ไทยรัฐฉบับพิมพ์
"ฟอนซ่า" เตือนวงการกีฬาไทย หากไม่เร่งถีบมาตรฐานให้สูงขึ้นกว่าเดิม คาดภายใน 10 ถูกชาติอาเซียนแซงแน่ หลังทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทสมาเลเซีย...
“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานสหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ (ฟอนซ่า) เปิดเผยว่า ตามที่ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ทัพนักกีฬาไทยคว้ามาได้ 72 เหรียญทอง 86 เหรียญเงิน และ 88 เหรียญทองแดง โดยสื่อมวลชนไทยได้ประเมินว่ามีถึง 23 สมาคมกีฬาที่ทำผลงานได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ถือเป็นการบ้านครั้งสำคัญของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบด้านการกีฬาของไทยจะต้องเร่งเครื่องพัฒนาศักยภาพให้ก้าวหน้ามากขึ้น
รวมทั้งต้องมาหารือกันในมนตรีซีเกมส์เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการจัดแข่งขันซีเกมส์ ที่ต้องการพัฒนานักกีฬาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เพื่อไปสู่การแข่งขันเอเชียนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์ ควรจะต้องทบทวนยึดตามหลักการดังกล่าว แต่ปัจจุบันกลับมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ทุกอย่างผิดวัตถุประสงค์ไปมาก ซึ่งตนในฐานะที่เป็นรองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ก็จะนำเรื่องนี้มาหารือร่วมกันอีกครั้งด้วยเช่นกัน
ประธานฟอนซ่ากล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีปัญหาในเรื่องของงบประมาณที่เข้ามาสนับสนุนสมาคมกีฬา ยกตัวอย่างเช่น ยิมนาสติก ต้องใช้งบประมาณ 26 ล้านบาทในการจัดซื้ออุปกรณ์และดำเนินการจัดแข่งขันยิมนาสติกชิงแชมป์เอเชีย ทั้งประเภทเยาวชนและประชาชน เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันยังไม่ได้รับเงินดังกล่าวจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ทำให้ไม่สามารถใช้งบประมาณได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างที่ควรจะเป็นในการสนับสนุนนักกีฬาชุดซีเกมส์
ทั้งนี้ ตนอยากจะฝากให้ กกท.ให้ความสำคัญกับสมาคมกีฬาให้มากกว่านี้ เพราะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างนักกีฬา และสิ่งสำคัญอีกเรื่องคือการสร้างขวัญกำลังใจให้นักกีฬา ควรจะต้องมีการบรรจุงานข้าราชการให้กับนักกีฬาที่สร้างผลงานดีด้วย ตนทราบมาว่านักกีฬาบางคนคว้าเหรียญรางวัลได้หลายสมัย แต่ปัจจุบันยังไม่มีงานทำเลย ซึ่งเรื่องนี้ตนได้พยายามผลักดันมาโดยตลอด แต่ไม่ได้รับการตอบสนองที่ดีเท่าที่ควร จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักกีฬาขาดกำลังใจ
พล.ต.อินทรัตน์กล่าวต่อว่า หากมองถึงการพัฒนานักกีฬาของชาติอื่นๆในอาเซียนต้องถือว่ามีพัฒนาการที่น่ากลัว ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์, เวียดนาม, มาเลเซีย ส่วนตัวมองว่าหากประเทศไทยยังไม่เร่งเครื่องพัฒนา เชื่อว่าอีกไม่เกิน 10 ปีจะต้องโดนชาติในอาเซียนแซงหน้าแน่นอน.