โจโจ้
เห็นผลงานของ “ช้างศึกโต๊ะเล็ก” ฟุตซอลทีมชาติไทย ในการแข่งขัน “เอเชียนคัพ 2024” ที่เพิ่งปิดฉากลงไป ถึงกับปลื้ม
แม้จะไปไม่ถึงแชมป์ได้เพียงพระรองก็ตาม แต่การทะยานเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ถือเป็นความสุดยอดแล้ว
ส่วนรอบชิงฯเชื่อว่าหลายคนคิดเหมือนกัน การพ่ายแพ้ต่อแชมป์เก่า 12 สมัย อย่าง “อิหร่าน” ไม่ใช่เรื่องที่น่าเสียหายแต่อย่างใด เพราะในรอบก่อนหน้าที่ช้างศึกโต๊ะเล็กแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันเปี่ยมล้นก่อนที่จะมาถึงรอบชิงฯ ตรงข้ามหากล้มยักษ์ลงได้ถือเป็นผลกำไรที่คุ้มด้วยซ้ำไป
อย่างน้อยสิ่งที่นักเตะทุกคนจะได้รับคือประสบ การณ์อันล้ำค่าก่อนลุยงานใหญ่ “เวิลด์คัพ”
ยิ่งอันดับโลกของฟุตซอลทีมชาติไทย ในการ ประกาศล่าสุดของ “ฟีฟ่า” ที่มีการจัดอันดับเป็นครั้งแรกทีมไทยทะยานติดชาร์จเบอร์ 9 ของโลกและเบอร์ 2 เอเชีย โดยก่อนหน้านี้เป็นการจัดอันดับ จาก “ฟุตซอลแรงกิ้ง”
ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีและเป็นขวัญกำลังใจอย่างมากก่อนที่จะลงทำศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2024 ระหว่าง 14 ก.ย.-8 ต.ค. ที่อุซเบกิสถาน
บอกเลยการเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพหนนี้ถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก นอกจากประสบความสำเร็จในเรื่องผลงานของทีมไทยแล้วในด้านจัดการแข่งขัน ก็ดีไปด้วยจนได้รับคำชมจากทางฟีฟ่า
สิ่งสำคัญต่อจากนี้คือการลุ้นต่อสัญญากับ “มิเกล โรดริโก” ยอดกุนซือไทยชาวสเปน ที่นับเป็นบุคคลสำคัญที่มีส่วนทำให้ทีมไทยก้าวเดินตามฝัน ที่วางไว้
ส่วนใครจะรับหน้าที่เป็นคนเป่าคาถากล่อมให้ “มิเกล” อยู่ต่อกับทีมโต๊ะเล็กไทย “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ และ “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ เท่านั้นที่จะรู้ดีที่สุด
หากได้ต่อสัญญากับ “มิเกล” เชื่อว่าผลงาน ของไทยจะเดินหน้า แต่ถ้าเปลี่ยนโค้ชที่ไม่ใช่ “มิเกล” อาจตัวใครตัวมัน
ยังมีเวลาพอสำหรับการเตรียมความพร้อมให้ทีมฟุตซอลไทยมีความสมบูรณ์แบบมากที่สุดเพื่อผลงานในเวิลด์คัพ
ตอนนี้ทุกอย่างกำลังเดินตามเส้นทางที่วางไว้ เหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะถึงเวิลด์คัพ ที่จะเป็นด่าน พิสูจน์ศักยภาพของทีมโต๊ะเล็กไทยอย่างแท้จริงว่าเจ๋งจริงแค่ไหน
อย่างน้อยต้องเท่าเดิม ผลงานจะแย่กว่าครั้ง ที่ผ่านมาไม่ได้.
โจโจ้