บี บางปะกง
ฟุตซอลโลกครั้งสุดท้าย...ของ “บิ๊กป๋อม”
จับฉลากแบ่งสายกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับศึกฟุตซอลโลก 2024 รอบสุดท้าย (2024 FIFA Futsal World Cup)
ซึ่งจะจัดขึ้น ที่ประเทศอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 14 กันยายน-6 ตุลาคม 2567 นี้
โดย แข้งโต๊ะเล็กทีมชาติไทย ที่ตีตั๋วลุยฟุตซอลเวิลด์คัพ อย่างต่อเนื่องเป็นสมัยที่ 7 ติดต่อกันเข้าให้แล้ว
จับติ้วไปอยู่ กลุ่มบี ร่วมกับ บราซิล แชมป์โลก 5 สมัย คิวบา จากโซนคอนคาเคฟ และ โครเอเชีย ทีมแกร่งจากยุโรป
โดยโปรแกรมฟาดเกือกของ ทีมฟุตซอลไทย มีดังนี้
14 กันยายน 2567 ประเดิมสนามกับ โครเอเชีย
17 กันยายน 2567 เจอกับ คิวบา
และ 20 กันยายน 2567 พบกับ บราซิล
ซึ่ง ทีมแชมป์กลุ่ม, รองแชมป์ และอันดับที่ 3 ที่ดีที่สุด 4 จาก 6 กลุ่ม จะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป
โดยการแบ่งสายที่ออกมา สำหรับผมมองว่าโอเคแล้วครับ ไม่ยาก ไม่ง่าย จนเกินไป สำหรับการลุ้นเข้ารอบ
อย่างน้อย การที่เราไม่ต้องเจอกับทีมจากโซนยุโรปถึง 2 ทีมก็ค่อยยังชั่วหน่อย
ทีมโถ 1 ที่เป็นเต็งแชมป์ อย่าง บราซิล ก็คงต้องปล่อยเขาไป
แล้วไปบดกับ โครเอเชีย และ คิวบา ซึ่งอันดับโลกต่ำกว่าเราก็จริง
แต่งานนี้จะประมาทไม่ได้เด็ดขาด!
เพราะทุกชาติ ที่ผ่านเข้ามาเป็น 24 ทีมสุดท้ายในฟุตซอลโลกได้ ล้วนแต่แข็งแกร่งไม่ธรรมดาทั้งนั้น
บางทีแค่เกมแมตช์แรกกับ คิวบา ก็พอจะชี้อนาคตได้แล้ว ว่าเราจะเป็นอย่างไร? ในฟุตซอลเวิลด์คัพหนนี้
ซึ่งในส่วนของการเตรียมทีมไปบู๊ศึกใหญ่ที่อุซเบกิสถานในอีก 3 เดือนครึ่งข้างหน้านั้น
วันก่อนผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์ “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ประธานพัฒนาฟุตซอลของเมืองไทย
ผ่านรายการ “คนกีฬาถาม หมอสนามตอบ” ทางเพจเฟซบุ๊ก BPChannel 2024
“บิ๊กป๋อม” บอกว่าสายที่จับออกมานับเป็นความท้าทายอย่างมากของทีมชาติไทยในฟุตซอลโลกคราวนี้
เราต้องเจอกับคู่แข่ง 3 ชาติ จาก 3 โซน ทั้ง อเมริกาใต้ ยุโรป และ คอนคาเคฟ (อเมริกากลาง)
ทำให้ต้องวางแผนเตรียมทีมให้พร้อมมากที่สุด
โดยเฉพาะการหาคู่อุ่นเครื่องจาก 3 ทวืป ที่มีสไตล์ใกล้เคียงกับ 3 ชาติที่เราต้องเจอ ถือว่าสำคัญยิ่ง
ซึ่งภายหลังการแบ่งสายตนได้ดำเนินการติดต่อทันที
ไม่ว่าจะเป็น ปารากวัย จากละตินอเมริกา, อิหร่าน แชมป์เอเชีย, ฟินแลนด์ และ เซอร์เบีย จากยุโรปที่มีสไตล์คล้าย โครเอเชีย
รวมไปถึง กัวเตมาลา กับ คอสตาริกา จากอเมริกากลาง ซึ่งฟอร์มการเล่นใกล้เคียงกับ คิวบา
โดยจะจัดเป็นทัวร์นาเมนต์ลับแข้งแบบภาคพื้นทวีป 6-8 ทีมมาเจอกัน ก่อนฟุตซอลโลก ที่เราจะใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์ในการเตรียมทีม
ขณะเดียวกันก็จะหารือกับ นายกสมาคมลูกหนัง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ เพื่อขออนุญาตพาทีมไปอุซเบกิสถานล่วงหน้า ก่อนแข่งอย่างน้อย 5 วัน
เพื่อที่จะมีเวลาปรับตัว และได้อุ่นเครื่องกับชาติที่มาเตะฟุตซอลโลกเหมือนกัน อีกสัก 1 แมตช์
ส่วนเรื่องการต่อสัญญากับโค้ชมิเกล โรดริโก ที่เวลานี้บินกลับสเปนไปสะสางภารกิจต่างๆ ที่คั่งค้างอยู่ให้เสร็จสิ้น
จากนั้นจะบินมาคุมทัพฟุตซอลไทยอีกครั้ง ตั้งแต่เดือน ก.ค. โดยจะทำสัญญากับเราอีก 6 เดือน
เพื่อสู้ศึกฟุตซอลโลก และเอเชี่ยนอินดอร์ มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดในช่วงปลายปี
ก่อนที่ มิเกล จะวางมือเลิกคุมทีมอย่างเป็นทางการ
ขณะเดียวกัน “บิ๊กป๋อม” ก็ได้เผยด้วยว่า การคุมทัพทีมฟุตซอลชาติไทยในครั้งนี้
ก็จะทำภารกิจให้ดีที่สุด เหมือนกับที่เคยทุ่มเททำงานหนักมาตลอดกับฟุตซอลไทย
ตั้งแต่ปี 2000 หรือเกือบ 25 ปีที่ผ่านมา
เพราะปีนี้ตัวเองก็อายุ 62 ปีแล้ว
ก็น่าจะถึงเวลาเสียที ที่จะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามารับผิดชอบงานแทน
และ ฟุตซอลเวิลด์คัพ 2024 ที่อุซเบกิสถาน
จะเป็น “ฟุตซอลโลก” ครั้งสุดท้าย ของคนชื่อ “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ
เอกบุรุษผู้เกิดมาเพื่อวงการโต๊ะเล็กไทย...โดยแท้ !!!
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com