียง เพราะเป็นงานที่ใหญ่ และจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อประเทศไทย โดยคาดว่าผู้ชมจะทะลักเข้าชมที่บุรีรัมย์ 2-3 แสนคน...

วันที่ 4 พ.ค.61 สืบเนื่องจากเมื่อเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย พ.ท.รุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาอาชีพ และสิทธิประโยชน์, นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พร้อมทีมงานจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึง กกท. เดินทางถึงเมืองเฆเรซ ประเทศสเปน เพื่อเก็บข้อมูลการเตรียมการเป็นเจ้าภาพ จัดแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก 2018 “โมโตจีพี” สนามที่ 4 จากทั้งหมด 19 สนามตลอดทั้งปี ระหว่างวันที่ 4-6 พ.ค.2561 ก่อนนำไปเป็นข้อมูลในการเตรียมการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทยในสนามที่ 15 ของฤดูกาล 2018 ระหว่างวันที่ 5-7 ต.ค. 2561 ที่ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

ทันทีที่เดินทางมาถึง คณะจากประเทศไทยเดินทางไปยังสนามกรัน เปรเมียว เร้ดบูล เด เอสปันญา ซึ่งเป็นสนามแข่งขันเก่าแก่ของศึก “โมโตจีพี” เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการเตรียมงานทุกด้านของเมืองเฆเรซ โดยมี มิเรยา ริเวรอส ฆิมิเนส เลขานุการทั่วไปของสภาผู้แทนรัฐบาลสเปนในจังหวัดคาดิซ เป็นตัวแทนรัฐบาลสเปน นำผู้เกี่ยวข้องทั้งเรื่องการบริหารจัดการสนาม, เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง, เทศบาลเมืองเฆเรซ ร่วมบรรยาย

นายวีระศักดิ์กล่าวว่า สาเหตุที่เดินทางมาดูงานที่เมืองเฆเรซเพราะมีสภาพคล้ายกับ จ.บุรีรัมย์ โดยอยากทราบข้อมูลเรื่องที่พัก ที่กิน ที่อาบน้ำ ความเป็นอยู่ของแฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตที่คาดว่าจะเข้ามายังบุรีรัมย์ 2-3 แสนคนในช่วงเดือน ต.ค.นี้ ฝั่งตัวแทนจากสเปน บรรยายสรุปให้คณะจากเมืองไทย สรุปได้ว่า สนามแข่งที่เฆเรซสร้างเมื่อปี ค.ศ.1985 ปรับปรุงไปเมื่อปี 2002 มีพื้นที่ 100 เอเคอร์ เป็นสนามเกรดเอ ที่จัดทั้งโมโตจีพี และรถยนต์สูตร 1 เอฟวัน สำหรับข้อสงสัยของฝ่ายไทยเรื่องความเป็นอยู่ของผู้ชมที่จะเข้ามาชมการแข่งขันนั้น จะมีทั้งพักแบบแคมปิ้ง พักแบบโรงแรมระดับ 2-4 ดาว และอีกส่วนเดินทางไปกลับ สนามที่เฆเรซ ประเมินกันและจะมีผู้ชมเข้ามาในสนาม และรอบนอก วันละ 65,000-70,000 คน โดยเฉพาะวันสุดท้ายซึ่งเป็นวันอาทิตย์จะมียอดขายบัตรอยู่ที่ 70,000 ใบ ในส่วนปริมาณของทีมงานของทีมต่างๆ และเจ้าหน้าที่ของฝ่ายจัดแข่ง รวมถึงฝ่ายรักษาความปลอดภัยรวมอยู่ที่ 5,000 คนต่อวัน ดังนั้น ที่เฆเรซจะมีการจัดระบบที่จอดรถ เส้นทางการเดินรถเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ชมที่จะหลั่งไหลเข้ามาตามเส้นทางหลัก พื้นที่จอดรถจะมีห้องน้ำชั่วคราว ห้องอาบน้ำชั่วคราวบริการให้เพียงพอ คนที่มาดูโมโตจีพีส่วนมากจะมาครบ 3 วัน ที่เฆเรซจะเปิดให้เด็กนักเรียนเข้าดูฟรีด้วย

ส่วนเรื่องการรักษาความปลอดภัยนั้น ปริมาณคนโดยรวมทั้งหมดตลอด 3 วันรวมรอบนอกจะอยู่ ที่ 3 แสนคน ทำให้ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และภาคท้องถิ่นร่วมกันควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด โดยที่เฆเรซจะใช้ตำรวจ 1,507 นาย จะมี มาตรการควบคุมการก่อการร้ายเป็นพิเศษ การตรวจหายาเสพติด การป้องปรามอาชญากรรมในทุกรูปแบบตั้งแต่จี้, ปล้น, ลักทรัพย์ เป็นต้น

หลังรับฟังบรรยายสรุปคณะของไทยนำโดย รัฐมนตรีกีฬา เดินทางไปเยี่ยมชมการเตรียมพื้นที่จอดรถ, ห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ, สนามบิน, สถานีรถไฟ, โรงแรมที่พักระดับ 2-4 ดาวเพื่อเป็นข้อมูลไปเตรียมการ โดยนายวีระศักดิ์เปิดเผยว่า เราได้ประโยชน์อย่างมากที่ได้มาเห็น ได้มารับทราบข้อมูลหลายๆ เรื่องที่จะทำให้การเตรียมการเป็นเจ้าภาพของไทยสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ที่ จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 7-8 พ.ค.นี้ ตนจะนำเรื่องดังกล่าวไปเล่าให้ ครม.รับทราบข้อมูลไว้ด้วยเช่นกัน โดยจากการมาดูงานที่สเปนทำให้มั่นใจว่าการเตรียมการของไทยในช่วงที่ผ่านๆมานั้นถือว่าเดินมาถูกทางแล้ว แต่ต้องเพิ่มเติมในเรื่องการบูรณาการความร่วมมือกันเตรียมงานนี้ของภาคส่วนรัฐบาล, ตำรวจ, ทหาร, จ.บุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียง เพราะเป็นงานที่ใหญ่ และจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อประเทศไทย