ไทยรัฐออนไลน์
ปันจักสีลัตไทยทำผลงานยอดเยี่ยม ในประเภทต่อสู้ คว้าเพิ่ม 6 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง รวมกับประเภทปันจักลีลา อีก 2 ทอง 2 ทองแดง แล้ว ทำให้ได้ไปทั้งหมด 8 ทอง 5 เงิน 4 ทองแดง ปิดฉากศึกปันจักสีลัตเยาวชนโลกแบบยอดเยี่ยม
การแข่งขันกีฬาปันจักสีลัตเยาวชน ชิงแชมป์โลก “จูเนียร์ เวิลด์ ปันจักสีลัต แชมเปี้ยนชิพ 2018” ครั้งที่ 4 ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 28 เม.ย. เป็นการแข่งขันวันสุดท้าย โดยมี พลตรีจารึก อารีราชการัณย์ รองประธานกรรมการและเลขาธิการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานปิดการแข่งขัน ร่วมด้วย นายภาณุ อุทัยรัตน์ นายกสมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย และ นายราชิต สุดพุ่ม รองผู้ว่าราชการจ.สงขลา ร่วมงาน
วันสุดท้ายเป็นการแข่งขัน รอบชิงชนะเลิศ ประเภทต่อสู้ รุ่นอายุ 14-17 ปี ซึ่งมีนักกีฬาไทยผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ทั้งหมด 11 คน แบ่งเป็นชาย 6 คน หญิง 5 คน จากทั้งหมด 24 รุ่น แบ่งเป็นชาย 16 รุ่น หญิง 8 รุ่น
เริ่มจากนักกีฬาชายของไทยที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศถึง 6 คน ด้วยกัน ในรุ่นเอ น้ำหนัก 39 กก.-43 กก. ชาย “แม็ก” พัชรพล อันทัมทิม เจอกับ กาว เซิน ฮุย (เวียดนาม) นัดนี้ พัชรพล อันทัมทิม ทำผลงานได้ดี ถึงแม้ทางหนุ่มเหงียนจะไม่ยอมแพ้ พยายามทำแต้มไล่ตาม แต่หนุ่มไทยก็ทำได้ดีกว่าเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะ 5-0 ครองเหรียญทองได้แบบไม่มีพลิกโผ เหรียญทองแดง มาเลเซีย และ สิงคโปร์
รุ่น บี น้ำหนัก 43 กก.-47 กก.ชาย ธีระพงศ์ พรมดอนกลอย เจอกับ รอย โคมาโช (ฟิลิปปินส์) ผลปรากฎว่า ธีระพงศ์ พรมดอนกลอย โชว์ฟอร์มได้ดีกว่า เป็นฝ่ายทำคะแนนได้อย่างขาดลอยจนสามารถคว้าเหรียญทองได้สำเร็จด้วยชัยชนะ 5-0 เหรียญทองแดง อินเดีย และ เวียดนาม
นักกีฬาหญิงไทย ที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ทั้งหมด 5 คน ที่สามารถคว้าเหรียญทองมาครอง มีรุ่น ดี น้ำหนัก 51 กก.-55 กก.หญิง สิรินธร พับเพลิง แย่งแชมป์เจอกับ อามิราห์ บินเต ซาห์ริน (สิงคโปร์) เกมนัดนี้ สาวไทย ทำได้ดีกว่า เป็นฝ่ายทำคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งตลอด ส่งผลให้สิรินธร พับเพลิง เป็นฝ่ายชนะ 5-0 คว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ ทำให้สาวเมืองลอดช่อง สิงคโปร์ ได้แค่เหรียญเงิน เหรียญทองแดง อินเดีย และ มาเลเซีย
รุ่น อี น้ำหนัก 55 กก.-59 กก.หญิง วราภรณ์ วงศ์นคร ดวลกับ สุร์ยานิงยาส (อินโดนีเซีย) เกมนี้สาวไทย ที่ตัวสูงกว่าทำแต้มนำตลอด แม้สาวอิเหนาจะพยายามฮึดสู้ จนในท้ายที่สุด วราภรณ์ วงศ์นคร ก็คว้าแชมป์มาครองหยิบเหรียญทองให้ทัพนักกีฬาไทยอีกเหรียญ ด้วยชัยชนะ 5-0 เหรียญทองแดง มาเลเซีย และ คีร์กีซสถาน
รุ่น เอช น้ำหนัก 67 กก.-71 กก.หญิง เกวลิน บุญมี ปะทะกับ เหวียน เล ควิน จิ (เวียดนาม) เกมนัดนี้สาวไทย ทำแต้มขึ้นนำในช่วงแรก แต่สาวเหงียนไม่ยอมแพ้จนแต้มสูสี ก่อนที่เกวลิน บุญมี สาวไทยจะเป็นฝ่ายทำคะแนนแซงหน้าชนะไปในที่สุด 5-0 คว้าเหรียญทองได้อีกเหรียญ เหรียญทองแดง อินเดีย และ มาเลเซีย
รุ่น จี น้ำหนัก 63 กก.-67 กก.หญิง สุนิสา มากผ่อง แย่งแชมป์กับ ซิติ นูร์ อาเลีย บินติ จูไนดาย (มาเลเซีย) เกมนี้สาวไทยสวมหัวใจสิงห์สู้เต็มที่ขึ้นนำไปก่อน ทิ้งห่างจนคู่แข่งจากแดนเสือเหลืองไล่ตามไม่ทัน ทำให้ สุนิสา มากผ่อง คว้าชัยชนะ 5-0 ได้เหรียญทองเหรียญสุดท้ายให้กับทัพนักกีฬาไทยได้สำเร็จ เหรียญทองแดง เวียดนาม
ส่วนนักกีฬาชายที่เหลืออีก 4 คน พลาดได้แค่เหรียญเงินรุ่น เอช น้ำหนัก 67 กก.-71 กก. ชาย “ปู้” อิทธิชัย ขุนเขามณีแก้ว เจอกับ โมฮัมหมัด สุบาฮัน บิน ซาห์ริยันโต (มาเลเซีย) เกมนี้ค่อนข้างสูสี ทำคะแนนคู่คี่ ก่อนที่ หนุ่มไทย อิทธิชัย ขุนเขามณีแก้ว จะเป็นฝ่ายแพ้ไปแค่เส้นยาแดง 2-3 ได้เหรียญเงินแบบน่าเสียดาย เหรียญทองแดง ออสเตรเลีย และ สิงคโปร์
รุ่น ไอ น้ำหนัก 71 กก.-75 กก. ชาย ทิวธง วงศ์ศิริศักดิ์
เจอกับ โมฮัมหมัด ฮาฟิซ บิน ฮาลิม (มาเลเซีย) ถึงแม้เกมนี้ หนุ่มไทย พยายามสู้เต็มที่ แต่ไม่สำเร็จ ทำให้ ทิวธง วงศ์ศิริศักดิ์ เป็นฝ่ายแพ้ 0-5 ได้แค่เหรียญเงิน ปล่อยให้คู่แข่ง หนุ่มเสือเหลือง มาเลเซีย ได้เหรียญทองไปครอง เหรียญทองแดง อินโดนีเซีย และ สิงคโปร์
รุ่น เจ น้ำหนัก 75 กก.-79 กก.ชาย สุรินธร ดำเปล่า ดวลกับ มูฮัมหมัดสยาฮิรัน บิน เจฟฟรี (สิงคโปร์) เกมนี้ ถึงแม้หนุ่มไทยจะพยายามฮึดสู้ แต่ไม่สำเร็จ สุรินธร ดำเปล่า เป็นฝ่ายแพ้ 0-5 ได้ครองแค่เหรียญเงิน เหรียญทองแดง มาเลเซีย และ อินเดีย
รุ่น แอล น้ำหนัก 83 กก.-87 กก.ชาย วีระยุทธ ทองนอก เจอกับ ไอแมน ปุตรา บิน อาชา อาริฟฟิน (สิงคโปร์) เกมครั้งนี้ หนุ่มไทย พยายามฮึดสู้ แต่ไม่สำเร็จ วีระยุทธ ทองนอก เป็นฝ่าย แพ้ สิงคโปร์ 0-5 ได้เหรียญเงินอีกรุ่น เหรียญทองแดง อินเดีย และ มาเลเซีย
ด้านนักกีฬาหญิง ที่เหลืออีกคน พลาดได้แค่รองแชมป์ เช่นกัน คือใน รุ่น ซี น้ำหนัก 47 กก.-51 กก.หญิง มารีญา สะและโสะ เจอกับ คูร์เนีย ฟัทมา อามานาห์ (อินโดนีเซีย) ผลปรากฎว่า สาวไทย พยายามสู้เต็มที่ ก่อนจะเป็นฝ่ายแพ้สาวอิเหนา 0-5 ทำให้ มารีญา สะและโสะ ได้แค่เหรียญเงิน เหรียญทองแดง คีร์กีซสถาน และ เวียดนาม
ส่วน นักกีฬาไทยที่ได้เหรียญทองแดง มี 2 คน คือ รุ่น เค น้ำหนัก 79 กก.-83 กก.ชาย อภิสิทธิ์ ฝอยทองพรมราช ได้เหรียญทองแดง เหรียญทอง สิงคโปร์ เหรียญเงิน มาเลเซีย เหรียญทองแดง อีกคน เวียดนาม และ รุ่น เอ น้ำหนัก 39 กก.-43 กก.หญิง วิชญาพร อินทร์เพ็ง ได้เหรียญทองแดง โดยเหรียญทอง อินโดนีเซีย เหรียญเงิน สิงคโปร์ เหรียญทองแดงอีกคน ฟิลิปปินส์
สรุป ในประเภทต่อสู้ นักกีฬาชายได้มา 2 ทอง 4 เงิน 1 ทองแดง ส่วนนักกีฬาหญิง ได้มา 4 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง ทำให้รวมแล้วในประเภทต่อสู้ไทยได้ 6 ทอง 5 เงิน 2 ทองแดง รวมกับประเภทปันจักลีลา (ประเภทร่ายรำ) อีก 2 ทอง 2 ทองแดง รวมแล้วในการแข่งขันรายการนี้ไทยได้มาทั้งหมด 8 ทอง 5 เงิน 4 ทองแดง
รุ่นอื่นๆ ที่เหลือ นักกีฬาไทยได้อันดับ 5 หมดทุกรุ่น รุ่น ซี น้ำหนัก 47 กก.-51 กก.ชาย ชาญชล แจ่มจันทร์ ได้อันดับที่ 5 เหรียญทอง อินโดนีเซีย เหรียญเงิน เวียดนาม เหรียญทองแดง มาเลเซีย และ สิงคโปร์
รุ่นดี น้ำหนัก 51 กก.-55 กก.ชาย คณิน อันทับทิม ได้อันดับที่ 5 เหรียญทอง สิงคโปร์ เหรียญเงิน มาเลเซีย เหรียญทองแดง ฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม
รุ่น อี น้ำหนัก 55 กก.-59 กก. ชาย ยอดสินธพ ไชยเกิด ได้อันดับที่ 5 เหรียญทอง อินโดนีเซีย เหรียญเงิน มาเลเซีย เหรียญทองแดง เวียดนาม และ สิงคโปร์
รุ่น เอฟ น้ำหนัก 59 กก.– 63 กก.ชาย โรลซามัง กาเจ ได้อันดับที่ 5 เหรียญทอง เวียดนาม เหรียญเงิน มาเลเซีย เหรียญทองแดง ลาว และ ฟิลิปปินส์
รุ่น จี น้ำหนัก 63 กก. – 67 กก.ชาย ศรายุทธ ตุดเกื้อ ได้อันดับที่ 5 เหรียญทอง มาเลเซีย เหรียญเงิน อินโดนีเซีย เหรียญทองแดง ฟิลิปปินส์ และ สิงคโปร์
รุ่น บี น้ำหนัก 43 กก.-47 กก.หญิง มนธิชา แก้วพิลา ได้อันดับที่ 5 เหรียญทอง สิงคโปร์ เหรียญเงิน เวียดนาม เหรียญทองแดง อินเดีย และ มาเลเซีย
รุ่น เอฟ น้ำหนัก 59 กก.-63 กก.หญิง รัตนาวดี จงจิตร ได้อันดับที่ 5 เหรียญทอง อินโดนีเซีย เหรียญเงิน เวียดนาม เหรียญทองแดง ฟิลิปปินส์ และ มาเลเซีย
ด้าน รุ่นที่ไม่มีไทย รุ่น เจ น้ำหนัก 75 กก.-79 กก.หญิง เหรียญทอง มาเลเซีย เหรียญเงิน อินเดีย เหรียญทองแดง อินโดนีเซีย
รุ่นไอ น้ำหนัก 71 กก. -75 กก.หญิง เหรียญทอง เวียดนาม เหรียญเงิน มาเลเซีย เหรียญทองแดง อินเดี
รุ่นโอเพ่น น้ำหนัก 79 กก.-91 กก.หญิง ทอง มาเลเซีย เงิน อินเดียว
รุ่นโอเพ่น น้ำหนัก 87 กก.-99 กก.ชาย
ในส่วนของสมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย โดยนายภาณุ อุทัยรัตน์ นายกสมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย จะมีรางวัลมอบให้สำหรับนักกีฬาที่ได้เหรียญทอง โดยได้มอบรถมอเตอร์ไซค์ ยามาฮ่า คิวบิกซ์ ให้กับนักกีฬาปันจักสีลัต ประเภทต่อสู้ ที่ได้เหรียญทอง รวม 6 คัน ส่วนประเภทร่ายรำ เดี่ยวชาย และ ทีมหญิง 3 คน จะได้รับมอเตอร์ไซค์ อีกคนละรุ่น รวม 4 คัน นอกจากนี้นักกีฬาที่ได้เหรียญทองยังได้เงินจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ อีกคนละ 1 แสนบาท เหรียญเงิน 5 หมื่นบาท เหรียญทองแดง 25,000 บาท