หน้าแรกแกลเลอรี่

'มวยไทย' วางเป้าชิงเหรียญใน อลป. 3 องค์กรเดินหน้าเต็มสูบ

ไทยรัฐออนไลน์

25 ธ.ค. 2560 20:30 น.

สามองค์กรระดับชาติวางแผนงานในระยะยาว เพื่อร่วมกันผลักดันกีฬา "มวยไทย" ให้ได้รับการบรรลุเข้าชิงชัยในโอลิมปิกโดยเร็วที่สุด...


วันที่ 25 ธ.ค.60 ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เผยว่า จากแผนดำเนินงานของรัฐบาลไทย ที่ให้ความสำคัญและสนใจในการผลักดันกีฬา “มวยไทย” เข้าสู่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้แต่งตั้งให้ นางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ เป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในฝ่ายต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้การประชุมดังกล่าว ประธานที่ประชุมเปิดโอกาสให้ผู้แทนสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ นำเสนอรายละเอียดทุกขั้นตอนของการขับเคลื่อนมวยไทยมาตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปี 2560 ซึ่งมวยไทยก้าวไปสู่ความสำเร็จในการเข้าสู่ขบวนการกีฬาสากลที่ประชาคมโลกให้การยอมรับอย่างกว้างขวาง

ขณะเดียวกันสมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ (GISF/SportAccord) และคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ก็มีมติให้การรับรองเมื่อปี 2549 และ 2559 ตามลำดับ ในรอบปี 2560 ที่ผ่านมามีกิจกรรมการแข่งขันหลายรายการ โดยเฉพาะในเกมระดับนานาชาติ อาทิ การแข่งขัน World Muaythai Championships ที่ประเทศเบลารุส, การแข่งขัน World Games ที่ประเทศโปแลนด์, การแข่งขัน Asian Indoor and Martial Arts Games ที่ประเทศเติร์กเมนิสถาน และการแข่งขัน World Youth Muaythai Championships ที่ประเทศไทย เป็นต้น

นอกจากนี้ ดร.ศักดิ์ชาย ยังกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามสาระและวัตถุประสงค์สำคัญของสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ ต้องการความช่วยเหลือในการผลักดันมวยไทยสู่โอลิมปิกเกมส์ในครั้งนี้ นอกจากความร่วมมือทุกๆ ด้านจากสถานทูตและกงสุลไทยแล้ว สหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (IFMA) ยังมีภารกิจในการดำเนินการมากมาย ซึ่งจะตามมาด้วยความจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน IFMA จำนวนมาก เพื่อสนองตอบความประสงค์ของประเทศสมาชิกโดยจะต้องประกอบไปด้วยบุคคลหลากหลายภาษา จึงขอรับการสนับสนุนในด้านวีซ่าเข้าเมืองสำหรับบุคคลที่มาทำงานให้กับ IFMA

ด้าน มร. สเตฟาน ฟ๊อกซ์ เลขาธิการสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ ได้พูดถึงปรากฏการณ์ในช่วงเวลาที่ผ่านมาด้วยว่า มีบุคคลหลายกลุ่มในประเทศที่จัดตั้งองค์กรมวยไทยขึ้นมา และมีการประชาสัมพันธ์ไปทั่วโลก ทำให้เกิดความสับสน จึงอยากขอความร่วมมือจากกระทรวงการต่างประเทศฯ ขอให้ทำงานร่วมกับองค์กรหรือสหพันธ์กีฬาที่ได้รับการรับรองจากโอลิมปิกเท่านั้น นอกจากนั้น การส่งเสริมมวยไทยในต่างประเทศขอให้ทูตและสถานทูตทุกแห่ง ได้ให้ความสำคัญในฐานะมวยไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ซึ่งสามารถผลักดันสู่โอลิมปิกเกมส์ได้

ขณะที่ประธานในที่ประชุม รับข้อเสนอของผู้แทนสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (IFMA) ไปพิจารณาเข้าสู่แผนนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีโครงการนำมรดกวัฒนธรรมมวยไทยไปเผยแพร่อยู่แล้ว โดยในปี 2561 มีโครงการจัดโชว์มวยไทยที่ประเทศหลายแห่ง โดยช่วงเวลาการเดินทางไปทำกิจกรรมจะให้สอดคล้องกับกิจกรรมการแข่งขันของสหพันธ์ในลักษณะทำงานร่วมกัน เกี่ยวกับการณรงค์สร้างกระแส การสนับสนุนจากพันธมิตรมวยไทยในประเทศต่างๆ จนสามารถขับเคลื่อนมวยไทยเข้าสู่โปรแกรมโอลิมปิกเกมส์นั้น

โดยประเด็นดังกล่าว จะต้องดำเนินการในระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยจะต้องขอความร่วมมือให้เอกอัครราชทูต และสถานทูตไทย มีบทบาทในกาประสานงานกับผู้แทนองค์กรมวยไทยในแต่ละประเทศ ผู้แทนระดับบริหารของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล และประเทศเจ้าภาพ โดยเฉพาะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยเรื่องนี้จะได้นำเสนอคณะผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศโดยเฉพาะสำนักปลัดกระทรวง เพื่อกำหนดเป็นนโยบายต่อไป.