ไทยรัฐออนไลน์
สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เปิดประสบการณ์มอเตอร์สปอร์ตระดับโลกให้แฟนความเร็วชาวไทยอีกครั้ง ด้วยการดึงศึกซูเปอร์คาร์ชั้นนำอย่าง "บลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย 2018" ที่มียอดรถแข่งกว่า 30 คัน และนักขับชั้นนำของโลกและเอเชียกว่า 60 คน โดยจะแข่งวันที่ 12-13 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ เปิดขายบัตรแล้ววันนี้ทาง ออลล์-ทิคเก็ต ไทยแลนด์ ทุกสาขาทั่วประเทศ...
วันที่ 25 เม.ย. 61 การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับโลก รายการ "บลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย 2018" (Blancpain GT Series Asia 2018) เตรียมดวลความเร็วสนาม 2 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ด้านมอเตอร์สปอร์ต ให้กับแฟนความเร็วชาวไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ในวันที่ 12-13 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ที่แฟนความเร็วชาวไทยจะได้ชมศึกซูเปอร์คาร์สุดโหดรายการนี้แบบติดขอบสนามในประเทศไทย
ศึกบลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย เป็นการแข่งขันรถยนต์ประเภทมินิเอ็นดูรานซ์ ด้วยรถแข่งซูเปอร์คาร์ ประเภทจีที 3 และจีที 4 โดยไฮไลต์อยู่ที่รถแข่งซูเปอร์คาร์ชั้นนำของโลก อาทิ ลัมบอร์กินี ฮูราคาน จีที3, ออดี้ อาร์8 แอลเอ็มเอส, แม็คลาเรน 650เอส จีที3, เฟอร์รารี่ 488 จีที3, แอสตัน มาร์ติน วี12 แวนเทจ จีที3, ปอร์เช่ 911 จีที3, บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม6 จีที3 และ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีที3 โดยมีนักขับชั้นนำของโลกและเอเชียกว่า 60 คน เข้าร่วมการแข่งขัน อาทิ อเล็กซ์ ยูง อดีตนักขับฟอร์มูลาวัน ชาวมาเลเซีย จากทีมฟีนิกส์ เรซซิ่ง เอเชีย และ จอช เบอร์ดอน นักขับชาวออสเตรเลีย จาก แอ็บโซลูท เรซซิ่ง รวมถึงนักขับไทยหนึ่งเดียวในรายการนี้อย่าง แซนดี้ สตูวิค ดีกรีแชมป์ยูโร ฟอร์มูล่า โอเพ่น และอดีตนักขับจีพี3 ซึ่งจะลงแข่งในคลาสซิลเวอร์ ภายใต้สังกัด คราฟท์ แบมบู เรซซิ่ง
ด้าน นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เปิดเผยว่า เราพยายามดึงการแข่งขันซีรีส์ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นที่สนามช้างฯ เสมอ เพื่อสร้างความสดใหม่ให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ต เป้าหมายคือ เราได้เป็นเวทีสำหรับการพัฒนาเด็กไทยในเอเชียและเวทีโลก เราทำทุกอย่างสำหรับวงการมอเตอร์สปอร์ต เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย และเพื่อทำให้นักกีฬาไทยได้เติบโตในฐานะซูเปอร์สตาร์วงการมอเตอร์สปอร์ต ผมเชื่อว่าโอกาสที่คนไทยจะได้ขึ้นโพเดียมในโฮมเรซมีสูงมาก และเชื่อว่าการแข่งขันรายการนี้ จะสะท้อนให้เจ้าของรายการแข่งในไทย ได้เห็นกติกาที่เป็นสากล สร้างอรรถรสให้คนดู ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนากฎกติกา เพื่อให้น่าสนใจและมีเกมการแข่งขันที่สนุกมากขึ้น
"สำหรับการแข่งขันรายการ บลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย ดำเนินการโดย เอสอาร์โอ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์สูงกับการจัดการแข่งขันประเภทรถจีที มีมาตรการจัดสมรรถนะให้รถเหล่านี้อยู่ในกฎการแข่งขันที่ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกัน นอกจากนี้ยังเป็นคนสร้างการแข่งขันรายการ จีที1 และเป็นคนสร้างกฎจีที300 ให้กับ ซูเปอร์จีทีด้วย ส่วนทีมงานเราพร้อมมาก เพราะผ่านประสบการณ์มากมายจาก ซูเปอร์จีที และรายการรถยนต์อื่นๆ" บิ๊กบอสสนามช้างฯ กล่าว
นายตนัยศิริ ยังกล่าวอีกว่า ในการแข่งขันสนาม 2 ซึ่งจะมีขึ้นในเมืองไทยช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีรถแข่งมากกว่า 30 คัน ซึ่งถือเป็นการรวมเอายอดทีมชั้นนำของเอเชีย และอีกหลายทีมชั้นนำจากทั่วโลก มาแข่งในเมืองไทย แฟนๆ จะได้เห็นความมันแบบในยุโรปเกิดขึ้นที่สนามช้างฯแน่นอน รวมถึงเสน่ห์ในการแซงแบบดุเดือดของนักขับทุกคนด้วย และที่ผ่านมา เราเห็นความพร้อมและศักยภาพของสนามช้างฯ มาตลอด ในด้านการดำเนินการแข่งขันจึงไม่มีความกังวลใดๆ ทั้งสิ้น เพราะที่นี่มีความเป็นมืออาชีพสูงมาก
นอกจากการแข่งขันบลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย ที่จะมีขึ้นในช่วงดังกล่าวแล้ว จะมีรายการลัมบอร์กินี ซูเปอร์ โทรฟีโอ เอเชีย ที่เคยสร้างความมันให้กับแฟนความเร็วชาวไทยเมื่อปีที่ผ่านมา รวมถึงรายการของคนไทยอย่าง สเปเชียล ออล วีลส์ ไดรฟ์ รวมอยู่ในช่วงเดียวกันด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันได้แล้ววันนี้ทาง ออล-ทิคเก็ต ไทยแลนด์ กว่า 11,000 สาขาทั่วประเทศ โดยบัตรแกรนด์สแตนด์ ราคา 500 บาท/2 วัน, 300 บาท/1 วัน และบัตรไซด์สแตนด์ ราคา 150 บาท/2 วัน, 100 บาท/1 วัน หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/BuriramUnitedInternationalCircuit