หน้าแรกแกลเลอรี่

เจ็ตสกีไทยยังแรง! คว้าชัยเพิ่มอีก 2 รุ่น ในศึกชิงแชมป์โลก

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

9 ต.ค. 2560 11:00 น.

ทัพเจ็ตสกีไทยยังแรงเก็บชัยเพิ่มได้อีก 2 รุ่นในศึกเจ็ตสกี “เวิลด์ ไฟนอล 2017” จาก “เจ้าพูล” เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ เบิ้ลแชมป์อีกคน ในรุ่นหลักระดับโลกเจ็ตสกีนั่งอาชีพ 1,100 ซีซี ขณะที่ ธนภัทร ทิพย์ประไพ ได้แชมป์โลกแรกในชีวิตคว้าแชมป์รุ่นสลาลม ทำให้ตอนนี้ทัพไทยคว้าไปแล้ว 7 แชมป์โลก...

การแข่งขันเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก “เวิลด์ ไฟนอล 2017” ที่เมืองเลค ฮาวาซู ประเทศสหรัฐอเมริกา วันที่ 5 ของรอบชิงแชมป์โลก เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ตามเวลาที่สหรัฐอเมริกา ทัพเจ็ตสกีไทยมีลุ้นในรุ่นเจ็ตสกีนั่งอาชีพ 1,100 ซีซี 1 ในรุ่นหลักที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

ทีมชาติไทยส่งนักแข่งที่เพิ่งคว้าแชมป์โลกมาหมาดๆในทัวร์นาเมนต์นี้ทั้ง “เจ้าพูล” เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ ที่ได้แชมป์รุ่นเจ็ตสกีนั่งกึ่งอาชีพ 1,100 ซีซี กับ “โอปอ” ธภัทรวัฒน์ โจสรรค์นุสนธิ์ ที่ได้มาแล้ว 2 แชมป์โลกก่อนหน้านี้ ลงสู้กับนักแข่งอเมริกันที่แห่ลงลุ้นแชมป์ถึง 4 คน

ผลปรากฏว่า เป็นคราวของเพิ่มพลที่เบิ้ลตำแหน่ง แชมป์โลกให้ตัวเองบ้างหลังออกนำอันดับ 1 ก่อนจะเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ทั้งสองโมโตแบบไม่มีปัญหาคว้าแชมป์รุ่นนี้ให้ตัวเองเป็นรุ่นที่ 2 ในเวิลด์ ไฟนอล 2017 และเป็นแชมป์โลกที่ 6 ของทีมชาติไทย

อันดับ 2 เป็นของเอริก ลาโกปูลอส นักแข่งจากฟลอริดา สหรัฐฯ ที่เข้าอันดับ 2 ทั้งสองโมโตเช่นกัน ส่วน “โอปอ” ธภัทรวัฒน์ ยังคว้ารางวัลให้ตัวเองได้อีกรางวัลด้วยการเป็นอันดับ 3

ขณะที่แชมป์โลกที่ 7 ของทีมชาติไทยในคราวนี้มาจากประเภทเรือนั่ง สปอร์ต จีพี สลาลมที่นักแข่งไทยเหมารางวัลทั้งอันดับ 1-3 แชมป์โลกเป็นแชมป์หน้าใหม่ของไทยอีกคนคือ ธนภัทร ทิพย์ประไพ รองแชมป์เป็นของสุภัค เสร็จธุระ และอันดับ 3 “โอปอ” ธภัทรวัฒน์

จึงเป็นที่น่ายินดีสำหรับเจ็ตสกีทีมชาติไทยที่ในปีนี้มีแชมป์โลกหน้าใหม่ทั้ง เพิ่มพล, ธภัทรวัฒน์ และสุภทัต ที่เพิ่งเคยได้แชมป์โลกเป็นครั้งแรกในชีวิตต่างคว้าแชมป์ได้คนละ 2 แชมป์โลกไปแล้ว ส่วนธนภัทรที่ถือว่าเป็นดาวรุ่งก็ยังประสบความสำเร็จในปีนี้เช่นกัน

สรุปผลงานศึก “เวิลด์ ไฟนอล 2017” รอบชิงแชมป์โลกหลังผ่านไป 5 วัน ทัพเจ็ตสกีไทยทำผลงานคว้าไปแล้ว 7 แชมป์โลก กับอีก 8 รองแชมป์โลก และอีก 5 ตำแหน่งอันดับ 3 ยังมีโอกาสลุ้นแชมป์ถ้วยคะแนนรวมเพื่อกลับมาเป็นทัพเจ็ตสกีเบอร์ 1 ของโลกได้จนถึงการแข่งขันวันสุดท้ายวันที่ 8 ต.ค. ตามเวลาสหรัฐฯ.