เบี้ยหงาย
มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ที่แดนเสือเหลือง ประเทศมาเลเซีย กำลังดำเนินไปเรื่อยๆ จะบอกว่าคึกคักก็ไม่ใช่ สนุกสนานก็ไม่เชิง แต่ที่แน่ๆทัพนัก กีฬาไทยออกจะดูกีฬาที่ออกมา มีทั้งประสบความสำเร็จ มีทั้งล้มเหลว
แต่ภาพรวมๆนั้น ต้องบอกกันตรงๆว่า ต่ำกว่าเป้า หรือความคาดหมายไปเยอะ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ต้องไปผนวกปะปนกับบรรยากาศของการถูกเอารัดเอาเปรียบในแง่มุมต่างๆ ซึ่งก็มีการคาดกันไว้ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว
ในช่วงของการแข่งขันอย่างเป็นทางการที่ผ่านมา 1 สัปดาห์ ระดับนายกรัฐมนตรี “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาพูดถึงอย่างจริงจังถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเริ่มแข่งไม่เท่าไหร่ ท่านก็ออกอาการไม่ค่อยจะพอใจถึงผลงานนัก เปรยถึงขั้นขู่ตัดเงินอุดหนุน หรือคาดโทษเปลี่ยนแปลงผู้บริหารกันเลยทีเดียว มีการกำชับทาง ก.การท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งก็ผ่านต่อมายัง กกท. และ “บิ๊กเสือ” ผู้ว่าการ กกท. สกล วรรณพงษ์ รับลูก โดยจะมีการทำรายงานให้รัฐบาลทราบ สรุปผลทบทวนว่ามีชนิดกีฬาใดบ้างที่ประสบความสำเร็จและจะมีแนวทางพัฒนาต่อยอดไปอีก ระดับอย่างไร มีชนิดกีฬาใดบ้างที่ไม่พัฒนา ล้มเหลว มุ่งไปถึงการเปลี่ยนแปลงทีมงานบริหารสมาคมเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ดีกว่านี้
ถัดมาวันก่อน โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ก็มีการแถลงและยกคำของท่านนายกฯประยุทธ์ ซึ่งให้กำลังใจ สะท้อนออกมาถึงท่าทีที่อ่อนลง ไม่ได้โกรธเกรี้ยวอะไร พร้อมระบุว่าหลังจากจบการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้แล้ว สั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไปหาแนวทางพัฒนางานของสมาคมกีฬา ประเภทต่างๆให้ดีขึ้น
นั่นแสดงถึงการให้ความสำคัญ และจับกระแสกับซีเกมส์ ซึ่งก็ต้องดูว่าท้ายที่สุดรายงานของ กกท. ที่ทำสรุปไปให้นายกรัฐมนตรีนั้น จะออกมาเช่นไร ครอบคลุมถึงอะไรบ้าง และจะชี้ชัดลงไปได้ชัดเจนขนาดไหน
แน่นอน ผลงานที่ออกมา ย่อมต้องมีทั้งนักกีฬา และโค้ช ผู้ลงไปทำหน้าที่โดยตรง และทัพหลังที่คอยสนับสนุน ช่วยเหลือ และเกี่ยวข้องกับการส่งนักกีฬาไปแข่งขัน
ไม่ว่าจะเป็นสมาคมกีฬา ที่เป็นต้นสังกัดของกีฬานั้นๆ ได้ทำงานอย่างมีศักยภาพแค่ไหน
หรือจะเป็นองค์กร ทั้งคณะกรรมการโอลิมปิก ซึ่งมีบทบาทในการส่งนักกีฬาแข่งขัน และใช้เงินรัฐในการดำเนินการ จะตีกรอบแค่ “ส่ง” หรือต้องมีความรับผิดชอบในหน้าที่ประสาน อำนวยการ และรวมถึงปกป้องผลประโยชน์ของนักกีฬาไทย ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ อันมีบทบาททั้งในมุมของสหพันธ์ซีเกมส์ และส่งคนเป็นมนตรีซีเกมส์ มีการยอมให้เจ้าภาพเกินไปรึเปล่า!
หรือสหพันธ์กีฬา ที่สมาคมกีฬาแต่ละแห่งเป็นสมาชิกอยู่ ได้ใช้ช่องทางนี้ปกป้องไม่ให้เกิดความอยุติธรรมได้แค่ไหน ผู้บริหารสมาคมกีฬามีศักยภาพเพียงไร หรือเป็นแค่สมาชิกที่ไม่มีปากเสียง
รวมทั้งการกีฬา หรือกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเอง ที่ต้องใช้การบริหารงบประมาณเพื่อก่อให้เกิดความสำเร็จในด้านกีฬา มีประสิทธิภาพแค่ไหน
ว่าไปแล้ว ยุคนี้คนรอบๆข้างในรัฐบาล ก็ขยายวงเข้ามาครอบคลุมวงการกีฬาไม่น้อย หรือแม้กระทั่งประธานโอลิมปิก ก็เป็นรองนายกฯ คนกีฬาก็เป็น สนช. มีตำแหน่งเป็นอะไรมากมาย เจ้ากระทรวงกีฬา ก็เป็นรัฐมนตรีที่แนบแน่น
ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ จะมีในรายงานหรือไม่...
“เบี้ยหงาย”