แม่ลูกจันทร์
ภาพจาก เว็บไซด์ จอมบึงมาราธอน
“จอมบึงมาราธอน” เป็นงานวิ่งที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากนักวิ่งเพื่อสุขภาพทั่วประเทศ
ก่อกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ.2528โดยอาจารย์ของวิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึงกลุ่มหนึ่งที่มีความสนใจการวิ่งเพื่อสุขภาพ มี อาจารย์ณรงค์ เทียมเมฆ และ อาจารย์สมจิต สง่าพันธุ์ เป็นผู้ริเริ่ม
ครั้งนั้นมีผู้เข้าร่วมไม่ถึง 100 คน เก็บค่าสมัครคนละ 20 บาท เบอร์วิ่งทำขึ้นเองจากผ้าด้ายดิบเขียนตัวเลขด้วยสีน้ำมัน ระยะทางวิ่ง 10 กม. จุดเริ่มต้นอยู่ที่ถ้ำเขาบินและเส้นชัยอยู่ที่ถ้ำจอมพล
จากวันนั้นงานวิ่งเล็กๆที่จอมบึงก็ถูกจัดขึ้นเป็นประจำในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมกราคม จนกลายเป็นประเพณีของชาวจอมบึง ตลอดจนนักวิ่งเพื่อสุขภาพจากทั่วประเทศที่กล่าวขานกันว่า “ใครไม่เคยวิ่งสนามจอมบึง ไม่ใช่นักวิ่งที่แท้จริง”
จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีมากกว่า 5,000 คนทุกปี ซึ่งนับว่ามากในช่วงเวลานั้น ต่อมาในปี พ.ศ.2532 ได้เพิ่มระยะทาง 21.1 กม. เข้าไปด้วย จึงเปลี่ยนชื่องานเป็น “จอมบึงครึ่งมาราธอน”
และในปี พ.ศ.2542 ซึ่งเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72พรรษา คณะกรรมการจัดการแข่งขันจึงเพิ่มการวิ่งมาราธอนระยะทาง 42.195 กม. ขึ้นอีกระยะหนึ่ง ชื่องานจึงเปลี่ยนเป็น “จอมบึงมาราธอน” จนถึงปัจจุบัน
นักวิ่งจำนวนมากกล่าวถึงสนามจอมบึงว่า เป็นสนามต้นแบบของการจัดวิ่ง เพราะที่นี่คือการริเริ่มให้มีงานเลี้ยงสังสรรค์นักกีฬาในเย็นวันเสาร์ก่อนจะแข่งขันในวันรุ่งขึ้น
ด้วยเหตุผลว่านักวิ่งจำนวนมากต้องเดินทางมาพักค้างคืนล่วงหน้า และไม่สะดวกในการหาอาหารรับประทาน งานเลี้ยงสังสรรค์จึงเป็นสีสันที่สร้างความประทับใจให้กับนักวิ่งตลอดมา
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เข้าเป็นผู้สนับสนุนหลักของการจัดการแข่งขันจอมบึงมาราธอนอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2544 จึงได้ใช้ชื่อการจัดการแข่งขันนี้ว่า “สสส.จอมบึงมาราธอน”
ถึงวันนี้จอมบึงมาราธอนไม่ใช่งานของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่เปรียบเสมือนงานวิ่งของมหาชน โดยมีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงเป็นแกนในการประสานงาน เพื่อสะท้อนผลงานของหมู่บ้านจอมบึงที่เป็น “งานประเพณีของชาวบ้านที่มีมาตรฐานสากล”
ผมขออนุญาตคัดลอกบทความที่เล่าถึงตำนานงานวิ่งจอมบึงมาราธอนมาให้อ่านกันพอสังเขป
ถือเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนที่ “สสส.จอมบึงมาราธอน” ครั้งที่ 33 จะระเบิดขึ้นใน เช้าวันอาทิตย์ที่ 21 มกราคมนี้
เรื่องคนสมัครเข้าร่วมวิ่งไม่ต้องพูดถึง เต็มล้นจำนวนไปตั้งนานสองนานแล้ว
ด้วยมนต์ขลังและเสน่ห์ในตัวเองที่สั่งสมมานานกว่า 3 ทศวรรษ
งานนี้ไม่จำเป็นต้องโปรโมตอะไรกันมากแล้วล่ะครับ!!!
บี บางปะกง